พี่สาว 'เสี่ยชูวงษ์' ร้องราชทัณฑ์ประหาร 'บรรยิน' ตามคำพิพากษา ชี้ก่อเหตุร้ายแรงซ้ำซาก

พันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ ก่อคดีฆาตรกรรม ถึง 2คดี ในช่วงเวลาไม่ห่างกัน โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ศาลฏีกาได้ตัดสินประหารชีวิตในคดีฆาตรกรรม นายชูวงศ์ แซ่ตั้ง เพื่อนร่วมรุ่นอบรมหลักสูตรเดียวกัน และถัดมาในเดือนกรกฎาคม ศาลฏีกาได้ตัดสินในคดีฆาตรกรรม พี่ชายผู้พิพากษา ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตออกมายื่นคำร้องต่อกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ให้ลงโทษตามคำสั่งศาลฎีกา เพราะเป็นนักโทษที่ทำผิดคดีอุกฉกรรจ์และต่อเนื่อง ไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษ



กล้องวงจรปิดหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นหลักฐานหนึ่งที่ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ตรวจพฤติการณ์ของจำเลย ซึ่งแต่งกายชุดตำรวจในการลักพาตัวพี่ชายผู้พิพากษา ไปต่อรองคดี จนเสียชีวิตภายในรถ อีกทั้งยังมีการเตรียมอุปกรณ์ เผาทำลายศพ ในสถานที่ซึ่งยากแก่การรู้เห็นของบุคคลอื่นไว้ล่วงหน้า แม้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบจะลดโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่ศาลอุทธรณ์ แก้เป็นลงโทษประหารชีวิต และล่าสุดเมื่อวันที่12 กรกฎาคมได้ยืนคำพิพากษา เป็นลงโทษประหารชีวิต โดยก่อนหน้านี้ในวันที่ 27 มิถุนายน ศาลฏีกาได้พิพากษายืนประหารชีวิตพ.ต.ท.บรรยิน ในคดีฆาตรกรรมนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนหลักสูตร วปอ. รุ่น 56 และหลักสูตร วตท.20 และหลังจบหลักสูตร เพียง1วันพ.ต.ท.บรรยินก็รับไปตีกอล์ฟ และเสียชีวิตในวันที่26 มิถุนายน2558



นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวนายชูวงษ์ ซึ่งเดินหน้าต่อสู้คดีมาเป็นเวลา 9 ปี กระทั่งศาลฏีกาตัดสินประหารชีวิต ได้เดินทางมากรมราชทัณฑ์เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอให้บังคับโทษประหาร พ.ต.ท.บรรยิน เพราะศาลฎีกาได้ตัดสินประหารชีวิต ถึง 2



คดีรวมถึงคดีอุ้มฆ่าผู้พิพากษา รวมมีคดีอาญาอีก 5 คดีที่กระทำความผิด และระหว่างที่อยู่เรือนจำยังวางแผนแหกคุก มีพฤติกรรมซ้ำซาก หากไม่ได้รับโทษตามศาลตัดสิน และออกมาภายนอกจะเป็นอันตราย เพราะขณะนั่งฟังคำตัดสิน ยังไม่ได้รู้สึกสำนึกต่อการกระทำผิดใดๆ



และเมื่อศาลถึงขั้นสุดท้ายแล้ว นักโทษสามารถที่จะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ โดยต้นทางคือ กรมราชทัณฑ์ เธอเข้าใจว่าการอภัยโทษเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักโทษที่กลับตัวกลับใจเท่านั้น แต่สำหรับนักโทษทีมีพฤติกรรมซ้ำซาก กรมราชทัณฑ์ ควรยื่นหรือไม่



โดยที่ผ่านมา พ.ต.ท.บรรยิน เคยได้รับเลื่อนเป็นนักโทษชั้นดีมาครั้งหนึ่ง แต่หลังจากศาลตัดสินคดีฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาจึงได้เลื่อนกลับไปอยู่ชั้นเดิม



ด้าน รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ บอกว่า ขั้นตอนปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ สำหรับกรณีผู้ต้องขังที่ศาลฎีกาพิพากษาตัดสินโทษประหารชีวิต โดยจะให้ผู้ต้องขังรวบรวมเอกสาร ยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ภายใน 60 วัน ซึ่งเป็นสิทธิ์ของนักโทษ



รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ระบุว่าขณะนี้มีนักโทษที่ถูกตัดสินประหารชีวิตอยู่ในเรือนจำบางขวางร่วม 300 ราย โดย นักโทษคนหลังสุดที่ประหารเมื่อปี 2561 เมื่ออยู่ในเรือนจำ ก็จะทำตัวดีจนเข้าเกณฑ์ได้รับการพิจารณาให้เลื่อนขั้นเป็นนักโทษชั้นดี ชั้นเยี่ยม เพื่อจะได้ลดวันคุมขัง และรับอิสรภาพ