สังคม

'ส.ว.ธานี' แจง 'ส.ต.ท.หญิงโหด' แค่คนเคยสนิท ยันไม่เคยใช้ตำแหน่งช่วยบรรจุตำรวจ

โดย nattachat_c

1 ก.ย. 2565

11 views

จากกรณี ส.ต.ท.หญิง ซึ่งอ้างว่าเป็นภรรยาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ชื่อดังรายหนึ่ง ทำร้ายร่างกายทารุณอดีตทหารหญิง 


วานนี้ (31 ส.ค. 65) นายธีรัจชัย พันธุมาศ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า


จากกระแสสังคมพบว่ามีกรณีฝากเข้าราชการแลกกับการเป็นทำงานเป็นคนรับใช้ จนเกิดเหตุทำร้ายร่างกาย และมีการกล่าวอ้างว่าเป็นภรรยาสมาชิกวุฒิสภา และเกี่ยวข้องกับนายพลทั้งทหารและตำรวจ


คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พล.ต.อ. เสรีพิสุทธ์ เตมียเวช ประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาฯ ได้กำชับให้ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่เฉพาะกรณีทำร้ายร่างกาย แต่ไปถึงโครงสร้างตำรวจและทหาร ที่แต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง อายุเกิน พร้อมกับการแต่งตั้งชื่อแต่ไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่จริง


ต่อมาพบว่า ปรากฏชื่อของ ส.ว. และ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งชื่อนั้นตรงกับผู้ดำรงตำแหน่ง อดีต สนช. และเป็นกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สนช. ที่เกี่ยวข้องกับคดีกับ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส กระทิงแดง จนต่อมามีคำสั่งแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการฯ ลงชื่อโดย พลเรือเอก ศิษฐวัชร์ วงษ์สุวรรณ


“กระบวนการสองเรื่องนี้เกี่ยวกับคนในกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เราจะต้องทำความจริงให้ปรากฏ ไม่ควรเกิดระบบอุปถัมภ์ เด็กฝากแบบนี้ อีกต่อไป” นายธีรัจชัย กล่าว พร้อมยืนยันว่าจะขอเอกสารเพิ่มเติม โดยมีรายชื่อบุคคลที่จะเชิญ ได้แก่


1. นายธานี อ่อนละเอียด ส.ว. และอดีตกรรมาธิการการกฎหมายฯ สนช. ซี่งปรากฏชื่อบนป้ายที่วัด

2. พลเรือเอก ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ลงชื่อแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ เป็นที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมายฯ สนช.

3. พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตกรรมาธิการการกฎหมายฯ สนช


นายธีรัจชัย กล่าวยืนยันว่า เราไม่ได้บอกว่ารายชื่อเหล่านี้ถูกหรือผิด เพียงแต่ให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร จะมาหรือไม่ก็แล้วแต่ ยืนยันมีหลักฐานเป็นเอกสารอยู่แล้ว ส่วนกรณีข้อครหาว่าเป็นชู้สาวหรือไม่นั้น สังคมคิดเองได้ ไม่ต้องมาแถลงหรือมีใครบอกอีก


บัญชีรายชื่อบุคคลที่จะเชิญมาชี้แจงในคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาฯ มีจำนวน 20 กว่าคน โดยจะเชิญ ส.ต.หญิง ปัทมา ศิริรัตน์ ผู้เสียหายมาก่อนในวันที่ 8 ก.ย. 65 ยืนยันว่า กรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาฯ สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด ทั้งความรับผิดชอบทางการเมือง และความรับผิดชอบทางกฎหมาย เช่น การแต่งตั้งโดยมิชอบ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะรายงานให้ประชาชนทราบผ่านสื่อมวลชนต่อไป

--------------

นายรังสิมันต์ โรม ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า


เราเปิดโอกาสให้พิสูจน์ตัวเอง แต่เราไม่เห็นกระบวนการแก้ไขปัญหาจากทั้งทหารและตำรวจเลย ทั้งบัญชีผีและการใช้เส้นสาย ขณะที่ ส.ว. เป็นกรณีหนึ่งที่ปรากฏว่ามีเด็กฝาก หนำซ้ำยังเป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาวิกฤตในประเทศไทย ดังนั้น ถ้าไม่ทลายระบบเด็กฝาก เด็กเส้น ประเทศไทยจะไม่มีอนาคตที่สดใสได้ พรรคก้าวไกลจึงให้ความสำคัญกับกรณีเด็กฝากในลักษณะนี้


นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า กรรมาธิการการกฎหมายฯ สภาฯ จะดำเนินการตรวจสอบ ดังนี้

1. บันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ สนช. ในการแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ เป็นที่ปรึกษา

2. บัญชีรายชื่อผู้ช่วยดำเนินงาน ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ชำนาญการของ ส.ว.


