สังคม

รวบสองผัวเมียรับจ้างเปิดบัญชีม้า ค่าจ้าง 2 พันเอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์

โดย taweelap_b

18 ก.ย. 2565

513 views

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.จักรี กันธิยะ สว.กก.1 บก.ป, ร.ต.อ.เกียรติบดินทร์ วงค์งาม และคณะร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ดังต่อไปนี้


1.นายวิษณุ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 294/2565 ลง 29 ส.ค.65 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือด้วยประการ ปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน โดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”


2.น.ส.พรไพลิน (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 352/2565 ลง 14 ก.ย.65 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”


สถานที่และวันเวลาที่จับกุม บริเวณตลาดนัดหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ม.10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ในวันที่ 16 ก.ย. 65 เวลาประมาณ 21.00 น. พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ เมื่อประมาณกลางปี 65 ขณะที่นายวิษณุ และน.ส.พรไพลิน คู่สามีภรรยา อยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ต.หนองแวง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ได้มี น.ส.อรยา (สงวนนามสกุล) ติดต่อว่าจ้างให้ทั้งคู่เปิดบัญชีธนาคาร ซึ่ง น.ส.อรยา จะให้เงินบัญชีละ 2,000 บาท อ้างว่าจะนำบัญชีธนาคารไปให้นายทุนใหญ่ที่อยู่ประเทศกัมพูชาทำธุรกิจ พร้อมกับรับรองว่าจะไม่มีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน จากนั้นนายวิษณุ และ น.ส.พรไพลิน จึงไปเปิดบัญชีธนาคารให้กับ น.ส.อรยา และรับเงินค่าจ้างคนละ 2,000 บาท


จากนั้นนายวิษณุ และน.ส.พรไพลิน ก็ไม่เคยพบเจอกับ น.ส.อรยา อีกเลย ก่อนที่น.ส.อรยา จะได้นำบัญชีธนาคารดังกล่าวไปให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ก่อเหตุอาชญากรรมในโลกออนไลน์หลายรูปแบบ เช่น การหลอกลวงซื้อขายของ, การหลอกลงทุนแชร์ออนไลน์ แชร์ลูกโซ่, การหลอกรักออนไลน์ (Romance Scam), การหลอกรักร่วมลงทุน (Hybrid Scam) รวมไปถึงการพนันออนไลน์ การซื้อขายสิ่งของผิดกฎหมายในโลกออนไลน์ ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมที่ประชาชนตกเป็นเหยื่อและได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และมีผู้เสียหายหลายสิบรายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับทั้งคู่เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย


กระทั่งวันที่ 16 ก.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ จว.ปราจีนบุรี ได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่า นายวิษณุ และน.ส.พรไพลิน ผู้ต้องหาได้หลบหนีคดีและมาอยู่บริเวณตลาดนัด หน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ม.10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงออกตรวจสอบจนพบทั้งคู่ ยืนอยู่บริเวณภายในตลาดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตัวและแสดงหมายจับให้ นายวิษณุ และน.ส.พรไพลิน ทราบ และจับกุมตัวนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วน น.ส.อรยา ซึ่งเป็นคนรวบรวมบัญชีม้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป


ทั้งนี้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าคำให้การของผู้ต้องหาเบื้องต้น นายวิษณุ และ น.ส.พรไพลิน ให้การปฏิบัติว่าไม่ใช่สมาชิกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และไม่ได้หลอกลวงผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่นายวิษณุ และน.ส.พรไพลิน ยอมรับว่าช่วยกันเป็นคนรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้กับ น.ส.อรยา ได้รับค่าจ้างบัญชีละ 2,000 บาท


นอกจากนี้ สอบสวนกลาง ขอเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชน ที่มีพฤติกรรมรับจ้างเปิดบัญชี หรือขายบัญชีธนาคารให้กับบุคคลอื่น ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว และรีบไปติดต่อกับธนาคารเพื่อขอปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อหยุดวงจรการฉ้อโกงออนไลน์และความผิดอื่นที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ และหากพบว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด และท่านรู้ถึงพฤติกรรมดังกล่าว แต่ยังยินยอมให้มิจฉาชีพนำบัญชีของท่านไปใช้ในการกระทำความผิด ท่านอาจถูกดำเนินคดี ดังต่อไปนี้


​1.ในฐานะตัวการร่วมในการกระทำความผิด ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83


​2.ผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วน ของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86


​3.ความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542


อย่างไรก็ตาม ​หากพี่น้องประชาชนพบเห็นคนบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์รับจ้างเปิดบัญชี หรือขายบัญชีธนาคารให้กับบุคคลอื่น สามารถแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

คุณอาจสนใจ

Related News