สังคม
อดีตทนายแม๊ แฉโรงเรียนเอกชนชื่อดัง บังคับครูจ่ายค่าเรียนพิเศษแทนนักเรียน ภรรยาทนไม่ไหวต้องลาออก
โดย nicharee_m
7 ก.ย. 2566
385 views
เปิดใจทนายแม๊ โพสต์เฟซบุ๊กหลังภรรยาโดนโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ทวงค่าสอนพิเศษนักเรียน แทนผู้ปกครองที่ไม่มีเงินจ่าย
จากกรณีที่นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย หรือ อดีตทนายแม๊ ได้โพสต์ระบายความในใจถึงโรงเรียนดังแห่งหนึ่งในข้อความว่า ไม่อยากเชื่อว่า รร.ดังอักษรย่อ ส.บังคับนักเรียนเรียนพิเศษ ทั้งที่เด็กบอกไม่มีค่าสอนพิเศษจ่ายให้กับ รร. แต่ รร.บังคับนักเรียนให้เรียน ถึงเวลาจ่ายค่าเรียนพิเศษ นร.ไม่มีจ่าย กลับไปหักเงินครูที่สอนพิเศษทั้งที่เงินเดือนก็น้อยนิดอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่ครูก็สอน นร.ไปแล้ว รร.หักเงินค่าสอนพิเศษครูคนนั้น และจะจ่ายให้ครูต่อเมื่อ นร.มาจ่ายเงินค่าเรียนพิเศษ สรุป นร.ไม่จ่ายเพราะบอก รร.แล้วว่า ผู้ปกครองไม่มีเงินจ่าย ถึงวันรับเงินค่าสอนพิเศษ ส่งซองเปล่าแล้วบังคับให้ครูเซ็นชื่อยินยอมให้หัก ครูหลายคนไม่กล้าต่อกร
แต่เมื่อวานมันคือเคสที่ภรรยาผมโดน แถมมีคำสั่งให้ธุรการลงมาทวงถามกลางสนาม โดยมีเด็กๆ นร.และครู รวมทั้งผู้ปกครองหลายคนงงไปตามๆ กัน โดยใช้วาจาเหมือนครูเป็นหนี้บังคับจะต้องชำระแทนเพราะปิดบัญชีไม่ได้ โดยให้ครูสอนพิเศษสำรองจ่ายก่อน ธุรการใช้วาจาด้วยถ้อยคำที่ฟังแล้วต้องบอกว่าเธอแน่มาก ครูงงมากว่าฉันมาสอนหนังสือแล้วต้องมาเป็นหนี้ รร.โดยไม่รู้ตัว
#เคสนี้ภรรยาผมโดนกับตัวเอง รร.ส.นี้ชั่งทำร้ายจิตใจ บังคับขู่เข็ญ เย้ยสามีในฐานะทนายความที่แสนใจดี คุณคิดว่าผมควรช่วยภรรยาผมอย่างไร ตอนนี้ภรรยาผมเครียดจนวันนี้ขอนอนพักและป่วยทันที ผมสงสารภรรยาผมที่ตั้งใจสอนตั้งใจทำงาน แต่กลับโดนกระทำแบบนี้คล้ายการค้ามนุษย์ไหม
ผมบอกภรรยาว่าไม่ต้องเซ็นยินยอมอะไรทั้งสิ้น มอบให้ผมเป็นผู้ตัดสินใจในการที่จะะดำเนินการอย่างไรต่อ ครอบครัวผมต้องโดนทำร้ายอีกแล้วหรอ งานนี้ผมไม่จบง่ายๆ ยอมทุกอย่างมามากแล้ว ภรรยาผมไม่ได้รับความยุติธรรมในการเป็นผู้ให้และผมจะใช้ความยุติธรรมที่มีอยู่จัดการความอยุติธรรมต่อไป
เคสนี้ถ้าผมทำให้ รร.นี้เลิกกฎระเบียบแบบนี้ได้ ครูอีกหลายคนคงไม่โดนแบบภรรยาผม สรุปภรรยาผมต้องขอลาออก เพราะการกระทำและคำสั่งจากใครไม่ทราบซึ่งมันสั่งสมมานานและทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นแม่พิมพ์ของ นร.ต้องทนกับการกระทำแบบนี้ไม่ไหว #งานนี้เดือดแน่ๆ ผมจะแฉพฤติกรรม รร.ส. นี้ให้ทุกคนได้รับรู้ #ขอโทษครับที่ต้องระบายยาวเพราะสงสารภรรยาตัวเองจริงๆ
