สังคม

'เดชา' ไม่กังวล 'กฤษณะ' ร้องถอดใบทนาย เตือนระวังแจ้งความเท็จ ไม่โกรธ 'คุณแม่' เคารพเหมือนเดิม

โดย paweena_c

31 พ.ค. 2565

78 views

'ทนายเดชา' ไม่กังวล 'กฤษณะ' ร้องเรียนมารยาททนาย มันใจตนไม่ผิด ยังรักเหมือนน้อง เตือนแม่ อย่ามาทะเลาะถ้าไม่อยากเสียประโยชน์ เผยไม่เห็นด้วย เชิญหมอพรทิพย์พิสูจน์ศพ เชื่อว่าเริ่มมีการแตกคอกันเองในกลุ่มที่ปรึกษาคุณแม่แล้ว

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณสิทธิกร ปรักกัมนนท์ สัมภาษณ์ทนาย เดชา กิตติวิทยานันท์ เรื่องทนายกฤษณะ จะไปร้องมารยาททนายความ โดยทนายเดชากล่าวว่า ตนเองไม่ได้มีความกังวลใด ๆ เพราะมั่นใจว่าตนไม่ได้ทำผิดมารยาททนายความ ตนเองรักทนายกฤษณะเหมือนน้องตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันในรายการโหนกระแสช่อง 3


ที่ผ่านมาคุณแม่ไม่ได้ถอดถอนทนายกฤษณะ แบบธรรมดา เป็นการถอดถอนแบบแถลงข่าวกับสื่อมวลชน วันนั้นตนเองก็สงสารน้องกฤษณะ หากน้องกฤษณะจำได้เรายังกอดคอกันร้องไห้ ตนเองสงสารน้อง

จากเหตุที่ทนายกฤษณะโพสต์ ตนเองไม่ทราบว่าโพสต์ด้วยตัวเองหรือได้รับคำสั่งจากใครหรือเปล่า แต่ส่วนตัวแล้ว ตนคิดว่าทนายกฤษณะยังเคารพตน ไม่เชื่อว่าจะมาร้องเรียน แต่ถ้ามาร้องเรียนเราก็ต่อสู้กันไป อะไรที่ไม่เป็นความจริงคนร้องเรียนต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นการร้องเรียนเท็จ

ถ้าใครร้องเรียนมารยาทผม หากผมไม่ได้ทำผิดก็จะกลายเป็นแจ้งความเท็จต่อพนักงาน เป็นการหมิ่นประมาท ซึ่งตนเองฝากถึงทนายกฤษณะ ให้ลองไปตรวจสอบดูว่า ตนเองได้ทำผิดจริงไหม หากผิดจริงก็ร้องเรียนได้ แต่ส่วนตัวตนรักทนายกฤษณะเหมือนน้อง ไม่เคยคิดดำเนินคดี

ก่อนหน้านี้ที่ทนายกฤษณะพาดพิงตน ตนแค่พูดขู่ว่าจะแจ้งความ แต่ตนก็ไม่ได้แจ้งความ วันพิธีของแตงโม ทนายกฤษณะก็เข้ามาขอโทษตน ตนไม่เคยคิดจะดำเนินคดีหรือเอาเรื่องเอาราวกับกฤษณะเลย ไม่มีการโกรธเคืองกัน

ถ้าหากทนายกฤษณะไปร้องเรียนเท็จเรื่องมารยาททนายความกับตนจริง ก็รู้สึกผิดหวังและเสียใจ แต่ต้องคิดว่าน้องเราถูกใครบังคับอะไรอย่างไรหรือเปล่า ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดจากความคิดของทนายกฤษณะ

ส่วนเรื่องของคุณแม่ ทนายเดชาบอกว่า ยังเคารพคุณแม่เหมือนเดิม และไม่เคยทำอะไรให้ท่านเสียหาย ส่วนเรื่องค่าข้าว สองหมื่นกว่า ไม่ใช่อยู่ ๆ ตนออกมาแถลง แต่เป็นเรื่องที่นักข่าวสอบถาม จึงก็ตอบไปตามความเป็นจริง ตนไม่เคยบอกว่าคุณแม่เบี้ยวค่าข้าว แต่ถ้าคุณแม่เข้าใจไปแบบนั้น ก็ต้องกราบขออภัย สำหรับคุณแม่ตนเคารพตลอดเวลา คุณแม่จะพูดอะไรตนไม่โกรธ

ส่วนเรื่องที่คุณแม่บอกให้ตนไม่ต้องคิดถึงคุณแม่แล้ว ก็ไม่เป็นไร แต่คิดว่าคุณแม่ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างให้ตนช่วย และอย่ามาทะเลาะกับตนเลย เพราะคุณแม่จะเสียประโยชน์ ตนยังมีประโยชน์ต่อคดีนี้เยอะ คุณแม่เองก็รู้ดี

