‘แม่เด็กวัย 12’ ไม่เชื่อผล DNA ผัวทำลูกท้อง หอบเงิน 3 แสน หวังประกันตัวสามี

แม่เด็กหญิง 12 เตรียมนำเงินกว่า 3 แสนบาท ประกันตัวสามีหลังตกเป็นผู้ต้องหาข่มขืนลูกสาวแท้ๆ จนตั้งครรภ์  โดยแม่เด็กไม่เชื่อว่าพ่อจะเป็นคนทำจริง


จากกรณีแม่พาลูกสาว ชื่อ น้องบี (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี เข้าแจ้งความกล่าวหาคนในหมู่บ้าน ชื่อนายลับ อายุ 51 ปี ข่มขืนจนตั้งท้องกว่าจะรู้ก็คลอดลูกออกมาแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้นายลับ ปฏิเสธข้อกล่าวหา จนมีการตรวจ DNA ซึ่งผลออกมารอบแรกปรากฏว่า ไม่ตรงกับผู้ที่ถูกกว่าหา


ต่อมาทางครอบครัวของน้องบี ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.สมจิตร เหล่ามงคลนิมิต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร และขอให้มีการตรวจ DNA ซ้ำรอบที่สอง โดยรอบที่สองทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่าง เพื่อตรวจไม่ใช่แค่ผู้ที่ถูกกล่าวหาเท่านั้น ยังรวมไปถึงญาติ และพ่อของเด็กด้วย ซึ่งผลการตรวจรอบสองออกมา เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าตรงกับพ่อของน้องบี ตำรวจจึงเข้าจับกุม พร้อมกับคันค้านการประกันตัว


ล่าสุด แม่ของน้องบี ได้นำหลักฐานเข้ายื่นต่อศาลพร้อมกับหลักทรัพย์ในการประกันตัวสามี โดยศาลตั้งวงเงินจำนวน 3 แสน 5 หมื่นบาท ซึ่งแม่ของน้องบี บอกว่า วงเงินประกันนั้นจะใช้วิธีเช่าหลักทรัพย์ประกันจากบริษัทฯ โดยการเช่าหลักประกัน คิดเป็นจำนวนเงินร้อยละ 10 โดยตนเองมีความหวังว่าศาลจะให้ความเมตตาให้ทางครอบครัวได้ประกันสามี เพื่อออกไปสู้คดีพร้อมกับพิสูจน์ความจริง



ด้าน พ.ต.ท.ธงชัย พาภักดี รองผู้กำกับ สภ.ดงหลวง เผยถึงกรณีแม่ของเด็กหญิงไม่เชื่อว่าพ่อเด็กแท้ๆ เป็นคนกระทำ แต่ผล DNA ทางนิติวิทยาศาสตร์ ตามพยานหลักฐานผลการตรวจสารพันธุกรรม ออกมาเชื่อว่า มีการกระทำตามที่กล่าวหา จึงต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อประกันตัวสามี ส่วนผลการสอบสวนยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ในระหว่างนี้ถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งศาลยังไม่พิพากษา ต้องหาหลักฐานมายืนยัน ส่วนเรื่องของการสอบสวนเด็กเพิ่มเติมนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะเชิญเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ให้มาเข้าร่วมสอบสวน เด็กหญิงเพิ่มเติมอาทิตย์หน้า โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหากับพ่อของเด็กคือ"ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี"



สำหรับหนังสือการรับรองการตรวจ DNA อย่างเป็นทางการ ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พญ.เกศกมล ผู้ที่เข้าให้การช่วยเหลือทางครอบครัวน้องบี บอกว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างออกผลการตรวจที่เป็นเอกสารคาดวันนี้ได้รับ โดยทางตำรวจและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องก็จะยึดตามหลักฐานทางวิทยาสศาตร์เป็นหลัก