สังคม

มูลนิธิบูรณะนิเวศ จัดเวทีเสวนาวิชาการ 'อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม' โจทย์ท้าทายที่สังคมไทยต้องรับมือ

โดย panisa_p

5 ส.ค. 2567

109 views

วันนี้มูลนิธิบูรณะนิเวศ จัดเวทีเสวนาวิชาการ ว่าด้วยอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม โจทย์ท้าทายที่สังคมไทยต้องรับมือให้ได้ เพื่อสะท้อนปัญหากากอุตสาหกรรม ที่สะสมมานกระทั่งถูกขุดค้นพบการลักลอบฝังมากขึ้น รวมถึงข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว ซึ่งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมระบุว่า ปัญหามลพิษจากกลุ่มบริษัทเดียวที่เชื่อมโยงถึงกัน สร้างผลกระทบที่อาจถูกจัดได้ว่า เป็นระดับโลก ขณะที่ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าพบการปลอมแปลงเอกสารทั้งใบรับรองผลแล็บและใบกำกับการขนส่งมากกว่า 2 พันฉบับ พร้อมระบุว่าภายในเดือนนี้ น่าจะมีสำนวนคดีที่พร้อมนำส่งอัยการได้



เวทีเสวนาวันนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมเนืองแน่นทั้งภาคราชการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกากสารเคมี ที่กระจายกันอยู่หลายพื้นที่ ซึ่งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่าการเร่งรัดการลงทุน ออกใบอนุญาต โดยไม่มีมีการกำกับตรวสอบที่ดีพอ และกฎหมายที่ใช้กำกับดูแลบางฉบับ ไม่ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เช่นโทษปรับและจำคุกน้อยไป ขณะที่อายุความคดีก็สั้น จนขาดอายุความได้เร็ว ไม่ทันต่อการสืบสวนที่คนกลุ่มนี้ใช้วิธีซับซ้อน มีนอมินี ปัญหาเหล่านี้สะสมมานานจนแทบจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก



ประเด็นนี้ถูกระบุว่าเป็นอันดับต้นๆของโลก เพราะการลักลอบทิ้ง หลอกทิ้ง ปล่อยทิ้ง และการฝังบนดินกระจายกันไปหลายจังหวัด การจะฟื้นฟูทั้งดินและน้ำทั้งที่ปนเปื้อนบนดินและฝังใต้ดิน ใช้เวลามากกว่า 10 งบประมาณกว่าหมื่นล้านโดยไม่ค่าเสียผลประโยชน์การใช้ที่ดินในระยะยาว



ขณะที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน สนับสนุนที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เสนอร่างแก้ไขพรบ.โรงงาน ให้ที่กรมโรงงาน ยังมีอำนาจสั่งการ และโรงงานยังต้องรับผิดชอบ แม้ว่าถูกกรมฯสั่งเพิกถอนใบอนุญาต หากพบว่าโรงงานทำผิด รวมถึงการตั้งกองทุนอุตสาหกรรม หรือแม้แต่ที่กรมควบคุมมลพิษ เสนอร่างแก้ไข พรบ.ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้อัยการสามารถฟ้องคดีแทนชาวบ้านได้



ขณะที่ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ระบุว่าการแข่งขัดตัดราคาของบางบริษัทที่รับกำจัดกาก เป็นเหมือนตัวล่อ ให้บริษัทผู้ก่อกำเนิดกากเลือกใช้บริษัทเหล่านี้ที่ไม่มีคุณภาพ ขณะที่ผู้บริษัทผู้ก่อกำเนิดกาก ก็มักตั้งเกณฑ์การลดค่ากำจัดกาก ถือเป็น KPI ที่ดี ซึ่งมองว่าไม่ถูกต้อง เพราะเท่ากับกระตุ้นให้เกิดการใช้บริษัทที่ลดราคาแต่ไม่รับผิดชอบสังคม



ส่วนเครือข่ายนักกฎหมายจิตอาสาเพื่อสังคม ซึ่งช่วยเหลือทางคดีสิ่งแวดล้อม เสนอใหเร่งแก่เรื่องความล่าช้า เพราะสารเคมี ทิ้งง่าย พิสูจน์ยาก มีชาวบ้านหลายคนล้มละลายเพราะขาดอาชีพแล้วยังล้มละลายเพราะฟ้องร้อง นอกจากนี้หลายคดีที่ตัดสินแล้ว แต่จะมีปัญหาต่อไปคือบริษัทไม่มีเงินจ่ายชดเชยอยู่ดี จนเป็นภาระทางภาษีของรัฐ



ขณะที่ผู้ร่วมรับฟังส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าปัญหาดังกล่าวเป็นอาชญากรรมทางสิ่งแวดล้อม ดังนั้นอาชญากรควรต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่เป็นหัวหน้าคณะทำงานกรณีเพลิงไหม้และการลักลอบทิ้งกากสารเคมี ที่บริษัทวินโพรเสส เชื่อมโยงไปถึงบริษัทเอกอุทัย อ้างอิงหลักฐานบางส่วนที่พบว่าใช้นอมินีดำเนินการแทน พฤติการณ์หลายอ่างเข้าข่ายอั้งยี้ รวมถึงพบการปลอมและใช้เอกสาร เมนิเฟส ปลอมมากกว่า 2 ฉบับ



เวทีเสวนาวันนี้ มีความเห็นจากผู้ร่วมเวทีและผู้รับฟังอย่างหลากหลาย เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาและสอดคล้องกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นตอนนี้ ข่าว 3มิติ จะนำเสนออย่างต่อเนื่อง

คุณอาจสนใจ