สังคม

หนุ่มวัย 17 ยกมือไหว้ขอโทษรับผิด หลังแอบถ่ายสาวในห้องน้ำ ชี้ทำลงไปเพราะคึกคะนอง

โดย parichat_p

13 ก.ย. 2565

23.6K views

จากเหตุการณ์ที่ น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 28 ปี ได้นำคลิปเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ของโครงการสวนอาหารแห่งหนึ่งใกล้ๆ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ถนนสิริโสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มาโพสต์เพื่อเตือนภัย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเธอเองหลังเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วโดนหนุ่มวัย 17 ปี ใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่ายตอนตนเข้าห้องน้ำ เมื่อตนออกมาจากห้องน้ำ เห็นชายที่ก่อเหตุนั่งอยู่ที่รถจักรยานยนต์ เพราะจำรองเท้าแตะได้ จึงมีการด่าท่อและยื้อแย้งขอดูโทรศัพท์จากหนุ่มรายนั้น จนมีการชกต่อยเกิดขึ้น


โดยเหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมาจนเป็นกระแสข่าวโด่งดังอยู่ในขณะนี้ หลังจากนั้นเพียงข้ามคืนกลุ่มเพื่อนๆ ของผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยายนต์ เข้ามาวนเวียนอยู่หน้าร้าน แล้วตะโกนถามว่า “ใครต่อยน้องกู” ตนเองจึงตัดสินใจเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน กับ ร.ต.ท.พิชามญช์ สะตะ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา


ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ( 13 ก.ย.65 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากผู้ปกครองของ นาย เอล ( นามสมมุติ ) อายุ 17 ปี ชายที่ก่อเหตุแอบถ่ายในห้องน้ำหญิง โดยเผยว่าหลังจากมีกระแสข่าวเกิดขึ้น นาย เอล บุตรชายของตนได้สำนึกผิดอยากจะขอโทษผู้เสียหาย อีกทั้งยังมีการโยงว่าลูกชายตน ไปก่อเหตุแอบถ่ายในปั๊มน้ำมันแล้วโดนจับได้ก่อนหน้านี้ จึงอยากชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด


นาย เอล ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ตนเองได้ซื้อเบียร์มากิน และไม่ได้ตั้งใจจะแอบถ่าย น.ส.เอ แต่ตั้งใจจะเข้าไปถ่ายผู้หญิงที่อยู่ในห้องน้ำจริง โดยไม่ได้เจาะจง เป็นเพราะความคึกคะนองและความเมา จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนสาเหตุหลัง น.ส.เอ ผู้เสียหาย ออกมาด้านนอกแล้วมีการยื้อแย่งโทรศัพท์มือถือจากตน และตนได้ผลัก น.ส.เอ จนล้มนั้น ตนเองต้องขอโทษผู้เสียหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะความตกใจขณะที่ตนทำผิดในช่วงนั้น จึงคิดอะไรไม่ออกและไม่อยากให้ผู้เสียหายได้โทรศัพท์ไป ตนเองไม่มีเจตนาจะทำร้ายผู้เสียหายแต่อย่างใดและอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ซึ่งเหตุการณ์การณ์นี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่ตนทำอะไรไปโดยไม่ยั้งคิด จนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ส่วนประเด็นที่ชาวฌโซเชียวออกมาตั้งข้อสงสัยว่าชายที่เคยไปแอบถ่ายและโดนจับได้ ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ ทั้งลักษณะท่าทางและรถจักรยานยนต์ที่เหมือนกันนั้น เรื่องนี้ตนเองมั่นร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ใช่ตน จะเอาตนไปสาบานที่ไหนก็ได้ ตนเองเพิ่งจะเคยทำครั้งนี้ครั้งแรก เพราะความคึกคะนองและความเมา ส่วนรถจักรยานยนต์ที่เหมือนกันนั้น ยิ่งไม่ใช่ เพราะรถจักรยานยนต์คันนี้ ตนเพิ่งจะเอาออกมาขี่เป็นครั้งแรก


เนื่องจากที่บ้านของตนเป็นอู่ซ่อมรถ เพิ่งจะซื้อรถคันนี้มาจากลูกค้า และเพิ่งจะเอามาลองขี่เป็นวันแรกด้วยเช่นกัน ส่วนประเด็นสุดท้าย ที่มีญาติของตนขี่รถไปถามหาว่าใครทำร้ายตน เป็นเรื่องการสื่อสารที่ผิดพลาดระหว่างตนกับญาติ ที่สื่อสารไม่เข้าใจและไม่ตรงกัน ทำให้ญาติด่วนสรุปไปถามหาผู้เสียหาย แต่เมื่อลูกพี่ลูกน้องของตนทราบเรื่องที่มาทั้งหมด ก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ว่าตนเองกระทำผิดจริง จึงอยากขอโทษผู้เสียหายอีกครั้งและจะไม่มีใครไปยุ่งวุ่นวายกับผู้เสียหายอีก ซึ่งตนเองอยากให้เรื่องนี้จบไปโดยเร็ว

คุณอาจสนใจ

Related News