สังคม

โจรย่องทุบกำแพง โกยมือถือตัวท็อปนับ 100 ลอยนวล

โดย panisa_p

13 ม.ค. 2565

99 views

จากกรณีที่ เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part2 โพสต์ภาพ ร้านขายมือถือแห่งหนึ่ง ย่านสายไหม โดนคนร้ายทุบกำแพงเข้ามาขโมยของในร้านมูลค่านับล้านบาท ก่อนจะหลบหนีลอยนวล ทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่ พูดคุยกับ นายนพดล ภาณุดุลกิตติ เจ้าของร้าน ไอทีบานาน่า สาขา สายไหมซอย 9 เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า


เช้าวันที่ 10 มกราคม ตอน 8 โมงเช้า ตนเองมาเปิดร้านตามปกติ ก็พบว่าร้านมีร่องรอยถูกรื้อค้น จึงรีบเข้าไปตรวจสอบที่ด้านหลังร้าน ที่เป็นที่เก็บสต๊อกเรื่องรอจำหน่ายก็พบว่า โทรศัพท์มือถือสูญหายไปหลายรายการ พอตรวจสอบแล้วพบว่าสูญหายไปมากกว่า 100 เครื่อง รวมแล้ว 36 รายการ มีทั้งโทรศัพท์มือถือ ไอโพน 13 โปรแม๊ก กว่า 10 เครื่อง โทรศัพท์มือถือซัมซุง และยี่ห้ออื่นๆ รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่มีมูลค่าและ คอมพิวเตอร์โน็ตบุ๊ค ที่เป็นตัวเกมส์มิ่ง ที่ราคาสูงรวมแล้วกว่า 36 รายการ มูลค่ารวมกว่า 1.4-1.5 ล้านบาท นายนพดล ยังเล่าให้ฟังว่า พอตนเองพยายามตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่า คนร้ายยังได้เอาตัวเครื่อง Server ของระบบวงจรปิดไปด้วย รวมถึง ยังมีการเอาบิลที่ตนเอง โอนเงินเข้าบริษัท โดยเลือกเฉพาะรายการที่มียอดสูงๆไป คาดว่าน่าจะเอาไปใช้ยืนยันเวลานำเครื่องไปขายว่าเครื่องมาจากการซื้อถูกต้อง แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตัวที่ยังเหลืออยู่ ที่เป็นระบบการ์ดความจำ และรอบร้านที่เป็นของเพื่อนบ้านไม่พบจุดที่คนร้ายเข้ามาในร้าน แต่พบจุดที่คนร้ายออกจากร้าน


โดยใช้หน้าต่างของบ้านพักที่อยู่ในพื้นที่หลังร้าน ที่ไม่มีใครพักอาศัย ในช่วงเวลาประมาณ 3 นาฬิกา เกือบๆ 4 นาฬิกา และคนร้ายใช้วิธีการค่อยๆทยอยขนถุงกระสอบพลาสติกมาวางไว้บริเวณด้านหน้าร้านกาแฟที่อยู่ข้างร้านและเดินกลับไปขนย้ายกล่องต่างๆรวมประมาณสองถึงสามครั้งก่อนจะมีการเดินข้ามไปเรียกรถแท็กซี่ที่ฝั่งตรงข้ามของร้านเมื่อได้รถแล้วก็มีการเดินย้อนกลับมาค่อยค่อยทยอยขนของกลับขึ้นรถแท็กซี่ โดยไม่ให้แท็กซี่วนรถเข้ามารับเนื่องจากคาดว่าคนร้ายเก่งว่ากล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณใกล้เคียงร้านจะสามารถจับแผ่นป้ายทะเบียนของรถแท็กซี่ไว้ได้ ส่วนตัวคิดว่าคนร้ายไม่ได้มีการวางแผนหรือเตรียมตัวที่จะมาก่อเหตุลักทรัพย์ลักษณะขนของมากมายแบบนี้ เพราะหากมีการเตรียมหรือวางแผนไว้ต้องมีการนำรถมาใช้ในการเคลื่อนย้ายรวมถึงอาจจะต้องมีผู้มาร่วมก่อเหตุมากกว่าหนึ่งคนแต่จากวงจรปิดยังพบว่าก่อเหตุเพียงคนเดียวและใช้เวลาอยู่ในร้านนานหลายชั่วโมงเพื่อเลือกของรวมถึงเลือดบิลที่ตนเองใช้ในการโอนเงินเข้าบริษัทแจ้งยอดซื้อต่างๆแต่ละวันและเลือกเฉพาะรายการที่มียอดโอนสูงสูงเข้าใจว่าน่าจะเป็นการเอาไปใช้อ้างกับร้านที่จะนำไปขายว่าเครื่องมีการเบิกออกมาจากบริษัทเองจริง และสิ่งที่ตนเองมั่นใจคือ คนร้ายต้องเป็นคนที่มีความรู้เกี่ยวกับ โทรศัพท์มือถือ และสินค้าไอที เพราะเลือกแต่ของที่ขายได้ และราคาสูง