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 6 ก.ย.66 นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ได้ร้องผ่านสื่อแทนภรรยาว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้รับโทรศัพท์จากภรรยาตนว่าที่โรงเรียนที่ภรรยาของตนเป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ซึ่งตนขอพูดเป็นอักษรย่อโรงเรียนเอกชน ส.ย่านสาธุประดิษฐ์ ที่ภรรยาตนเป็นครูสอนอยู่ ทางโรงเรียนได้ให้ฝ่ายธุระการมาทวงเงินกลางสนาม เป็นเงินเกี่ยวกับค่าสอนพิเศษ ซึ่งปกติแล้วเงินถ้านักเรียนคนไหนไม่จ่ายค่าสอนพิเศษทางโรงเรียนก็จะหักค่าสอนพิเศษจากคุณครูแต่ละคนที่สอน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมานานแล้ว และทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ ซึ่งสาขาอื่นที่ตนได้เช็คมาที่ภรรยาของตนเคยสอนไม่เคยมีการหักแบบนี้เลย
ซึ่งภรรยาของตนเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และทำงานได้ 1 ปีพอดี ตนรู้สึกว่าเหมือนตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งภรรยาของตนเป็นครูเงินเดือนก็น้อยอยู่แล้ว และพอสอนพิเศษแล้วเด็กไม่จ่ายก็มาหักเงินคุณครู ซึ่งบางทีเด็กก็ได้บอกฝ่ายธุระการว่าคุณแม่ไม่มีเงินจ่ายค่าสอนพิเศษ แต่ฝ่ายธุระการก็จะบอกเด็กว่าอย่าเพิ่งไปกลับมาเรียนก่อน แต่ถ้าเด็กคนไหนยังไม่จ่ายเมื่อครบกำหนดจ่ายค่าสอนพิเศษเขาก็จะมาหักกับคุณครูผู้สอนและจะให้ครูสอนไปเซ็นรับ แต่ถ้าเมื่อไปเซ็นรับแล้วโดนหักจนหมดก็จะมีแต่ซองเปล่าให้ครูและให้เซ็นยินยอมว่าให้หักเงินก้อนนี้ออกไป
ซึ่งมันก็หมดกำลังใจทั้งๆ ที่เราก็สอน ซึ่งมันก็เป็นค่าจ้างและรายได้พิเศษที่เพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งถ้าเป็นครูประจำชั้นจะโดนทุกคนแต่ไม่มีใครที่จะกล้าออกมาพูดแบบตนและแบบภรรยาตนเพราะว่ากลัวโดนไล่ออกจากหน่วยงาน หรือโดนเรียกสอบพอภรรยาตนโทรไปฝ่ายธุระการก็ไม่มีใครรับ และบอกให้ไปคุยกับรองผู้อำนวยการแทน ภรรยาตนก็เลยเริ่มไม่พอใจ
ซึ่งภรรยาตนก็เพิ่งมาบอกตนก็เลยคิดว่าภรรยาตนมีความสุขในการสอน จนภรรยาตนบอกว่าเครียดและขอกลับบ้าน ตนเลยได้ถามภรรยาตน ภรรยาเลยเล่าให้ฟัง ภรรยาตนคงไม่อยากให้ตนมีเรื่องเลยไม่บอก แต่ครั้งนี้คงเกินทนจริงๆ ตนก็ได้แจ้งภรรยาไปแล้วว่าอย่าเซ็นอะไรที่ทางโรงเรียนมอบให้เซ็น ซึ่งเงินที่ทางธุระการมาทวงค่าสอนพิเศษแค่ 1,800 บาท ครั้งก่อนจ่ายไป 3,000 บาท ซึ่งเงินเดือนครูก็น้อยมากยังจะมาหักเงินอีก และต้องมาเซ็นยินยอมให้เขาหักเงินตนเลยบอกภรรยาไม่ต้องเซ็นและมอบอำนาจมาให้ตนแทนว่าตนจะดำเนินการอย่างไร
ฝากถึงผู้ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ส.พ.ฐ. หรือว่าผู้ดูแลเกี่ยวกับเรื่องของโรงเรียนให้ตรวจสอบหน่อยว่าโรงเรียนที่มีการหักลักษณะแบบนี้มันมีการเข้าข่ายค้ามนุษย์ไหม บังคับขู่เข็นค่าแรงที่ไม่เป็นธรรม และมีการเอาเปรียบกันลักษณะแบบนี้ ก็ฝากให้ผู้ใหญ่ของโรงเรียนนี้ช่วยตรวจสอบว่าสาขานี้เกิดอะไรขึ้นสาขาอื่นมีแบบนี้ไหม นายกฤษณะ ทนายความฉายาทนายแม๊ กล่าวในที่สุด