สาวใหญ่ถูกชายตีสนิท หลอกยืมเงินกว่าครึ่งล้าน เข้าแจ้งความ แต่ตำรวจไล่ไปฟ้องแพ่ง

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ร้องมายังทีมข่าว กรณีถูกชายเข้ามาตีสนิทภายหลังหลอกยืมเงินมากกว่าครึ่งล้าน หลบหนีหาย เจ้าตัวนำหลักฐานเข้าแจ้งความแล้ว ตำรวจไล่ไปฟ้องคดีแพ่ง

นางไพรินทร์ ส่งข้อความร้องขอให้ช่วยเหลือ เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม ทุกข์ใจกินไม่ได้นอนไม่หลับ ถึงขั้นตัดพ้ออยากฆ่าตัวตายพร้อมลูกสาวที่พิการ ตั้งใจเก็บเงินก้อนสุดท้ายปลูกบ้านให้ลูกอยู่อาศัย กลับถูกมิจฉาชีพหลอกสูญเงินมากกว่า 570,000 บาท

ทีมข่าวได้เข้าพบผู้เสียหายนาง ไพรินทร์ อายุ 58 ปี เผยให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อช่วงต้นปี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ สมพงศ์ ได้แอดเป็นเพื่อนกับตนพร้อมทำทีทักมาตีสนิทและโทรเข้ามาพูดคุยผ่านช่องทางโซเชียล นายสมพงศ์ พูดจาดี มีสเน่ห์ พูดคุยกันเพียงระยะเวลาสั้นๆ ตนได้บอกว่าต้องพาลูกไปหาหมอเนื่องจากมีลูกสาวพิการ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ไม่คาดคิดนายสมพงศ์ ตามมาแสร้งทำเป็นคนดี ตีสนิท พร้อมพูดคุยขอโทรศ้พท์มือถือเพื่อโหลดแอพพลิเคชั่นไลน์ให้เพื่อเก็บไว้พูดคุยกัน หลังจากนั้นทีการชวนไปทานข้าวในห้างดัง และยังวางตัวเป็นคนรวย ออกค่ากับข้าวให้หมดทุกอย่าง ตนยอมรับว่าไม่เคยไปทานอาหารหรูในห้างก็เริ่มรู้สึกดี คุยกันมาสักพักนายสมพงศ์รู้ว่าก่อนหน้านี้ตนมีเงินอยู่ก้อนหนึ่งที่จะเก็บไว้สร้างบ้านให้ลูก นายสมพงศ์จึงมีการขอยืมเงินจำนวนหนึ่งเพื่อลงทุนให้นายหัวเพื่อปล่อยเงินกู้ และลงทุน ถ้าได้เงินกลับมาจะนำเงินมาคืนให้ ด้วยความที่ตนเชื่อใจจึงให้ยืมเงินไปครั้งแรกวันที่ 10 เม.ย. 62 จำนวน 25,000 บาท

ต่อมา 30 เม.ย.62 จำนวน 100,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่นายสมพงศ์พูดคุยกับตนก็จะพูดจาดี ทำให้หลงเชื่อ แรกๆนายสมพงศ์ให้เงินตนคืนมาบ้าง หลังจากให้คืนก็จะยืมกลับ โดยอ้างว่าจะนำเงินไปปล่อยกู้อีก จนตนสงสัยจึงมีการแอดเฟซบุ๊กเพื่อนของนายสมพงศ์ไปทางเฟสบุ๊กเพื่อสอบถาม ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้วนายสมพงศ์ไม่ได้นำเงินตนไปลงทุนและปล่อยกู้ แต่กลับนำเงินของตนไปเล่นตู้บอล หรือ พนันบอลนั่นเอง หลังจากทักทวงเงินจากนายสมพงศ์กลับถูกด่ากลับและขู่ให้ไปแจ้งความ อ้างว่ารู้จักผู้หลัก ผู้ใหญ่เยอะ ทำให้ตอนนี้ตนสูญเงินไปรวมๆแล้ว 570,000 บาท

หลังจากรู้ข่าวว่าถูกนายสมพงศ์หลอก ตนเข้าแล้ว ตนรู้สึกร้อนใจ จึงนำหลักฐานการโอนเงิน ข้อมูลการแชท เข้าแจ้งความที่ สน.ราษฎร์บูรณะ แต่เจ้าหน้าที่กลับลงเพียงบันทึกประจำวันและบอกให้ตนไปฟ้องคดีแพ่งกันเอาเอง ตนจึงได้ร้องขอมายังทีมข่าว วอนขอให้ตำรวจรับแจ้งความ อย่างน้อยถ้าตนไม่ได้เงินคืนขอให้นายสมพงศ์ถูกจับติดคุก