มูลนิธิบูรณะนิเวศ จี้รัฐเร่งแก้มลพิษจาก บ.วินโพรเสส ที่บ้านหนองพะวา จ.ระยอง

มูลนิธิบูรณะนิเวศ เรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามากำกับดูแลการแก้ปัญหาน้ำปนเปื้อนสารเคมี ของบริษัทวินโพรเสส จังหวัดระยอง อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยระบุว่าการที่สารเคมีที่เป็นต้นเหตุมลพิษ ยังอยู่ในการควบคุมของบริษัทผู้ก่อมลพิษ ยิ่งทำให้การแก้ปัญหาทำได้ยากยิ่งขึ้น ขณะที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ยืนยันว่าบริษัทต้นกำเนิดมลพิษ ไม่อาจทิ้งความผิดชอบไปอย่างง่ายๆ แม้ว่าผู้รับจ้างจะทำงานครบตามสัญญา แต่หากพบปัญหาใหม่ก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่ม


มูลนิธิบูรณะนิเวศ ที่ไปสำรวจค่าคุณภาพน้ำของน้ำปนเปื้อนสารเคมีที่ไหลผ่านทางระบายทางน้ำของกรมทางหลวง ในหมู่บ้านหนองพะวา พบว่ามีค่าPH เป็น 3 ซึ่งก็คือมีสถานะเป็นกรด แต่ไม่ถึงกับเป็นวัตถุอันตราย สอดคล้องกับผลตรวจของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่พบว่าน้ำที่รั่วไหลและล้นออกมา ไม่พบสารอื่นๆไม่ว่าจะเป็นตะกั่ว แคทเมียม หรือปรอท แต่พบว่ามีค่าเป็นกรด


ผู้ประสานงานมูลนิธิบูรณนิเวศ ที่ติดตามปัญหานี้มายาวนานเห็นว่าตราบใดที่ บริษัทผู้ก่อให้เกิดปัญหามลพิษ ยังควบคุมวัถตุที่เป็นมลพิษอยู่ ก็ยากที่จะแก้ปัญหาได้


ในการประชุมแก้ปัญหา มีข้อมูลที่เหมือนทางเป็นทางสามแพร่ง คือบริษัทเอส เค อินเตอร์เคมิคอล ผู้รับจ้างกำจัดวัตถุอันตรายและบำบัดน้ำปนเปื้อนสารเคมี ชี้แจงว่าเขาถูกเจ้า ของโรงงานวินโพรเสส แจ้งความขัดขวางไม่ให้ทำงานบางจุดที่เกี่ยวกับการบำบัด และต้องเผชิญปัญหาฝนตกหนักจนทำงานไม่ได้ แต่เขายืนยันว่าหากยึดตาม สัญญาที่มี การว่าจ้างเป็นปริมาตร งานของเขาจะเสร็จตามสัญญาในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ แต่หากจะให้บำบัดเพิ่ม ก็ต้องเพิ่มงบประมาณ เพราะเกินกว่าข้อตกลง

ตอนนี้ชาวหนองพะวา กังวลใจว่า เมื่อการบำบัดครบตามสัญญาว่าจ้าง แต่ผลกระทบไม่ได้จบลง เพราะของเสียปนเปื้อนสารเคมียังไม่หมด และมีค่าเป็นกรดเพิ่มขึ้น แล้วจะมีใครรับผิดชอบ ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรม ชี้แจงว่า เจ้าของโรงงานไม่อาจทิ้งความรับผิดชอบไม่ได้ และเป็นเรื่องผิดปกติมาก บ่อน้ำใกล้โรงงานจากที่เคยมีค่าพีเอช 3 กลายเป็นมีฤทธิ์ไม่ต่างจากกรด แก่ถือเป็นวัตถุอันตราย ซึ่งอาจต้องดำเนินคดีเพิ่มฐานทิ้งวัตถุอันตรายลงบ่อน้ำ


กรณีน้ำในบ่อที่ 1 มีความเป็นกรดเพิ่มขึ้นกว่าที่เคยสำรวจก่อนหน้านี้ มีข้อสงสัยที่เป็นไปได้มากที่สุดนั่นคือการมีการลักลอบเทสารเคมีลงในพื้นโรงงานแล้วปล่อยไหลลงทางระบายน้ำแล้วลงบ่อ เพื่อหวังเอาถังเปล่าไปขาย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงไม่เพียงท้าทายต่อจิตสำนึกการแก้ปัญหา แต่ยังท้าทายต่อการกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่รัฐตามคำสั่งศาลตอนนี้ด้วย


สำหรับสถานะของที่ดินและอาคารโรงงาน ข่าว 3 มิติได้รับข้อมูลยืนยันว่า เดิมทีเคยอยู่ในการถือครองของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย แต่ได้ถูกโอนกรรมสิทธิ์ถือครองให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด หรือ IAM แล้วตั้งแต่ปี 2560 ดังนั้นธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จึงไม่ใช่ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินและบริษัทวินโพรเสสนี้