สังคม

แม่ร้องตร. หลังคนร้ายแอบอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ไปจากที่นอนทุบทำร้ายร่างกาย ซ้ำใช้ไฟจี้น่วมทั้งตัว

โดย parichat_p

8 ส.ค. 2565

120 views

สงขลา - แม่ร้องคนร้ายแอบอุ้มลูก 2 ขวบ จากที่นอนไปทุบตีและใช้ไฟจี้น่วมทั้งตัว


วันนี้ (8 ส.ค. 65) ได้เกิดเหตุการณ์เด็กชายอายุเพียงแค่ 2 ขวบกว่า ถูกอุ้มจากที่เบาะที่นอนในบ้านพักไปทุบตีทำร้ายร่างกายจนน่วมแดงช้ำเกือบทั้งตัว และยังมีแผลพุพองตามตัวอีกหลายจุดเหมือนกับถูกไฟจี้ และแม่ได้ออกมาเรียกร้องให้ตำรวจเร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ


โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 31/2 ม.7 ต.เขาแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งอยู่ในชุมชนเขาแดง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องนี้ที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านเช่ามุงสังสะสีอยู่ในชุมชนเขาแดง และพบกับ น.ส.สมจิตร สังขทรัพย์ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ น้องสตาร์ อายุ 2 ขวบ 7 เดือน ที่แม่บอกว่า ลูกถูกทำร้ายร่างกาย และยังอยู่ในอาการหวาดกลัว โดยแม่ได้ถอดเสื้อผ้าให้ดูสภาพของลูกชายที่ถูกทำร้ายอย่างทารุน โดยมีแผลถูกทุบตี และใช้ไฟจี้ตามร่างกายหลายแห่ง


โดยเฉพาะแผ่นหลัง ซึ่งมีรอยแผลแดงช้ำเหมือนกับถูกฟาดอย่างแรงซ้ำๆหลายครั้งเต็มเผ่นหลัง และใบหน้า ซึ่งมีรอยฟกช้ำ และมีแผลคล้ายถูกไฟจี้ที่แก้ม ซึ่งเห็นแล้วน่าสงสารมาก และแม่ทำใจรับไม่ได้ เพราะ เมื่อเห็นรอยแผลบนร่างกายของลูกมันเจ็บ และบาดลึกไปถึงหัวใจ


น.ส.สมจิตร เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่น้องสตาร์ ลูกชายถูกอุ้มออกจากบ้านไปทำร้าย เพราะ เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา ลูกชายก็เคยถูกคนร้ายแอบอุ้มจากบ้านไปทุบตีตอนตี 3 กว่าๆ และตนได้ยินเสียงร้อง จึงวิ่งออกไปดู ก็เห็นคนร้าย ซึ่งจำหน้าได้ว่าชื่อ นายสิทธิ์ เป็นคนในชุมชน กำลังใช้ไม้ทุบตีลูกชายอยู่ใต้ต้นมะขามใกล้บ้าน จึงเข้าไปช่วย และถามว่า ตีลูกตนทำไม นายสิทธิ์ จึงวิ่งหลบหนีไป และพฤติกรรของ นายสิทธิ์ ก็ยังยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย


จากนั้นตนได้เข้าแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.สิงหนคร แต่ไม่ทราบว่า คดีไปถึงไหนแล้ว เพราะ นายสิทธิ์ ยังไม่ถูกจับกุม และเมื่อ 2 วันก่อน ตำรวจเพิ่งให้ไปชี้จุดเกิดเหตุใต้ต้นมะขามที่ลูกถูกทำร้าย และที่น่าสังเกตคือ ลักษณะการถูกทำร้ายครั้งแรกกับครั้งนี้ก็คล้ายๆกัน มีร่องรอยถูกตีที่หลัง และใช้ไฟจี้ ซึ่งคนร้ายน่าจะเป็นคนคนเดียวกัน


