‘น้องคิว’ เด็ก 11 ยอดกตัญญู ดูแล ‘แม่พิการ - ยายป่วย’ เป็นเสาหลักของบ้าน รับจ้างหลังเลิกเรียน

“น้องคิว” นักเรียนชั้น ป.6 ยอดกตัญญู กลายเป็นเสาหลักของบ้าน ดูแลแม่พิการทางการพูด ยายป่วยติดเตียง กำพร้าพ่อตั้งแต่ยังไม่เกิด ต้องทำงานหาเงินรับจ้างประทังชีวิตหลังเลิกเรียน



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบเด็กยอดกตัญญูที่ จ.อุทัยธานี ดูแลแม่ที่พิการทางการพูดและยายที่ป่วยติดเตียงตามลำพัง กำพร้าพ่อตั้งแต่ยังไม่เกิด โดยเด็กชายรายนั้นคือ “น้องคิว” ด.ช.ขจรเดช น้ำจันทร์ อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลบ้านไร่ ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี



เมื่อเดินทางไปยังบ้านของน้องคิว พบว่าสภาพบ้านเป็นบ้านชั้นเดียว ก่อด้วยอิฐบล็อกสภาพเก่า หน้าต่างตีแปะด้วยไม้ไผ่ และสังกะสี หน้าต่างบางช่องมีผ้าห่มเก่าๆ บังไว้ และอาศัยอยู่กันอย่างยากลำบาก ซึ่งน้องคิวคอยทำงานบ้าน งานครัว งานรับจ้างต่างๆ

ตอนนี้อาศัยเพียงเบี้ยคนพิการของแม่ และเบี้ยผู้สูงอายุเท่านั้น ส่วนชุดนักเรียน ชุดลูกเสือ ร้องเท้า ต้องใช้ของเก่าซึ่งคับไปแล้ว และทางโรงเรียนก็อนุโลมให้ใส่ชุดอะไรไปเรียนก็ได้ในช่วงแรกๆ ขณะนี้มีผู้เมตตาได้เริ่มให้เข้ามาให้การช่วยเหลือบ้างแล้ว โดยเฉพาะพระอาจารย์สุวิรัตน์ ถิรปัญโญ (พระผู้อุปถัมภ์) ที่คอยให้การช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่น้องคิวยังเล็กๆ แม้ว่าจะไม่ได้จำวัดอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเดินทางนำสิ่งของเครื่องใช้มอบบรรเทาความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง


นอกจากนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลบ้านไร่ และคณะครู ก็เดินทางมาเยี่ยมเยียนให้การช่วยเหลือเช่นกัน โดยเฉพาะในอนาคตในเรืองการเรียนต่อ ก็มีการประสานไปยังสภาเด็กเพื่อหาทุนในการส่งเรียนต่อในเบื้องต้นจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6 แล้ว



นางจำเนียร น้ำจันทร์ ยายของน้องคิว เปิดเผยว่า ป่วยเป็นไตวายฉับพลันเดินไม่ได้มา 1 ปี สภาพบ้านในตอนนี้ก็พุพังไปตามเวลาฝนตกก็รั่วต้องนำกาละมังมารองน้ำ ลูกสาวก็พิการ ตอนนี้ยายทำงานไม่ได้ก็เลยห่วงอนาคตของหลานชายมาก ที่ผ่านมาก็มีครูมาดูและผู้ใหญ่ใจดีมาดู โดยครูบอกว่าน้องคิวเป็นเด็กดี ได้เกรด 3 ขยัน มีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อน เลิกเรียนก็ไปรับจ้างทำงาน ได้วันละ 100 บาท มาใช้จ่ายในครอบครัว บางทีก็จำเป็นต้องยืมเงินชาวบ้าน ตอนนี้ครอบครัวมีความลำบากมากเรื่องค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและเรื่องกินอยู่พอไม่มีรายได้ ตนเคยคิดสั้นจะปลิดชีวิตตัวเองมาแล้ว แต่หลานก็มาห้ามไว้ก็เลยได้สติ




ด้าน พระอาจารย์สุวิรัตน์ ถิรปัญโญ (พระผู้อุปถัมภ์) เปิดเผยว่า อาตมาเห็นว่าทางครอบครัวของเด็กค่อนข้างลำบาก เลยช่วยเท่าที่กำลังจะมีส่วนใหญ่ก็จะเป็นน้ำดื่มข้าวสารและอาหารแห้ง บางทีก็มีเงินบ้างก็จะส่งเป็นค่ารถไปโรงเรียนโดยเด็กคนนี้นั้นนิสัยดี เคยบวชเรียนตั้งแต่ยังเล็กและยังชอบสวดมนต์ ช่วยเด็กคนนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2557



ส่วนนางกีรติญา กันแคล้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไร่ บอกกับทีมข่าวว่า เด็กคนนี้มีความลำบากในครอบครัว จึงได้ทางสภานักเรียนของโรงเรียนเข้าไปดูแล บางทีเด็กบอกครูว่าบางครั้งจำเป็นต้องขาดเรียนก็เพราะต้องไปรับจ้างทำงานสวน เรื่องชุดนักเรียนนั้นก็ได้คุยกับผู้ปกครองให้ไปโรงเรียนทุกวันและก็ไม่จำเป็นจะต้องมีครบทุกอย่าง ขอให้มาเรียนก่อนแล้วเรื่องอื่นก็จะได้รับการช่วยเหลือจากครู และผู้ใจดี