สังคม
ชายพิการร้อง 3 คนร้ายจับมัดมือ-เท้า รุมซ้อมกรามหักหาว่าเป็นขโมย ตร.เตรียมออกหมายจับ
โดย paweena_c
4 ธ.ค. 2567
29 views
ชายตาบอดร้องสื่อ ถูก 3 คนร้ายจับมัดมือมัดเท้า แล้วรุมซ้อมจนกรามและดั้งจมูกหัก แจ้งความ 2 เดือน คดีไม่คืบ ด้านตำรวจแจงคนร้ายติดต่อมอบตัวแล้ว 1 ส่วนอีก 2 คน กำลังออกหมายจับ
นายจักรพันธ์ อายุ 33 ปี อาชีพช่างไฟ และเป็นผู้พิการตาบอด 1 ข้าง พร้อมพ่อ นำหลักฐานมาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังถูกกลุ่มคนร้าย 3 คน อุ้มตัวไปกักขังและรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ตั้งวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า
เหตุการณ์เริ่มจากช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ บังดีม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ได้เตรียมเปิดร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ จึงเรียนให้ตนเข้าไปดูเรื่องไฟให้หน่อย เมื่อไปถึงร้านของบังดีม ซึ่งอยู่ในซอยมัสยิดยามาลุดดิน อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
เมื่อตนไปถึงกลับไม่เจอใคร จึงเปิดประตูรั้วเดินเข้าไปในร้านก็ไม่มีคนอยู่ จึงกลับออกมาขับรถไปทำงาน จากนั้นช่วงบ่ายบังดีมโทรมาบอกว่า แบตเตอรี่หาย เมื่อเปิดดูกล้องวงจรปิดตรงสามแยกทางไปร้าน เห็นรถของตนขับเข้าไปแค่คันเดียว จึงโทรศัพท์มาตามให้ตนเข้าไปยืนยันความบริสุทธิ์ ว่า ไม่ได้เอาไป ถ้าไม่มา จะถือว่าเป็นคนเอาไป
กระทั่งบ่าย 3 ตนจึงเข้าไปที่ร้าน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ที่เห็นถือมาที่รถในวงจรปิด เป็นแก้วน้ำ แต่กลับถูกลูกน้องบังดีม ซึ่งเป็นคนดูแลร้าน มาทำร้ายตนจากด้านหลังจนล้มลง แล้วมีอีกคนมาจับตนมัดมือมัดเท้า แล้วพาไปมัดติดกับเสา จากนั้นก็มาทำร้ายทั้งเตะ ต่อย เอาไม้หน้าสามฟาด จนกระอักเลือด จังหวะที่เกือบจะหลับ เขาก็เอาน้ำมาสาด พร้อมบอกว่าถ้าหลับจะยิ่งโดนหนัก
ผู้เสียหายถูกลูกน้องบังดีม 2 คน รุมซ้อมตั้งแต่บ่าย 3 จนถึง 6 โมงเย็น ส่วนนายบังดีมมาทีหลัง ก็ไม่ได้ทำอะไรแล้ว เพราะตนบาดเจ็บหน้าเละแล้ว ระหว่างนั้นเขาเรียกเก็บเงินค่าแบตเตอรี่ 10,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่มีให้ ก่อนติดต่อยืมเพื่อนมาได้ 900 บาท เขาก็ยึดโทรศัพท์ไป พร้อมถามรหัส จากนั้นก็กดโอนเงินไป จากนั้นเขาก็ปลดเชือกที่มือ ให้ไปล้างหน้าล้างตา พร้อมสั่งให้บอกว่าไม่เป็นอะไร ทั้งที่โดนซ้อมจนเลือดกลบปาก ไม่งั้นจะไม่ปล่อยให้กลับบ้าน ผู้เสียหายต้องพยายามฝืน พูดบอกไปว่า ไม่เป็นไร ยังพูดได้ พร้อมต่อรองทิ้งรถยนต์ไว้เป็นตัวประกัน จึงรอดตายมาได้
หลังออกจากร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์มาได้ ก็ไปหาหมอในสภาพที่ต้องเอามือประคองขากรรไกรไป เพราะขากรรไกรหัก ดั้งหัก หมอต้องใส่เหล็กดามขากรรไกรให้ กินอาหารไม่ได้ ต้องกินแต่น้ำตลอด 2 เดือนครึ่ง ซึ่งหมอออกใบรับรองแพทย์ให้พักรักษาตัว 2 เดือน งานก็ไม่ได้ทำ แจ้งตำรวจ สภ.บางบัวทอง ไว้ คดีก็ไม่มีความคืบหน้า ตำรวจบอกว่า ต้องรอใบชันสูตรผลการรักษาจากแพทย์ก่อน
ทำให้ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน เพราะพ่อไม่สบายใจ กลัวคู่กรณีจะมาดักทำร้ายอีก เพราะเขารู้จักคนเยอะ ทั้งตำรวจและผู้มีอิทธิพล วันนี้จึงอยากให้สื่อช่วยติดตามความคืบหน้าคดี เพราะตอนนี้รายได้หายหมดแล้ว
ด้านพ่อคนเจ็บ บอกว่าอยากเอาผิดผู้ก่อเหตุ ถ้าหากลูกขโมยของจริงควรแจ้งความ ไม่ควรใช้ศาลเตี้ยแบบนี้ ซึ่งลูกบาดเจ็บหนัก ทำงานก็ไม่ได้ รู้สึกว่ารุนแรงเกินไป
พันตำรวจโท กมลรัตน์ พาน้อย รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.บางบัวทอง เผยว่า ได้ตรวจสอบสำนวนการสอบสวนคดีนี้แล้ว พบว่า พยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ยังเหลือการสอบพยานอีก 2-3 ปาก ตอนนี้นายศรายุทธ อายุ 38 ปี หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ได้ติดต่อขอมอบตัวแล้ว ส่วนอีก 2 คน ตำรวจก็รู้ตัวแล้ว อยู่ระหว่างรอออกหมายจับ ในความผิด ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือไม่กระทำการใด ชิงทรัพย์ผู้อื่น และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ด้าน พันตำรวจเอก พฤฒ จำรูญศาสน์ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้หากผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน ยังไม่มามอบตัว ก็จะออกหมายจับทันที พร้อมกำชับตำรวจดำเนินการทุกอย่างไปตามพยานหลักฐาน โดยไม่สนว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะเป็นใครมาจากไหน หรือสนิมสนมรู้จักกับใคร ซึ่งพฤติกรรมการก่อเหตุเป็นคดีอาญา ที่ไม่สามารถยอมความได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง แจ้งความคดีไม่คืบ ,ทำร้ายชายตาบอด