ญาติร้องปคม.ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. เผยน้องโดนหลอกไปทำงานเขมร

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นำโดยน.ส.สุดา (สงวนนามสกุล) และญาติ ๆ ผู้เสียหาย 5 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สืบพงษ์ กรุณา กก.3 บก.ปคม. เพื่อยื่นร้องขอความช่วยเหลือ ขอให้ช่วยน้องชายกับเพื่อน ๆ อีก 5 คน ซึ่งถูกหลอกไปทำงานคอมพิวเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา แต่ถูกกักขังให้อดข้าวและน้ำ กินมื้อเดียว เพื่อบังคับให้ทำเว็บฯ พนัน คอลเซ็นเตอร์ และการลงทุน

น.ส.สุดา เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคม 65 ที่ผ่านมา มีเพื่อนชื่อนายบอล มาชักชวนน้องชาย นายธนพล กาญจนกำยาน อายุ 31 ปี ไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา อ้างว่าเป็นงานสบาย ๆ ทำเกี่ยวกับเกมและคอมพิวเตอร์ จะให้เงินเดือนละ 3 หมื่นบาท โดยมีการทำสัญญาจ้างงานย้อนหลัง ระยะจ้างงานตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 64 จนถึงวันที่ 9 เม.ย. 65 รวมระยะเวลา 6 เดือน

เมื่อน้องชายหลงเชื่อเดินทางไปทำงานตั้งแต่เดือนมกราคม 65 ผ่านไป 3 เดือนน้องชายติดต่อกลับมาขอความช่วยเหลือว่าถูกหลอกให้ไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และถูกทำร้ายร่างกายหากคิดหนีอยากกลับบ้าน พร้อมแอบส่งพิกัดที่อยู่ฝั่งประเทศกัมพูชามาให้ทางไลน์ เพื่อให้ตำรวจติดตามพิกัดไปช่วย

ทั้งนี้ น้องชาย ยังเล่าอีกว่าแอบใช้โทรศัพท์โทรหาและส่งข้อความ จึงถูกขังอยู่ในห้องของสถานที่หนึ่ง ชั้น 8 เพื่อไม่ให้หลบหนีไปไหน และสั่งให้ทำงานตั้งแต่เวลา 08.00 - 21.00 น. ด้วยการโทรศัพท์ไปพูดคุยกับคนไทยด้วยกัน เพื่อหลอกให้โอนเงิน บังคับให้ทำยอดหาเหยื่อ ต่อเดือนต้องได้ 3 แสนบาท ซึ่งในห้องมีคนถูกหลอกให้มาทำงานประมาณ 30 คน และจะมีคนชุดดำแต่งตัวเหมือนการ์ดคอยเฝ้าอยู่ ห้ามพูดคุยกัน ห้ามติดต่อใคร เพราะมีการดักฟังตลอด หากทำผิดกฎเขาจะขู่บังคับทำร้าย เมื่อคิดหนีก็จะใช้กระบองฟาด ทำให้มีบาดแผลเต็มตัว

อย่างไรก็ตาม เมื่อน้องชายยืนยันว่าจะกลับบ้าน และไม่ทำงานแล้ว แต่กลับได้รับคำตอบว่า ไม่ได้เพราะมีการนำเงินของนายทุนจีนมาแล้ว 1 ล้านบาท ตนจึงติดต่อไปหานายบอล แต่เข้ากลับอ้างว่าน้องชายยังอยู่สบายดี ไม่ต้องห่วง คุยกันเสมอ ๆ แต่ผิดสังเกตที่ว่า นายบอล เริ่มมีฐานะการเงินอู่ฟู่ ใส่ทอง โชว์ยอดเงินในบัญชีหลายแสนให้ดู

"ทุกวันนี้ติดต่อน้องชายไม่ได้แล้ว ตั้งแต่เดือนที่แล้ว แม่เป็นห่วงน้องมาก ๆ ร้องไห้ทุกวัน ยืนยันว่าน้องโดนหลอกไปทำงาน และเขาไม่คิดจะไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อีกทั้งไม่เคยเดินทางไปกัมพูชามาก่อน วันนี้จึงขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยเหลือน้องชายกลับบ้านด้วย" น.ส.สุดา กล่าว