อาชญากรรม

พี่ชายเด็กชาย 7 ขวบ เชื่อน้องก่อเหตุลักทรัพย์ปีนร้านค้า เพราะถูกรุ่นพี่บังคับให้ทำ

โดย kanyapak_w

11 พ.ค. 2567

231 views

ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุ เด็กชายอายุ 7 ขวบ ลักทรัพย์ร้านขายข้าวขาหมู ย่านรามคำแหง2 เขตประเวศน์ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.เวลา 03.52 น. โดยภาพวงจรปิดจับภาพขณะเด็กเข้าไปรื้อร้นภายในตามลิ้นชักแต่ไม่ได้ทรัพย์สินของมีค่าอะไรก่อนหลบหนีไป



เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า คืนวันเกิดเหตุเด็กได้เข้ามาในร้านตอนตี 3 ครึ่ง และได้รื้อค้นหาทรัยพ์สินภายในเกะ ซึ่งหลังตนเองปิดร้านขายของ เนื่องจากสงสัยว่าเครื่องวัดอุณหภูมิ ถูกหยิบขึ้นมาวางไว้อยู่บนตู้ จึงเกิดความสงสัยจึงไปดูกล้องวงจรปิดย้อนหลัง ก่อนพบว่ามีเด็กชายอายุ 7 ขวบเข้ามารื้อค้นทรัพย์สินแต่ไม่ได้ของมีค่าไป เพราะตนเองได้เก็บเข้าบ้านหมดแล้ว โดยพบว่าเด็กมาเพียงคนเดียว ซึ่งตนเองไม่เชื่อสายตาว่าเด็กอายุขนาดนี้จะเข้ามาก่อเหตุได้ โดยสงสัยว่าทำไมครอบครัวถึงปล่อยให้มาทำได้ขนาดนี้ เมื่อโตขึ้นอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะเด็กอายุแค่ 7 ขวบทำได้ขนาดนี้





ขณะที่พี่เล็กแม่ค้าขายมะม่วง ร้านใกล้เคียงเล่าให้ฟังว่า ร้านของตนเองก็ถูกเด็กชายคนเดียวกันมาก่อเหตุ ลักเงินที่อยู่ในถุงเพื่อเตรียมไว้ทอนให้กับลูกค้าไปเป็นจำนวนกว่า 1 พันบาท เหตุเกิดตั้งแต่ 26เมษายน โดยกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ได้



ขณะที่ตนเองได้ออกจากร้านเพื่อไปซื้อปลาทูและวางถุงเงินไว้ที่ร้านแต่พอกลับมาแล้ว ไม่พบถุงเงินดังกล่าว จึงไปขอกล้องวงจรปิด้าขายทอง พบว่าในช่วงเช้าเวลา 08.00 น.เด็กชายใส่เสื้อสีแดงมาหยิบถุงเงินไป ซึ่งคนแถวนั้นทราบดีจึงพาไปหาพ่อแม่ แล้วมีการชดใช้เงินมาให้1พันบาท จึงไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีเพราะสงสารอีกทั้งพ่อแม่เป็นคนดี แต่เป็นห่วงอนาคตเด็กที่ก่อเหตุได้ขนาดนี้ทั้งมี่อายุยังน้อย เกรงว่าโตไปจะทำผิดมากกว่านี้ จึงอยากฝากไปยัวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแล



นอกจากนี้ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ซอยมหาดไทย 5 ซอย 3 รามคำแหง 2 ซึ่งเป็นบ้านของเด็กอายุ 7 ขวบ พบกับพี่ชายอายุ 19 ปี ที่ต้องคอยดูแลไม่ให้น้องชายหนีออกไปก่อเหตุ เล่าว่า พฤติกรรมของน้องชอบหนีออกนอกบ้านตลอดเวลาเมื่อมีจังหวะทั้งกลางวันและกลางคืนหากไม่มีคนคอยดูแล โดยบางครั้งขณะที่นอนกลางดึกก็จะขโมยกุญแจแล้วไขออกไป เพื่อไปหาเพื่อนหรือบางครั้งก็ไม่กลับบ้าน ซี่งครอบครัวก็จะไปตามกลับมา ที่ผ่านมาทางครอบครัวได้สั่งสอนและบอกกล่าวถึงโทษภัยว่าการทำผิดเป็นสิ่งไม่ดี แต่ก็ไม่สามารถห้ามปรามได้ น้องชายยังคงออกไปก่อเหตุข้างนอก



ซึ่งคนในบ้านทั้งหมด 5 คน หมดปัญญาจึงมีแนวคิดว่าจะนำน้องไปไว้ที่ศูนย์สงเคราะห์ฯ ที่ผ่านมาตนเองทราบมาตลอดว่าน้องมีพฤติกรรมชอบหนีออกจากบ้าน แต่ยิ่งสอนก็ยิ่งทำยิ่งบอกก็ยิ่งยุ แม้จะมีการทำโทษแต่น้องก็แกล้งร้องไห้ให้เกิดความสงสาร จึงไม่กล้าที่จะลงโทษ ส่วนตัวเชื่อว่าที่น้องมีพฤติกรรมแบบนี้เป็นเพราะตามเพื่อน เพราะก่อนหน้านี้เป็นเด็กดีมาก แต่หลังจากอายุ 6 ขวบ ก็มีนิสัยเปลี่ยนไป อีกทั้งที่ผ่านมาไม่ได้เล่นโทรศัพท์ เพราะมีเพื่อนอายุมากกว่าอยู่ในกลุ่มอาจจะเป็นคนคอยแนะนำเพราะทราบว่ามีรุ่นพี่บังคับให้ไปขโมยของและครอบครัวตามไปชดใช้คืนผู้เสียหาย จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อรุ่นพี่ได้





อย่างไรก็ตาม ปัจจุปันน้องไม่ได้ไปโรงเรียนและหยุดเรียนมานานกว่า 1 ปีแล้ว เพราะทางโรงเรียนแจ้งว่าพฤติกรรมของน้องอยู่ไม่นิ่ง ไม่มีสมาธิจดจ่อกับการเรียน โดยทางโรงเรียนแจ้งว่าต้องพาไปพบแพทย์เพื่อเอาใบรับรองมายืนยันว่าสามารถเรียนต่อได้ ดังนั้นครอบครัวมีแนวคิดจะพาน้องไปตรวจสุขภาพจิตหรือพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้น้องกลับมาเรียนได้แต่ทางครอบครัวยังไม่มีโอกาสจะพาไปโรงพยาบาล


ส่วนตัวยอมรับว่าสงสารน้องเพราะเชื่อว่าน้องไม่ได้ป่วย แต่เป็นเพราะพฤติกรรมวัยเด็กที่จะทำตามเพื่อน อีกทั้งที่ผ่านมา น้องไม่เคยถูกดำเนินคดี เพราะครอบครัวได้ไปจ่ายเงินให้ผู้เสียหายมาแล้ว 2 ครั้ง




คุณอาจสนใจ

Related News