เรื่องการให้คำปรึษาทางด้านคดี ก็ให้คำปรึกษาคุณแม่เต็มที่ และคุณแม่รู้อยู่แก่ใจ ตนเองบอกแล้วว่าไม่ใช่การฆารกรรม แต่คุณแม่มองว่าเป็นฆาตกรรม คุณแม่ก็ต้องไปใช้บริการทนายท่านอื่น เรื่องนี้ตนเองไม่ได้ติดใจ เพราะเป็นสิทธิ์ของลูกความ

ทางด้านหมอผ่าพิสูจน์ศพ ตนเองได้แนะนำหมอตำรวจ ไม่เคยแนะนำหมอพรทิพย์ เพราะหมอพรทิพย์ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากหมอหลายคนความคิดเห็นไม่ตรงกัน คดีก็จะมีข้อสงสัยและจะแพ้ในที่สุด ตนแนะนำคุณแม่แค่นั้น เรื่องการที่คุณแม่ไปเชิญหมอพรทิพย์ตนเองไม่เห็นด้วย


เรื่องการสั่งฟ้อง ตอนนี้อัยการยังไม่ได้สั่งฟ้อง รออธิบดีภาคหนึ่งดูอยู่ แต่การนำเสนอข่าวอาจจะคลาดเคลื่อน รอไม่เกิน 23 มิถุนายน 2565 เชื่อว่าแนวโน้มเหมือนเดิม หากคุณแม่ต้องการอยากรู้เรื่องคดีให้คุณแม่ติดต่อมา ตนเชื่อว่าตนสามารถอำนวยความสะดวกให้คุณแม่เหมือนเดิม

จากกรณีเรื่องคุณแม่ให้สัมภาษณ์ว่ามาเจอ ส.ส.เต้ กับทีมที่ปรึกษากแล้วฟ้าเปิด ตนเองไม่โกรธและเข้าใจ แต่ก่อนคุณแม่ก็รักกฤษณะ รักอยู่ 12 วัน คุณแม่ก็เลิกรัก กลับมารักตนอีก 77 วัน ตนเองก็ยังไม่รู้ว่าคุณแม่จะรักที่ปรึกษาชุดใหม่นี้กี่วัน ไม่รู้จะเกิน 10 วันหรือเปล่า

ส่วนกรณีทีมปรึกษาคุณแม่ เท่าที่ตนเองรู้จากข่าววงใน คดีแตงโม ไม่มีหลักฐานว่าเป็นการฆารกรรม ไม่มีคลิปวีดีโอ ไม่มีประจักษ์พยายเห็นขณะฆ่า แต่กลุ่มที่ปรึกษาจะทำได้หรือไม่ได้ไม่รู้ ตนเชื่อว่า 100% ไม่มีหลักฐานใหม่ ไม่มีหลักฐานเรื่องฆารกรรม และไม่มีการฟ้องตรง อีกทั้งเชื่อว่าไม่มีการเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท ตนเองเชื่อในความเชื่องของตนว่าไม่มี 100%

ตอนนี้ตนเชื่อว่าเริ่มมีการแตกคอกันเองในกลุ่มที่ปรึกษาคุณแม่แล้ว ดูจากการแถลงข่าวที่ไม่ตรงกัน แต่เชื่อว่าสุดท้ายคุณแม่ต้องไปขอเป็นโจทย์ร่วมกับอัยการเหมือนเดิม

ฝากถึงคุณแม่อยากไปมีความคิดเห็นอะไรที่ขัดกับอัยการ หากไปขัดกับอัยการ จะเป็นการทำให้อัยการเสียหาย และอาจถูกอัยการไม่ให้เข้าเป็นโจรทย์ร่วม เพราะจะทำให้คดีเสียหายจากควาทคิดคนละทาง

ฝากถึง ส.ส. ไม่ต้องส่งคนมากระทืบ ไม่ต้องส่งคนนอกระบบมา ตนเองกลัว ยังไม่อยากตาย มีหน้าที่ต้องดูแลหมาอีกสองตัว ในขณะนี้ตนเองกำลังรวบรวมหลักฐานและไปยื่นประธาน 'ชวน หลีกภัย' ให้สอบจริยธรรม และจะไปร้อง ปปช. เรื่องผิดจริยธรรมร้ายแรง ส่งศาลฎีฎานักการเมือง ส่วนของท่านประทานชวน จะส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ และท่านเสรีพิศุทธ์ได้โทรมาพูดคุยตั้งแต่เมื่อวานนี้ ตนเองจะเข้าไปยื่นด้วยเช่นกัน

คุณอาจสนใจ

Related News