เขยเมาโหดกราดยิงแม่ยายสาหัส พบเป็นอดีตอส. ขโมย M16 คลังเก็บอาวุธ

เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ก.ค.65) เวลา 20.15 น. ร.ต.ท.ดำรงด์ บุตรสิงห์ รอง สว.(ป.)ฯ ร้อยเวร 20 พร้อมสายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สายตรวจทุ่งโพ รับแจ้งเหตุ 191 ว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 4 ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ นางทองสาย สารสุวรรณ์ อายุ 78 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณเท้าด้านซ้าย เลือดไหลนองเต็มพื้นอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนส่งตัวไปรักษาที่รพ.หนองฉาง

โดยทางนางทองสาย ผู้บาดเจ็บ ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุ คือ ลูกเขยของตน ซึ่งเป็นอดีต อส.ประจำอยู่ที่ว่าการอำเภอหนองฉาง ได้ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงเข้ามาภายในบ้าน จนทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่สายตรวจจึงได้ประสานแจ้งขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยกระจายกำลังจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุ หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้ามาซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านพักข้าราชการอำเภอหนองฉาง ซึ่งอยู่ติดกับบ้านพักนายอำเภอหนองฉาง ต่อมาทราบ นายฉลวย กรรเจียกจร อายุ 64 ปี ซึ่งอดีตเป็นเจ้าหน้าที่อส. เกษียณอายุราชการ ไปแล้ว 4 ปี (วันที่ 1 ม.ค.61) หลังดำรงตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ อส.ประจำที่ว่าการอำเภอหนองฉาง มานานกว่า 30 ปี และหลังจากที่ตำรวจตรวจสอบกระสุนปืนแล้วนั้น พบว่าเป็นกระสุนปืน M16 A1 จึงได้แจ้งประสานตรวจคลังอาวุธปืน M16 ของกองร้อย ซึ่งมีอยู่จำนวน 6 กระบอกนั้น พบว่าอาวุธ ปืน M16 A1 จำนวน 1 กระบอก พร้อมลูกกระสุนปืนประมาณ 30 นัด หายไปจากคลังเก็บอาวุธ

ทั้งนี้ ฝ่ายปกครอง อ.หนองฉาง ได้ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับกำลังตำรวจ สภ.หนองฉาง สภ.เขาบางแกรก พร้อมชุดกองร้อยอาสารักษา ดินแดน อุทัยธานี นับร้อยนาย วางกำลังปิดล้อมรอบบริเวณพื้นที่ที่ว่าการอำเภอ หนองฉาง เพื่อเตรียมความพร้อมเจรจา ไกล่เกลี่ย กับผู้ก่อเหตุ

โดยเบื้องต้น ทราบว่า นายฉลวย อยู่ในอาการมึนเมา และเกรงว่าจะมีอาวุธ M16 พร้อมลูกกระสุน ซึ่งคาดว่าน่าจะเหลืออยู่ พื้นที่เป้าหมายนั้นคือบ้านพักข้าราชการ ซึ่งนายฉลวย เคยมาพักอาศัยอยู่ในขณะที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ อส.ประจำที่ว่าการอำเภอหนองฉาง หลังจากนั้นได้รายงานสภาพพื้นที่ให้ นายชุมพิชญ์ เดชะรัฐ ปลัดจังหวัดอุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบ โดยรายงานว่าจุดบริเวณที่คนร้ายซ่อนตัวอยู่นั้นค่อนข้างเป็นพื้นที่เกือบปิด ไม่สามารถหลบหนีออกจากบริเวณนี้โดยที่ไม่ผ่านทางเข้าออกอำเภอ นอกจากปีนรั้วข้ามไปยังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อหลบหนี จึงได้ทำการกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการซุ่มล้อมรอบพื้นที่ดังกล่าว เพื่อป้องกันคนร้ายไม่ให้หลบหนี ก่อนเข้าประชุมหารือวางแผนในการปิดล้อมจับกลุ่มชายรายดังกล่าว

นอกจากนี้ ตำรวจพยายามโทรศัพท์ ติดต่อกับนายฉลวย เพื่อเจรจา แต่นายฉลวยไม่รับและตัดสายทิ้ง โดยใช้เวลาปิดล้อมนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่นายเสวย ทาเอื้อ ปลัดอำเภอหนองฉาง ซึ่งนายฉลวย นั้นให้ความเคารพนับถือ พยายามใช้เสียงตะโกนเรียกเพื่อไกล่เกลี่ย เจรจา ให้นายฉลวยนั้นออกมาจากบ้านพักแต่ไม่เป็นผล แต่นายฉลวย คิดจะหลบหนีออกทางและออกมาทางด้านข้างศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอ ซึ่งกำลังตำรวจ ฝ่ายปกครอง และอส.ที่ปิดล้อมและเฝ้าดูตลอดเวลาเมื่อเห็นผู้ก่อเหตุจึงได้เข้าชาร์จตัวได้โดยละม่อมและไม่ขัดขืนโดยปราศจาก อาวุธปืน ก่อนถูกนำตัวขึ้นไปพูดคุยสอบถามถึงสาเหตุ ของการลงมือก่อเหตุ ในครั้งนี้ว่ามาจากสาเหตุใด

อย่างไรก็ตาม นาทีก่อนที่นายฉลวย จะถูกนำตัวไปพูดคุยนั้น ได้ก้มลงกับพื้นเพื่อกราบขอโทษปลัดอำเภอหนองฉาง ที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายอีกด้วย สาเหตุคาดว่าจะมาจากการมีปากเสียงกันในครอบครัวหรือไม่นั้น ต้องรอให้นายฉลวย สร่างจากอาการมึนเมาเพื่อสอบสวนถึงสาเหตุ ที่แท้จริง รวมถึงอาวุธ และกระสุนปืนที่ตอนนี้นายฉลวยได้ซ่อนปืนเอาไว้ และในคืนวันนี้ได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองฉางดำเนินคดีต่อไป