ต้นสังกัดแจงกรณีพยาบาลสาวโพสต์จบชีวิต ถูกกลั่นแกล้งในที่ทำงาน ไร้ผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือ

จากกรณีพยาบาลสาว โพสต์จดหมายตัดพ้อถูกบูลลี่ในที่ทำงาน ปัญหาในที่ทำงานและผู้บังคับบัญชาไม่ให้ความสำคัญ เตรียมคิดสั้นแต่โชคดีมีคนมาช่วยไว้ทัน ล่าสุดผู้อำนวยการโรงพยาบาลต้นสังกัด เผยตอนนี้เข้าไปดูแลใกล้ชิดแล้ว พร้อมรับปากดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้ขอเวลาเยียวยาจิตใจของน้องและครอบครัว ยังไม่อยากให้ไปรบกวนเจ้าตัว

จากกรณีที่มีพยาบาลสาวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โพสต์ระบายความอัดอั้นในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหา ระบุว่า ตนเองมีความพยายามและมุ่งมั่นที่จะเรียนและประกอบอาชีพเป็นพยาบาลให้ได้ จนกระทั่งประสบความสำเร็จ รับราชการเป็นพยาบาลวิชาชีพมาได้สามปี แต่ดูเหมือนว่าชีวิตการทำงานจะไม่เป็นไปตามที่เธอฝันไว้

ซึ่งเธอได้เขียนระบายในโพสต์ว่าถูกบูลลี่ในเรื่องรูปลักษณ์ร่างกาย เนื่องจากเธอเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง นอกจากนี้ยังมีปัญหาภายในที่ทำงาน ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลขโมยรถจักรยานยนต์ของเธอที่จอดทิ้งไว้ไปขายจนกลายเป็นคดีความ ทำให้เธอรู้สึกถูกคุกคามและบอกว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือดูแลจากทางผู้บริหาร โดยเธอได้โพสต์ทิ้งท้ายบอกลาพร้อมกับขอโทษพ่อแม่ พร้อมบอกด้วยว่า “พวกคุณจะไม่มีวันแกล้งฉันได้อีก”

ปรากฏว่าหลังจากลงเวรมาในเวลา 08.00 น. ต่อมาในเวลา 08.30 น. มีคนพบเห็นพยาบาลคนดังกล่าวพยายามจะกระโดดอาคารชั้นสองของตึกห้องคลอด แต่โชคดีที่มีคนไปพบและช่วยเหลือไว้ได้ทัน โดยล่าสุดเธอถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ภายใต้การดูแลของจิตแพทย์อย่างใกล้ชิด

ล่าสุด ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญหา เปิดเผยว่า ขณะนี้พยาบาลสาวปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกายและอยู่ในช่วงประคับประคองดูแลสภาพจิตใจ ส่วนสาเหตุความเครียดคงต้องรอให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปก่อน ยืนยันว่ามีการดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด

ส่วนปัญหาความเครียดที่มีการโพสต์ในเฟซบุ๊ก ในประเด็นถูกบูลลี่ เรื่องนี้ชี้แจงว่าทางโรงพยาบาลไม่มีเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน เพราะเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของบุคลากรโรงพยาบาลเป็นคนพื้นเมืองและมีกลุ่มชาติพันธุ์รวมอยู่ด้วย ที่ผ่านมาทำงานร่วมกันได้อย่างดี ไม่เคยมีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องถูกขโมยรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสรุปรายงานแจ้งผู้บริหารระดับไปแล้ว ในตอนนี้พยาบาลสาวได้รถคืนและอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของตำรวจ

ประเด็นเรื่องรถที่ทำให้พยาบาลสาวโพสต์ระบายว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย เรื่องนี้มีการเข้ามาพูดคุยก่อนหน้า ทางโรงพยาบาลก็ได้แก้ปัญหาให้คู่กรณีย้ายออกไปพักนนอกโรงพยาบาล พร้อมจัดห้องพักพิเศษให้กับพยาบาลสาวในโรงพยาบาล แต่น้องไม่สะดวกจึงขอไปพักเองกับญาติข้างนอก ส่วนสาเหตุจริง ๆ ก็คงจะต้องดูแลสภาพจิตใจน้องกับครอบครัวไปก่อน