สังคม

สาววัย 20 ป่วยไทรอยด์รุนแรง ถูกพ่อแท้ๆ ย่ำยี ไร้แรงสู้ อ้างเป็นการแสดงความรักต่อลูก

โดย thichaphat_d

27 ต.ค. 2566

2K views

สุดสลดใจ สาววัย 20 ปี ป่วยไทรอยด์เป็นพิษขั้นรุนแรง พ่อแท้ๆ กักขัง-ข่มขืนนานนับปี อ้างเป็นการแสดงความรักต่อลูก หญิงสาวไร้ทางสู้ เคยคิดจะฆ่าพ่อ แต่ไม่มีแรง ถูกแย่งมีดไปได้ ชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็น พลเมืองดีทราบเรื่องไม่นิ่งดูดาย แอบแจ้งมูลนิธิปวีณาช่วยเหลือพ้นขุมนรก แต่อาการป่วยทรุดหนัก ต้องเข้าโรงพยาบาล ส่วนพ่อเจอข้อหาหนัก  ตำรวจคุมตัวฝากขังแล้ว

เมื่อวานนี้ (26 ต.ค.66) มีรายงานว่า มีพลเมืองดีแจ้งไปยังมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่ามีหญิงสาว อายุ 20 ปี ป่วยไทรอยด์เป็นพิษขั้นรุนแรง  ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนต่อเนื่องมานานปีเศษ หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงขัดขืนต่อสู้ ส่วนพ่ออ้างว่าเป็นการแสดงความรักต่อลูก กักขังให้อยู่แต่ในห้องเช่า จนขาดการรักษา อาการกำเริบหนัก นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ จึงได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ และพม.เชียงใหม่ เข้าช่วยเหลือหญิงสาวทันที ก่อนคุมตัวพ่อมาดำเนินคดี และส่งฝากขังแล้วเมื่อวานนี้ (26 ต.ค.66)  

มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ให้ข้อมูลว่า พลเมืองดีรายดังกล่าว แจ้งขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิฯ ว่าหญิงสาวคนนี้ ถูกพ่อแท้ๆ อายุ 44 ปี กักขังและข่มขืนมานานกว่า 1 ปี โดยตัวหญิงสาวป่วยไทรอยด์เป็นพิษขั้นรุนแรง ไม่ได้รักษาต่อเนื่อง และตอนนี้อาการแย่ลงเรื่อยๆ เหนื่อยง่าย ใจสั่น อ่อนเพลีย อยากให้พาไปรักษาและช่วยเหลือให้พ้นจากพ่อ เพราะเธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

พลเมืองดีเล่าว่า ปกติแล้ว น.ส.เอ หญิงสาวผู้เสียหาย จะต้องอยู่ในสายตาพ่อตลอด แต่มีอยู่วันหนึ่ง จังหวะที่พ่อเผลอ พลเมืองดีเลยมีโอกาสได้พูดคุยกับ น.ส.เอ ซึ่งเล่าทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่จำความได้ ตนอยู่กับพ่อ 2 คนในห้องเช่ามาตลอด เพราะแม่ถูกพ่อทุบตีเป็นประจำเลยหนีไป พ่อมีอาชีพขายอาหารตามสั่งและมีนิสัยชอบดื่มเหล้าเมาเป็นประจำ พ่อข่มขืนตนอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีแล้ว ตนป่วยไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ และถูกพ่อกักขังให้อยู่แต่ในห้องเช่า เวลาที่พ่อไปขายอาหารตามสั่ง ก็จะเอาตนไปด้วย แต่ไม่ยอมให้ตนพูดคุยกับใครเลย

ตนเคยคิดไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ และเคยเอามีดจะมาแทงพ่อให้ตาย แต่เพราะตนไม่มีแรงพ่อจึงแย่งมีดไปได้ และพ่อบอกกับตนว่า ที่ทำไปนั้นเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องที่พ่อแสดงความรักต่อลูก ทุกวันนี้ตนเหมือนตกนรกทั้งเป็น ขอให้พลเมืองดีแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ มาช่วยเหลือตนด้วย

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ และ นายวรพงษ์ บุญเคลือบ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ พม. และสหวิชาชีพ ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือ น.ส.เอ ทันที   พบว่า น.ส.เอ อยู่ในสภาพอิดโรยและอ่อนเพลียมาก อยู่กับพ่อ 2 คน ในห้องเช่า เจ้าหน้าที่ พม.  จึงได้รีบพา น.ส.เอ ส่งโรงพยาบาลทันที  โดยแพทย์สั่งให้แอดมิตนอนโรงพยาบาลเพราะอาการหนักเกรงว่าจะเป็นอันตราย

นอกจากนี้แพทย์ยังตรวจพบว่า น.ส.เอ กำลังมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย ต้องดูแลทั้งสภาพร่างกายอย่างใกล้ชิด จากนั้นสหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปที่โรงพยาบาลสอบปากคำ น.ส.เอ เบื้องต้นยืนยันว่าต้องการจะดำเนินคดีกับพ่อให้ถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว พ่อไปสอบสวนที่ สภ.ช้างเผือก พร้อมกับแจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้สืบสันดานฯ และคุมตัวไปฝากขังศาลจังหวัดเชียงใหม่แล้ววานนี้

นางปวีณา กล่าวว่า ขอบคุณพลเมืองดีที่ไม่ดูดายพบเห็นผู้ตกทุกข์ได้ยากแจ้งเรื่องมายังมูลนิธิปวีณาฯ และขอบคุณ พ.ต.อ.กิตติพงษ์, นายวรพงษ์ ที่ช่วยเหลือเคสอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือหญิงสาวรายนี้ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จนกว่าอาการป่วยจะดีขึ้นก่อนจะมีการฝึกอาชีพให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้และสามารถกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุขต่อไป


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/MpSVaOuYuqg


คุณอาจสนใจ

Related News