นักเรียน ม.6 หลานสุดกตัญญูดูแลยายป่วยหนักนานกว่า 2 เดือน จนผลการเรียนติดเกรด 0 ถึง 15 วิชา

ช่วยนักเรียน ม.6 หลานสุดกตัญญูดูแลยายป่วยหนักนานกว่า 2 เดือน จนผลการเรียนติดเกรด 0 ถึง 15 วิชา วันหยุดต้องไปแบกมันรับจ้างนำเงินซื้อข้าวเลี่ยงยาย ชาวบ้านสงสารช่วยหุงหาอาหารทุกวัน ขณะที่เพจนางฟ้าชาลอนยื่นมือเข้าช่วยเบื้องต้น



วอนสังคมช่วยนักเรียน ม.6 สุดกตัญญูดูแลยายป่วยหนักนานกว่า 2 เดือน จนผลการเรียนติดเกรด 0 ถึง 15 วิชา ชาวบ้านสงสารช่วยหุงหาอาหารทุกวัน ครูเผยที่ผ่านมาเป็นเด็กเรียนค่อนข้างดี ความประพฤติดีแต่มีปัญหาทางครอบครัว ทางโรงเรียนหารือยกเว้นค่าเทอมให้พร้อมให้เจ้าตัวสอบแก้ไขการเรียนที่ติดเกรดศูนย์ ซึ่งมีเกือบทุกวิชา



จากกรณีที่เพจดัง “นางฟ้าซาลอน” ซึ่งเป็นเพจที่มีเนื้อหาชอบเดินทางไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ ทั่วประเทศ ได้โพสต์เรื่องราวเด็กชายยอดกตัญญู ขาดเรียนเป็นเดือนเพื่อดูแลยายติดเตียง วันหยุด ก็ต้องไปรับจ้างแบกมันสำประหลังเพื่อหารายได้ซื้อของที่จำเป็นให้ยาย ชีวิตน่าสงสารมาก และส่งผมให้ผลการเรียนต้องติด 0 หมดทุกวิชา “นางทัศน์พรรณ ” อายุ 65 ปี (ยาย) อยู่บ้านหลังหนึ่ง ต.สักงาม อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร มีสภาพปัญหามีชีวิตเป็นอยู่อย่างยากลำบากช่วยเหลือตนเองไม่ได้ นอนติดเตียง เนื่องจากสภาพร่างกายพิการทางการเคลื่อนไหว ทานอาหารเองไม่ได้ต้องทานอาหารเหลว อาศัยอยู่กับหลานชายชื่อ “นายเอกวิทย์” อายุ 17 ปี เรียนชั้นมัธยมปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยต้องหยุดเรียนเป็นประจำ เพื่อต้องกลับมาดูแลยายที่บ้าน บางครั้งขาดเรียนหลายสัปดาห์เพื่อต้องเฝ้ายายที่เจ็บป่วยที่โรงพยาบาลคลองลาน คุณยายทัศน์พรรณ มีรายได้เพียงเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท และเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 800 บาท รวมรายได้ต่อเดือน 1,400 บาท