“กรณีนี้เป็นกรณีที่นิ่งเฉยไม่ได้ เราให้โอกาสผู้มีอำนาจเข้ามาแก้ไขในกรณีนี้ ท่านเคยแถลงว่าจะไม่ยอมให้มีเด็กเส้นเด็กฝาก แต่ผ่านมา 8 ปี ต้องยอมรับว่าท่านล้มเหลว พรรคก้าวไกลจึงจะใช้โอกาสนี้ทลายรังบัญชีผีต่อไป” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา การตั้งที่ปรึกษา หรือคณะทำงาน เข้ามาช่วยในกรรมาธิการ มักจะเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ หรือเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และมีคุณวุฒิ แต่ยังไม่เคยมีผู้แต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติต่ำกว่า หรือเทียบเท่าวุฒิ ปวส. เข้ามาเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ โดยประเด็นนี้ยังต้องไปตรวจสอบว่ากรรมาธิการกฎหมายฯ คณะนี้ จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านบัญชีมาทำหน้าที่หรือไม่ และ ส.ต.ท.หญิง ท่านนี้ ได้ใช้ความรู้ด้านบัญชีทำงานในกรรมาธิการแล้วหรือยัง
---------------

วานนี้ (31 ส.ค. 65) พล.ต.ต.อุดร วงษ์ชื่น ผบก.ส.1 ลงนามในคำสั่งกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ที่ 199/2565 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2565 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ใจความว่า


เนื่องจาก ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ต้องหาคดีอาญา โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี มีพยานหลักฐานเพียงพอในการแจ้งข้อกล่าวหา เรื่องค้ามนุษย์ฯบังใช้แรงงานหรือบริการ และเอาคนลงเป็นทาส, ประทุษร้ายต่อร่างกายและจิตใจฯ เหตุเกิดบ้านเลขที่ 128/6 หมู่ 4 ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ระหว่าง 5 ม.ค. 2564- 13 ส.ค. 2565


อันเป็นกรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีเหตุให้พักราชการได้ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 3(1)(2) หากให้อยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดการเสียหายฯ พิจารณาแล้วการสอบสวนพิจารณาคดีจะไม่เสร็จสิ้นโดยเร็ว

------------

วานนี้ (31 ส.ค. 65) นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ออกเอกสารชี้แจงกรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือหญิงสาวเข้ารับราชการตำรวจว่า ได้ประกอบอาชีพทนายความตั้งแต่ ปี 2521 สถานะโสด ได้หย่าร้างมาเกือบ 30 ปีแล้ว


กรณีที่ปรากฎเป็นข่าวมีการทำร้ายร่างกายกันของผู้หญิงสองคน มีการดำเนินคดีกันที่ศาลจัดหวัดราชบุรี ข่าวดังกล่าวเป็นข้อพิพาทของบุคคล 2 คน ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นเป็นใจต่อการกระทำดังกล่าว ตนเคยรู้จัก และเคยสนิทสนมกับตำรวจหญิงตามที่เป็นข่าว แต่ได้ขาดการติดต่อกันมานานแล้ว เพิ่งทราบจากสื่อว่า ปัจจุบันว่าตำรวจหญิงคบหากับชายที่ปรากฎในข่าว


ดังนั้น การเสนอข่าวใด ๆ สื่อควรจะคำนึงถึง สิทธิ เสรีภาพของสตรี และควรคำนึงถึงเส้นแบ่งไม่เข้าไปก้าวล่วงเรื่องส่วนตัวของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ ผลที่เกิดขึ้นจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนต่าง ๆ และคำกล่าวอ้างที่หาตนใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิขอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหลายสถาบันหลายองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถาบันวุฒิสภา คงต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบจริยธรรมของวุฒิสภาและคณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่


