สังคม

ปปง.บุกยึดรถหรู-ทรัพย์สินซีอีโอหลอกลงทุนคริปโทฯ รวมมูลค่า 101 ล้านบาท

โดย panisa_p

30 ส.ค. 2565

129 views

วันที่ 30 สิงหาคม 2565 ตำรวจและ ปปง. สนธิกำลังเข้ายึดทรัพย์เป้ เจ้าของ P miner Cryptocurrency หลังจากที่มีคนเข้าแจ้งความว่าถูกหลอกลงทุนคริปโทฯ คาดว่ามีความเสียหายกว่า 1,700 ล้านบาท


ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ผู้เสียหายได้รวมตัวนำหลักฐานมาแจ้งความที่ดีเอสไอ เชียงใหม่ โดยหนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า นายเป้ได้เปิดกลุ่มวีไอพี ให้คนนำเงินมาลถงทุน 1 ล้านบาท ทั้งหมด 300 คน โดยจะเป็นการฝากเงินเทรดเหรียญคริปโทและทำเหมืองคริปโท ให้ปันผลตั้งแต่ 10-15% แต่สุดท้ายผู้ร่วมลงทุนกลับไม่ได้เงินคืน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ เป้ได้ออกมาแถลงผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กว่า ช่วงที่ผ่านมามูลค่าของเหรียญขาดทุนอย่างหนัก ในตลาดการลงทุนตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้บริษัทขาดทุนกว่า 70% ของเหรียญที่มีอยู่ การขุดเหรียญต้องใช้ค่าไฟจำนวนมากทำให้การขุดไม่คุ้มค่า ทางบริษัทขาดสภาพคล่องและไม่สามารถนำทุนสำรองมาใช้ได้ ซึ่งสัญญาว่ามีแนวทางแก้ปัญหาคือ


ให้นักลงทุนแจ้งเงินที่ลงทุนกับทนายของบริษัท เพื่อหาตัวเลขความเสียหายและหาทางเยียวยา บริษัทจะยังขุดเหรียญตามปกติ และใช้โซลาร์ฟาร์มในการลดต้นทุนการผลิต และนำรายได้แต่ละเดือนมาคืนนักลงทุน ทางทีมงานจะยังคงเทรดเหรียญต่อไป


โดยเป้ได้ทิ้งท้ายว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะโกงหรือหลบหนี และขอความเห็นใจจากนักลงทุนให้โอกาสทำงานเพื่อฟื้นตัว ขอร้องนักลงทุนอย่าเพิ่งดำเนินคดีทางกฎหมาย หากเกิดความเสียหายต่อตัวเอง ตนก็ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ ส่งผลกระทบบริษัท และส่งผลกระทบต่อนักลงทุนเอง


จากการสำรวจในเฟซบุ๊กของเป้ จะเห็นว่า เจ้าตัวใช้ชีวิตอย่างหรูหรา มีรถยนต์หรูอย่างแลมโบกินี่ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน เฟอร์รารี่ จอดอยู่หน้าบ้านใหม่ และมีการแจ้งเตือนไม่ให้คนอื่น ๆ ฟ้องตำรวจถึงธุรกิจคริปโต


ในขณะที่โพสต์สุดท้ายในเฟซบุ๊กของเป้ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ระบุไว้ชัดเจนว่า ตนต้องการที่จะขายรถยนต์เฟอร์รารี่ แลมโบกินี่ และเบนท์ลีย์ เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้ ในขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ได้ประกาศตั้งค่าหัว 50,000 บาท ให้คนที่แจ้งเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม เป้ โดยตอนนี้คาดว่า เป้น่าจะอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว


ล่าสุดเมื่อวันที่ (29 ส.ค.65) ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวรายงานว่าตำรวจ สอท. บุกบ้าน กิติกร เพื่อยึดทรัพย์ สิ่งที่ตำรวจยึดมาได้ คือ รถหรู 5 คัน ยี่ห้อปอร์เช่ เเลมโบกินี บีเอ็มดับบลิว เฟอร์รารี เบนท์ลีย์ นาฬิกาหรู บ้าน ที่ดิน เเละอายัดบัญชีกว่า 10 บัญชี รวมเป็นเงิน 101 ล้านบาท ตำรวจค้นบ้าน เเต่ไม่พบว่ามีใครอยู่ในบ้านสักคน จึงตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง พบว่า ยังไม่เดินทางออกนอกประเทศเเต่อย่างใด


ขณะนี้ ตำรวจ สอท.ได้ขอศาลออกหมายจับ นายกิติกร เเละ ณัฐวดี เเล้วฐานความผิด คือ ร่วมฉ้อโกงประชาชน ,ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เเละความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เงินกู้


จากการสืบสวนของตำรวจ สอท. ทราบว่า ตั้งเเต่วันที่ 1 ม.ค.65 จนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียหายลงทุนค่อนข้างเยอะ บางคนลงคนเดียวถึง 54 ล้านบาท ขณะนี้มีผู้เสียหายในระบบจำนวน 380 คน มูลค่าความเสียหาย 300 กว่าล้านบาท นี่ยังไม่รวมผู้เสียหายที่ยังไม่เดินทางเข้ามาเเจ้งความ


รายงานข่าวแจ้งว่าอยากให้ กิติกร กลับมาสู้คดี จะได้ตอบได้ว่าสิ่งที่เขาทำคืออะไร มีเจตนาจะคืนเงินผู้เสียหายหรือไม่ ผู้เสียหายไม่ต้องการให้ใครติดคุก เเต่ต้องการเงินของเขาคืน

คุณอาจสนใจ

Related News