หลานชายต้องทำงานหารายได้เสริมช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือวันธรรมดา เพื่อมาใช้จ่ายในการเดินทางไปโรงเรียน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดูแลยาย ทั้งแพมเพิสที่ต้องใช้วันละไม่ต่ำกว่า 3 ชิ้น การซื้ออาหารเพื่อมาทำอาหารเหลวป้อนให้ยายกิน วันละ 3 เวลา ทำให้เกิดปัญหาต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าทางองค์การบริหารส่วนตำบลสักงาม ได้ให้การช่วยเหลือในบางส่วนแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการปรับสภาพแวดล้อมด้านที่อยู่อาศัย การมอบถุงยยังชีพ การจัดซื้อเครื่องปั่นอาหารเหลว การซื้อแพมเพิสให้ ก็ยังไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือ ในส่วนชุมชน/หมู่บ้านก็เข้ามาดูแลด้านสุขะลักษณะสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน และการให้กำลังใจ ดูแลการป้อนอาหารในช่วงเวลาที่หลานชายไปเรียนหนังสือ แม้ว่าจะได้รับการดูแลจากหน่วยงาน ชุมชน แต่ก็เป็นเพียงการบรรเทาปัญหาในเบื้องต้นเท่านั้น ยังคงขาดงบประมาณ สิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพเป็นอย่างยิ่งของใช้ที่จำเป็น ผ้าอ้อม Size L ,แผ่นรองซับ ,ข้าวสารอาหารแห้ง ,น้ำดื่ม ก็ยังขาดแคลน ซึ่งผู้ใจบุญสามารถร่วมบุญได้โดยส่งมาที่ นางทัศน์พรรณ แจ่มใส อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 364 หมู่ที่ 2 บ้านเพชรนิยม ต.สักงาม อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร 62180 หรือสมทบเงินผ่าน ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 020146676224 ชื่อบัญชี นางทัศน์พรรณ แจ่มใส หรือโทร 086-2082657 ผู้ใหญ่ จำเริญ (ผู้ใหญ่บ้าน)



โดยในวันนี้ (7 ก.พ.2567) เวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 364 หมู่ที่ 2 บ้านเพชรนิยม ต.สักงาม อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นบ้านของนางทัศน์พรรณ แจ่มใส อายุ 65 ปี ผู้ป่วยเลือดออกในสมอง ไม่สามารถพูดได้ และมีอาการพิการทางการเคลื่อนไหว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวทราบภายหลังว่าอาศัยอยู่กันเพียง 2 คนยายหลาน คือนางทัศน์พรรณ แจ่มใส และนายเอกวิทย์ หรือ “น้องพี”อายุ 17 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.คลองน้ำไหล อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

เมื่อเดินทางไปถึง พบว่ามี “นางสาวทัศนีย์ คงไทย” นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสักงาม ผู้นำชุมชน พร้อมด้วย อสม. ในพื้นที่พร้อมคณะครู รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ พม.จ.กำแพงเพชร กำลังพูดคุยให้กำลังใจ พร้อมทั้งแจ้งสิทธิ์ความช่วยเหลือเบื้องต้นจากทางราชการ โดยมี นายเอกวิทย์ ผู้เป็นหลาน กำลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดเนื้อตัวของผู้เป็นยายซึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยภายในบ้านหลังดังกล่าว



จากการสอบถามนายเอกวิทย์ หรือ ”น้องพี” ทราบว่า ผู้เป็นพ่อและแม่ของตนได้เลิกรากันไปนานกว่า 10 ปีแล้ว โดยผู้เป็นพ่อหลังเลิกรากับผู้เป็นแม่ก็ไม่ได้มาเยี่ยมเยียนแต่อย่างใดส่วนผู้เป็นแม่มาหาบ้างแต่ก็นานมาแล้วเกือบ 7 ปี ปัจจุบันตนต้องอยู่กับผู้เป็นยายในบ้านหลังนี้เพียง 2 คนเท่านั้น และก่อนหน้านี้เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ผู้เป็นยายของตนได้ล้มป่วยลง และเดินทางเข้ารับการรักษาพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลคลองลาน ซึ่งแพทย์ได้ระบุว่ามีอาการป่วยเลือดออกในสมอง จนทำให้ร่างกายพิการทางการเคลื่อนไหว ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