น.ส.สมจิตร เล่าอีกว่า ตอนนั้นเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่บ้านเช่าเลขที่ 48/4 หมู่ 1 ต.หัวเขา อ.สิงหนคร ตนรู้สึกกลัว จึงย้ายมาอยู่ที่บ้านแม่ ซึ่งอยู่ในชุมชนเดียวกัน เพราะ ปกติก็จะอยู่กับ 3 คนแม่ลูก ส่วนสามี ซึ่งเป็นลูกเรือประมง ไปออกเรือ ไม่ค่อยอยู่บ้าน


ล่าสุดเมื่อคืนนี้ ลูกชายก็ถูกอุ้มจากเบาะที่นอนไปทำร้ายอีก ตอนนั้นนอนอยู่ในบ้านเช่าหลังนี้กัน 3 คน ทั้งตน ลูกชายอายุ 7 ขวบ และ น้องสตาร์ อายุ 2 ขวบ 7 เดือน โดยน้องสตาร์นอนกับตนอยู่บนเบาะ และนอนด้านนอก ส่วนสามีตนไม่อยู่บ้าน เพราะ เป็นลูกเรือประมงไปออกเรือ


โดยตนเข้านอนในตอนเที่ยงคืน และหลับสนิท เพราะ กินยาหวัดเข้าไป และเมื่อคืนนี้ลืมล๊อคกุญแจด้านนอก เพียงแค่ขัดไม้ไว้ด้านในเท่านั้น มาตื่นอีกทีตอนประมาณตี 4 กว่าๆ เพราะ แม่ที่พักอยู่บ้านข้างๆ เรียกจะไปงานแต่งงานกันในช่วงเช้า แต่เมื่อตื่นขึ้นมาปรากฏว่า น้องสตาร์ ได้หายไป ตนและชาวบ้านพยายามตามหา แต่ก็ไม่พบ มีเพียงร่องรอยเดินย่ำผักบุ้งที่คลองหลังบ้าน จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.สิงหนคร แต่ตำรวจยังไม่รับแจ้ง โดยบอกว่า ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง แต่ก็จะส่งตำรวจมาช่วยตามหา


ซึ่งทีแรกตนคิดว่า ลูกชายน่าจะถูกชายคนเดิมอุ้มไปทำร้ายตรงจุดเดิมที่เคยถูกพาไปครั้งแรก แต่ยังไปไม่ถึง เพราะ ระหว่างทางได้พบลูกชายยืนอยู่ริมทะเล และมีชาวบ้านได้ช่วยเอาไว้ในสภาพที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยโคลนตม และร่างกายถูกทำร้าย แต่ลูกชายก็ไม่ได้ร้องให้


จึงพาตัวไปแจ้งความที่ สภ.สิงหนคร ตำรวจก็ให้พาตัวไปส่งโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกาย และกลับมาแจ้งความที่ สภ.สิงหนคร อีกครั้ง เพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายที่ทำกับลูกชายตน ซึ่งครั้งนี้ตนไม่เห็นว่า เป็นใคร แต่จิตใจเหี้ยมโหดมาก ทำร้ายเด็ก และตนก็อยากรู้ว่า ทำกับเด็กทำไม เพราะ ไม่ได้มีเรื่องโกรธแค้นอะไรกัน และสงสัยว่า คนที่ทำร้ายน่าจะเป็นคนเดิม


ด้าน นางทัตดาว สีใส อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ขับรถพาแม่ออกไปช่วยตามหาน้องสตาร์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุพยายามหาบริเวณบ้านเช่ากันทั่ว แต่ก็ไม่พบ มีเพียงร่องรอยคนเดินย่ำที่คลองหลังบ้าน จึงไปแจ้งความที่ สภ.สิงหนคร แต่ตำรวจบอกว่ายังไม่ถึง 24 ชั่วโมง ให้กลับมาตามหาให้ดี กระทั่งไปพบน้องสตาร์ ยืนอยู่ริมทะเล โดยมีชาวบ้านที่ผ่านไปเห็นยืนอยู่คนเดียว และช่วยเอาไว้ ซึ่งเสื้อผ้ามอมแมมมาก และพอแม่ถอดเสื้อออกก็พบว่า มีรอยแผลถูกทำร้ายเกือบทั้งร่าง


