“เพื่อไทย” แฉงบ กอ.รมน. สูงสุดหมื่นกว่าล้าน ปี 60 ซัดทำงานซ้ำซ้อน เอาทหารมาเกี่ยวโยง

4 ก.ย.2565 ที่พรรคเพื่อไทย นางสาวอรุณี ภาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวระบุถึงกรณีสืบเนื่องจากการรับตำแหน่งและขอมาช่วยราชการในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ของสิบตำรวจโทหญิงกรศศิร์  ว่า ผลที่กอ.รมน.พิจารณา ให้สิบตำรวจโทหญิงคนดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง แล้วถือว่าจบกระบวนการสอบสวน แต่ความรู้สึกของประชาชนยังไม่จบ ตั้งคำถามว่า ยังมีกรณีแบบนี้อีกกี่คน และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เราต้องไม่ลืมว่า กอ.รมน. เป็นหน่วยงานที่มีการใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชน ดังนั้นต้องมีความคุ้มค่า



นางสาวอรุณี ชี้แจงว่า ในแต่ละปีมีการใช้งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับ กอ.รมน. จำนวนมากโดยมีสถิติใช้จ่ายงบประมาณสูงสุดหลังรัฐประหารและกล่องมีการเลือกตั้ง ในปี 2560 จำนวน 10,410 ล้านบาท ซึ่งในช่วงหลังปี 2563 มีการปรับลดลงแล้ว แต่ก็เป็นเพราะการปรับทั้งภาพรวม สืบเนื่องจากกาารระบาดของโควิด-19



นางสาวอรุณี ระบุต่อว่า สิ่งเหล่านี้สะท้อนชัดเจนว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขาดความชอบธรรม มีความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารประเทศ ทำให้ศาลของประชาชนตัดสินให้พ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้องถามศาลรัฐธรรมนูญ



ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าขอบข่ายของ กอ.รมน. มีการขยายตัวมากขึ้น ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี มีการแบ่งโครงสร้างภายใน กอ.รมน.ใหม่เป็น 17 หน่วยงาน มีหน้าที่และอำนาจ โดยมีศูนย์ประสานการปฎิบัติงานของ กอ.รมน.ในภาคและจังหวัดขึ้นตรงกับ ผอ.กอ.รมน. มีการจัดสรรกำลังพลตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ และเมื่อพิจารณาอำนาจของ กอ.รมน.ภาคและจังหวัดจะเห็นได้ว่าการทำงานซ้ำซ้อน เพราะในส่วนของจังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ก็มีการเพิ่มจังหวัดทหารบก หรือมณฑลทหารบกที่รับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ให้เข้าร่วมประชุมกับหน่วยราชการ สะท้อนให้เห็นว่าทหารพยายามผูกโยงเรื่องต่างๆทุกมิติเข้ากับความมั่นคง ดังนั้นหน่วยงาน กอ.รมน. ควรเป็นที่พึ่งที่หวังให้กับประชาชนได้มากกว่านี้ แต่ความจริงกับเป็นเหมือนหน่วยงานที่เป็นดินแดนสนธยา ประชาชนยากที่จะเข้าไปตรวจสอบหรือขอข้อมูล ซึ่งกรณีของสิบตำรวจโทหญิงสะท้อนให้เห็นภาพปัญหาได้อย่างชัดเจน



นางสาวอรุณี ย้ำว่า วันนี้เรามีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน แม้จะอยู่ในตำแหน่งรักษาการ แต่อย่าลืมว่าท่านมีอำนาจเต็มมือ และยังควบตำแหน่ง ผอ.กอ.รมน. ด้วย ดังนั้น ต้องเร่งสั่งการตรวจสอบเรื่องนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะเรื่องกำลังพลผู้ปฏิบัติงานในการช่วยราชการทั้งหมดแบบรายปีหรือปีต่อปี เพื่อทำลายระบบกาฝาก ทั้งองคาพยพที่แฝงตัว



“เรื่องแดงที แก้ไขที ช่วยเคารพประชาชนที่เป็นคนเสียภาษีด้วยค่ะ ลบภาพจำค่ะ ไม่รู้ๆ วันนี้ นายกฯรักษาการ พลเอกประวิตรรู้แล้ว ท่านต้องสั่งการ ให้มีการเอาจริงเอาจังในเรื่องดังกล่าวค่ะ”



เมื่อถามว่าตามข้อมูลที่กรรมาธิการทหารเปิดเผยว่า กอ.รมน. มีกำลังจร 54,000 คน ที่ปฏิบัติราชการในหน่วยงานต่างๆ พรรคเพื่อไทยมองอย่างไรบ้าง นางสาวอรุณี กล่าวว่า กำลังจร มีทั้งส่วนที่เป็นแบบประจำและช่วยราชการแบบปีต่อปี มองว่าพลเอกประวิตร ควรจะสั่งการลงไปเพื่อตรวจสอบ รื้อระบบว่ามีการใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่าหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์และภาษีของประชาชน