จากนั้นแพทย์ได้ให้มาพักพักฟื้นอยู่ที่บ้าน เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผู้เป็นยายได้เข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลคลองลาน ตนได้เฝ้าดูแลผู้เป็นยายอยู่ที่โรงพยาบาลตลอด จนต้องหยุดเรียนเป็นประจำ และเมื่อมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน หลังเลิกเรียน ต้องกลับมาดูแลยายที่บ้านอีก ทั้งป้อนข้าว ป้อนน้ำ เช็ดตัว ทำกายภาพบำบัดให้กับยาย ตนยอมรับว่าลำบากมาก ไม่รู้จะไปพึ่งใคร ในบางครั้งก็จะมีกลุ่ม อสม.ในพื้นที่ผลัดเปลี่ยนมาดูแลเรื่องของการหุงหาอาหารบ้างในบางครั้ง ในชีวิตตอนนี้ตนมีเพียงยายเท่านั้นที่ตนจะต้องดูแลจนบางครั้งต้องขาดเรียนไปหลายสัปดาห์ ซึ่งทุกครั้งจะแจ้งให้กับอาจารย์ประจำชั้นได้รับทราบซึ่งทางโรงเรียนก็ได้อนุญาตเนื่องจากเหตุความจำเป็นดังกล่าว



นายเอกวิทย์ หรือ ”น้องพี” ยังได้กล่าวต่ออีกว่าผลจากการที่ตนเอง ขาดเรียนบ่อยครั้งๆละหลายๆสัปดาห์จนทำให้ผลการเรียนของตนนั้นตกต่ำลงถึงกับติดเกรด 0 แทบทุกวิชา ซึ่งต่อมาตนก็ได้ปรึกษาทางอาจารย์ที่ปรึกษาโดยได้ชี้แจงถึงความจำเป็นของทางครอบครัวตน โดยทางคณะครู อาจารย์และทางผู้อำนวยการโรงเรียนคลองลานวิทยา ก็เข้าใจในสภาพความเป็นอยู่ของตนเป็นอย่างดี และจนถึงขณะนี้ได้ให้โอกาสตนพยายามขวนขวาย ซ่อมในวิชาที่ตนมีปัญหาอยู่ ซึ่งทั้งหมดตนติดเกรด 0 ถึง 15 วิชาซึ่งตนต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเพื่อที่จะเรียนให้ทันกับบรรดาเพื่อนๆส่วนการเดินทางไปโรงเรียนในทุกๆวันตนได้อาศัยซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนๆที่อยู่โรงเรียนเดียวกันไปเรียนมาโดยตลอด ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงประมาณ 2 เดือนตนก็จะเรียนจบในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้วส่วนเรื่องจะเรียนต่อหรือไม่นั้น คงต้องคิดกันอีกทียอมรับว่าช่วงนี้ชีวิตตนแย่มาก



ดังนั้นจึงอยากใคร่ขอความอนุเคราะห์จากผู้ใจบุญใจกุศลที่ประสงค์จะให้ความช่วยเหลือในกรณีดังกล่าวสามารถบริจาคโอนเงินช่วยเหลือเข้ามาได้ที่ ธนาคารออมสิน สาขาคลองลาน บัญชีเลขที่ 020146676224 ชื่อบัญชีนางทัศน์พรรณ แจ่มใส จักขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ทั้งนี้ นางสาวทัศนีย์ คงไทย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสักงาม พร้อมทั้งผู้นำชุมชนอีก 2 ท่านได้ตกลงจะดูแลในเรื่องของการใช้จ่ายเงินในกรณีที่มีผู้ใจบุญบริจาคมา โดยหากเห็นสมควรว่าเมื่อเพียงพอแล้วก็จะทำการปิดบัญชีรับบริจาคทันที



อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้หลังทางด้านเพจ“ นางฟ้าซาลอน” ได้โพสต์เรื่องราวดังกล่าวออกไปเบื้องต้นมีผู้ใจบุญโอนเงินบริจาคเข้ามาในบัญชีดังกล่าวกว่า 4 หมื่นบาท ซึ่งยังไม่เพียงพอในการดำรงชีพ จึงใคร่ขอความ อนุเคราะห์จากผู้ใจบุญในดังกล่าวอีกครั้ง