ขณะที่ นายเกษม เจ๊ะพงศ์ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นคนแรกที่ไปพบน้องสตาร์ ยืนร้องให้อยู่ที่ชายทะเล เล่าว่า ตอนไปเจอน้องสตาร์ ตอนตี 5 หัวรุ่ง ขณะเดินกลับจากละหมาดที่มัสยิด และเห็นเด็กร้อง และเนื้อตัวมอมแมมมาก เต็มไปด้วยโคลนตม จึงเข้าไปช่วยเอาไว้ และพยายามแจ้งตำรวจ แต่แม่เด็กก็ตามมาพบพอดี ซึ่งเหตุการณ์นี้ตนก็อยากรู้เหมือนกันว่า คนที่อุ้มเด็กไปทำร้ายจนเป็นแผลทั้งตัวแบบนี้ ทำไปเพราะอะไร


นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีเก่าที่แม่เคยแจ้งความเอาไว้เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังผ่านมาเกือบ 4 เดือน เจ้าของคดีเผยว่า กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการทางคดี โดยได้สอบปากคำแม่เด็กไปเรียบร้อยแล้ว และเมื่อ 2 วันก่อนได้ให้แม่ไปชี้จุดเหตุ และเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียก นายสิทธิ์ มาสอบสวน


และจากเหตุการณ์นี้ล่าสุดทางตำรวจกองปราบ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ก็ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเกิดเหตุ เพื่อพูดคุยสอบถามเรื่องราวกับแม่ของเด็ก รวมทั้งดูร่องรอยบาดแผลที่เด็กถูกทำร้าย เพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวครัวในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ พร้อมกับเดินทางไปยัง สภ.สิงหนคร ไปพบกับ พ.ต.อ.เสวี วุ่นหนู ผู้กำกับการ สภ.สิงหนคร ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อร่วมกันสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ และติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุโดยเร็วที่สุด เพราะ ดูจากบาดแผลที่ตัวเด็กนั้น ผู้ที่ลงมือโหดร้ายมาก และจิตใจน่าจะไม่ปกติ เพราะ ลงมือทำกับเด็กได้ลงคอ


โดยผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยขณะนี้คือ นายสิทธิ์ ที่เคยอุ้มน้องสตาร์ มาทำร้ายทุบตีแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตำรวจเตรียมไปนำตัวมาสอบสวนต่อไป อย่างไรก็ตามคดีนี้ตำรวจจะเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนอย่างละเอียดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแม่เด็กที่บอกว่า ลูกชายถูกคนอุ้มไปทำร้าย รวมทั้ง นายสิทธิ์ ที่ถูกแม่ระบุว่า เป็นคนอุ้มลูกชายไปทุบตีครั้งแรก และครั้งนี้ ก็สงสัยว่า น่าจะเป็นคนทำอีก


นอกจากนี้จะสอบสวนพยานแวดล้อมอื่นๆ ทั้งลูกชาย 7 ขวบ ซึ่งนอนอยู่ในบ้านในคืนเกิด และพยานแวดล้อมอื่นๆ และที่สำคัญที่สุดคือ วัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ในตัวเด็กที่จะระบุได้ชัดเจนว่า ใครเป็นคนลงมือ โดยเจ้าหน้าที่จะนำเสื้อผ้าที่น้องสตาร์ สวมใส่ในคืนเหตุ และชิ้นเนื้อในซอกเล็กไปตรวจหาดีเอ็นเอ ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญว่าใครเป็นคนทำร้ายเด็กกันแน่

คุณอาจสนใจ

Related News