สังคม

วสท.ตรวจสอบไฟไหม้บ้านถล่ม ตอบข้อสงสัยทำไมคานใหญ่กว่าเสา?

โดย thichaphat_d

5 เม.ย. 2564

358 views

กรณีเพลิงไหม้อาคารบ้านพัก 3 ชั้น ก่อนพังถล่มลงมา เป็นเหตุให้มีผู้ติดค้างอยู่ภายในซากอาคารหลายราย มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เป็นผู้ที่อยู่ในบ้านพัก 1 ราย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยอีก 4 ราย และผู้บาดเจ็บอีกหลายราย โดยเหตุเกิดที่ในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 ถ.พุทธฆณฑล สาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ


รองศาสตราจารย์สิริวัฒน์ ไชยชนะ อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมน์ หรือ วสท. เปิดเผยว่า อาจจะยังตรวจสอบอะไรมากไม่ได้ เนื่องจากสภาพอาคารพังทลายลงมาหมดแล้ว จึงต้องไปหาข้อมูล แบบแปลนการก่อสร้างอาคารว่ามีจุดใดที่เป็นสาเหตุที่ทำให้อาคารถล่มลงมา เบื้องต้นประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขอแปลนบ้าน เพื่อที่นำไปถอดบทเรียนไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุว่ามีการต่อเติมอาคาร ตามที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตหรือไม่ ต้องขอดูแปลนบ้าน


อาคารแห่งนี้มีการก่อสร้างในช่วงปี 2554-2555 ซึ่งในช่วงนี้มีเทคโนยีการก่อสร้าง การใช้วัสดุที่ดี ทนต่อไฟอยู่แล้ว จึงต้องดูสภาพแวดล้อม โดยขนาดของพื้นที่เองก็มีส่วนเกี่ยวข้อง หากพื้นที่แคบจะทำให้อาคารอมความร้อน มากกว่าอาคารที่อยู่ในพื้นที่กว้าง พื้นที่โล่งกว้างจะทำให้ความร้อนกระจายตัวได้มากกว่า


ขณะเดียวกันวัสดุ สิ่งของที่อยู่ภายในบ้าน เช่น กระดาษ พลาสติกต่างๆ รวมทั้งวัตถุไวไฟ จะเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงได้ถึง 900-1,000 องศา จากปกติที่วัสดุก่อสร้างจะทนความร้อนได้ถึง 300-600 องศา ซึ่งตรงส่วนนี้ทำให้โครงสร้างอาคารเกิดรอยร้าว มีการแยกตัวออกจากกัน ความร้อนจึงเข้าไปในช่องว่าง ทำให้เหล็กเปลี่ยนรูปร่างหรือเปลี่ยนสภาพ ยื้อกันระหว่างจุดที่แข็งแรงของตัวบ้านกับจุดที่อ่อนแอ เป็นสาเหตุที่ทำให้อาคารถล่มลงมา ยืนยันว่า อาคารที่มีอายุประมาณ 10 ปี นั้น ถือว่ายังไม่เสื่อมสภาพ หากก่อสร้างอย่างถูกต้อง จะอยู่ได้ 30-50 ปี


กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาคารหลังนี้คานมีขนาดใหญ่กว่าเสา รองศาสตราจารย์สิริวัฒน์ บอกว่า เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากคานจะต้องรับน้ำหนักมากกว่าเสา สำหรับประเด็นการฉีดน้ำดับไฟ ตรงส่วนนี้ยืนยันว่าไม่ส่งผลให้อาคารถล่มลงมา เพราะปูนไม่ดูดซับน้ำ /ส่วนการเปลี่ยนแปลงประเภทการใช้ประโยชน์ของอาคาร จากที่อยู่อาศัยเป็นที่เก็บของ หากไม่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ ถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง


ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ฐานะโฆษก บช.น. เผยว่า การตรวจสอบสภาพอาคารนั้น ทางพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา ได้ประสานทางเขตทวีวัฒนาแล้วแต่ติดวันหยุดจึงยังตรวจสอบไม่ได้ชัดเจนว่า อาคารดังกล่าวมีการยื่นขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากทำผิดกฎระเบียบก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย


ส่วนการสอบปากคำ วันนี้ ( 5 เม.ย.) ทางพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา ได้นัดหมายเจ้าหน้าที่โยธาเขตทวีวัฒนาเข้าให้ปากคำเกี่ยวกับสำเนาแบบก่อสร้าง รวมถึงวิศกรผู้รับรองแบบ ผู้ควบคุมการก่อสร้างเป็นใคร การก่อสร้างเป็นไปตามแบบหรือไม่ ซึ่งเมื่อทำการเคลียร์พื้นที่ได้ระดับหนึ่ง เจ้าหน้าที่ พฐ. จะเข้าทำการตรวจสอบ โดยเฉพาะการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ เหล็กหรือปูน เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ต่อไป


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/AzO-hMHKFG4

คุณอาจสนใจ