ตนพร้อมแสดงข้อเท็จจริงต่อกระบวนการตรวจสอบ หากคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรมของทั้งสองหน่วยงานมีมติประการใด พร้อมน้อมรับคำวินิจฉัยนั้น สื่อมวลขนต่างๆคงจะทราบถึงข้อเท็จจริงและผลการวินิจฉัย และกระบวนการสอบสวนเช่นนี้ใช้ระยะเวลาไม่นาน


นายธานีระบุว่า ไม่ได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบตามข้อกล่าวหา หน่วยงานดังกล่าวล้วนแต่มีระเบียบข้อบังคับในการแต่งตั้ง โยกย้าย


สื่อมักจะเสนอข่าวในทางเสียหายเกี่ยวกับคดี บอส อยู่วิทยา ขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า เรื่องคดี บอส อยู่วิทยา เป็นเรื่องการร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการสมัย สนข. เรื่องร้องเรียนครบตามองค์ประกอบของการร้องเรียน คณะกรรมาธิการก็ต้องรับเรื่องไว้พิจารณาดำเนินการ สอบหาข้อเท็จจริงและสรุปเรื่องราว เพื่อส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่


เมื่อส่งไปแล้วปรากฏว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วแจ้งว่า ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ย่อมเป็นที่ยุติ ขอเน้นย้ำว่าหลังจากนั้นคณะกรรมาธิการไม่ได้เข้าไปเกี่ยวแต่อย่างใด

------------------------

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาเกี่ยวข้องกับสิบตำรวจโทหญิงทำร้ายร่างกายทหารรับใช้ ว่า มีคนมาร้องแล้ว 2 ราย จากการตรวจสอบคำร้องเป็นการตัดข่าวจากสื่อมวลชนมาแปะ โดยไม่ได้ระบุว่าส.ว. คือใคร รวมถึงต้องมีการสอบถามว่าทราบข้อมูลจากที่ไหน รู้รายละเอียดอย่างไร ทั้งนี้แม้ว่าป.ป.ช. ตามกฎหมายจะมีหน้าที่ตรวจสอบ หากข้อมูลที่ไม่เพียงพอ ไม่ชัดเจนก็ไม่สามารถลงไปตรวจสอบได้



ดังนั้นต้องไปดูว่าถ้าส.ว. มีการฝากหน่วยงาน เช่น สตช. ฝากบุคคลเขาไปบรรจุเป็นราชการ ต้องดูว่าส.ว. มีอำนาจหน้าที่อย่างไร ถ้าไม่เกี่ยวข้อกับการแต่งตั้ง มีต้องดูเรื่องจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ว่าผิดหรือไม่ และหากผิดร้ายแรงก็เป็นหน้าที่ส่งศาลฎีกาถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่ถ้าไม่ใช่ผิดร้ายแรงก็เป็นหน้าที่ของสภา และอีกประเด็นบุคคลดังกล่าวเข้ามาได้เป็นอย่างไร ซึ่งทางตำรวจกำลังตรวจสอบ ถ้าดำเนินการไม่ถูกต้องสามารถเอาผิดกับผู้ปฏิบัติได้เหมือนกัน


ทั้งนี้ มีการเสนอข่าวและเปิดชื่อส.ว. ออกมาแล้ว จะเรียกมาสอบหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริง ไปถามเจ้าอาวาสยังไม่รู้จักเลย เรายังไม่ปรักปรำใคร แต่หากเกี่ยวข้องก็สามารถเรียกมาตรวจสอบได้ ทั้งนี้จะต้องดำเนินการเพราะเป็นเรื่องที่สาธารณะชนสนใจ


เมื่อถามว่ากรอบระยะเวลาที่จะใช้ดำเนินการตรวจสอบปนะมาณกี่วัน นายนิวัติไชย ตอบว่า ยังระบุไม่ได้ แต่การกรอกข้อมูลคำร้องดังกล่าว ใช้เวลาไม่กี่วัน หลังจากนี้จะขึ้นอยู่กับการนำผู้ร้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/FUg7ybLzNcI

คุณอาจสนใจ

Related News