โดยหลังเกิดเหตุได้มีการแจ้งเจ้าของอาคารที่ตนเองเช่าพื้นที่อยู่ให้ทราบและขอทำการต่อเติมก่อสร้างเป็นกำแพงที่ก่อนหน้านี้มีการเคยพยายามขอแล้วเนื่องจากตนเองเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นแต่ในตอนแรกเจ้าของอาคารไม่ยอมให้มี การตัดแปลงต่อเติมอาคาร และในส่วนของการป้องกันต่อจากนี้ตนเองจะเร่งรัดเรื่องของการนำตู้ นิรภัยมาใช้ในการเก็บสต๊อกต่างๆเนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเองเพิ่งได้มีการเปิดร้านได้เพียงสองเดือนจึงยังไม่สามารถดำเนินการสั่งซื้อตู้เซพที่มีขนาดใหญ่ได้ทันเวลา จึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นก่อน รวมถึงจะมีการติดตั้งอุปกรณ์แจ้งเตือนต่างๆตามจุดสำคัญภายในร้านเพิ่มเติม ในส่วนของโทรศัพท์มือถือทั้งหมดที่สูญหายไปได้มีการทำบัญชีอีมีเครื่องส่งไปยังบริษัทต้นสังกัดเป็นที่เรียบร้อยแล้วหากมีการเปิดใช้เครื่องก็จะสามารถทราบได้โดยทันทีว่าเครื่องถูกใช้อยู่จุดใด ในส่วนของความคืบหน้าทางคดีเบื้องต้นได้มีการส่งไฟล์วงจรปิดตัวที่เป็นการ์ดความจำให้กับตำรวจไปแล้วขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งยังไม่ได้มีการแจ้งเพิ่มเติมมายังตนเองทราบแต่เพียงว่าการไล่วงจรปิดจนพบแล้วว่าแท็กซี่ที่คนร้ายใช้ในการหลบหนีเป็นคันใดและตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวแท็กซี่รายนี้มาสอบปากคำ


สำหรับจุดที่ตนเองคาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นช่องทางในการหลบเข้ามาในร้านคือบริเวณด้านหลังของตัวบ้านที่ตนเองมาเช่าพื้นที่อยู่ที่อยู่ติดกับทางอพาร์ทเม้นท์จะมีช่องให้สามารถปีนข้ามลงมาบริเวณบ้านที่ตนเองเช่าอยู่ได้และจุดดังกล่าวยังตรงกับช่องประตูเก่าที่ตนเองมีการกั้นเป็นฝ้าเอาไว้เพื่อทำเป็นห้องสต๊อกซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายบเจาะฝ้าผ่านมาทางช่องนั้นเข้ามาก่อเหตุในร้านตนได้ และจุดดังกล่าวยังเป็นจุดที่ไม่มีวงจรปิดบันทึกไว้ มีรายงานจากชุดสืบสวน สน.สายไหม ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ทั้งก่อน และหลังที่คนร้ายก่อเหตุ โดยเฉพาะการติดตามเส้นทางของรถแท็กซี่ที่คนร้ายใช้หลบหนีในครั้งนี้

คุณอาจสนใจ

Related News