หนุ่มวัย 30 คลั่งรักหนัก! บังคับพ่อขับรถตามหาสาว พ่อขับช้าถูกต่อยตาปูด เจอ ตร.รวบ ร่ำไห้เป็นเด็ก

หนุ่มวัย 30 ทราบว่าสาวที่รู้จักกันในเฟซบุ๊กย้ายที่พัก บังคับให้พ่อช่วยขับรถออกตามหา เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ทำร้ายร่างกายพ่อ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องยิงสกัดยางรถ เพื่อหยุดหนุ่มคลั่ง ก่อนจะร่ำไห้เป็นเด็กหลักถูกจับกุม


วันที่ 19 ส.ค.65 เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่สายตรวจสภ.เมืองสิงห์บุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนคลุ้มคลั่ง ทำร้ายร่างกายพ่อ และทำลายข้าวของภายในบ้าน ขณะนี้ผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์นิสสัน สีบรอนด์เงิน ทะเบียนสิงห์บุรี อยู่บนถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าไปยังอำเภออินทร์บุรี จึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยสกัดรถยนต์คันดังกล่าวไว้ด้วย หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงตั้งจุดสกัดบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 87 ใกล้เคียงแยกสะพานต่างระดับสิงห์เหนือ

ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถยนต์รูปพรรณตามที่ได้รับแจ้ง จึงให้สัญญาณหยุดรถ แต่คนขับพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยังสกัดไปที่ยางล้อรถ จนสามารถหยุดรถยนต์คันดังกล่าวไว้ได้ พบว่ามีบุคคลอยู่ภายในรถสองคน คือนายดำรงค์ อายุ 56 ปี และนายธวัชชัย  อายุ 30 ปี ทั้งสองเป็นพ่อและลูกกัน โดยนายธวัชชัย ลูกชายเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งระหว่างการควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี นายธวัชชัยได้แต่ร่ำไห้ โอบกอดนายดำรง ผู้เป็นพ่อ เหมือนเด็กน้อยอยู่ตลอดเวลา

ส่วนที่มาของเหตุการณ์ นายดำรงให้การว่า ตนพักอาศัยอยู่กับนายธวัชชัยลูกชายเพียงสองคน โดยตนทำงานที่ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างริมถนนสายเอเชีย ส่วนนายธวัชชัย ลูกชายไม่ได้ทำงานอะไร ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายได้เล่นเฟซบุ๊กและได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง พูดคุยกันจนทราบว่าฝ่ายหญิงเช่าห้องพักอยู่ที่สามแยกบางงา ตำบลบางงา อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี แต่ต่อมาฝ่ายหญิงได้ย้ายออกไป โดยไม่ทราบว่าย้ายไปพักอยู่ที่ไหน ทำให้ลูกชายของตนเป็นทุกข์ใจมาก พยายามขับรถออกตามหาฝ่ายหญิงตามบ้านเช่าในละแวกใกล้เคียง แต่ก็ไม่พบฝ่ายหญิง

ก่อนเกิดเหตุลูกชายมาหาตนและบังคับตนให้ช่วยไปตามหาผู้หญิงคนดังกล่าว ก่อนจะขับรถยนต์พุ่งชนรั้วประตูหน้าบ้าน มุ่งหน้าออกสายเอเชีย ระหว่างทางตนพยายามพูดเตือนสติให้ขับรถช้าๆอย่าขับหวาดเสียว เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ จนลูกชายยอมให้ตนมาเป็นคนขับรถเอง แต่ตนขับรถไม่ได้ดั่งใจลูกชาย จนถูกตำหนิว่าขับช้าเกินไปให้เร่งความเร็วกว่านี้  จากนั้นลุกชายก็ชกเข้าที่เบ้าตาของตน และใช้ประแจฟาดเข้าที่แขนของตนไปหนึ่งครั้ง จนตนได้รับบาดเจ็บ จึงต้องยอมเปลี่ยนตัวให้ลูกชายมาเป็นคนขับอีกครั้ง  ซึ่งขณะนั้นก็พบเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่ลูกชายไม่ยอมหยุด จนเกิดเหตุการณ์ตามมาดังกล่าว

หลังจากสอบสวนและดำเนินการแล้ว ทราบว่า นายธวัชชัย ผู้ก่อเหตุ เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้เป็นพ่อมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดพึ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำในข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการีมาแล้ว และมาครั้งนี้ก็ก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวหนุ่มคลั่งรักรายนี้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ (เพราะขับไปชนรั้วชาวบ้าน) และทำร้ายร่างกายบุพการี อีกครั้ง