สังคม

กองปราบฯ ยก 2 คดี 'บรรยิน' ตัดสินประหารชีวิต ผลงานเด่นประจำปี ปราบผู้มีอิทธิพล

โดย panwilai_c

1 ก.ย. 2565

170 views

วันนี้ (1 ก.ย. 65) เป็นวันที่กองปราบปรามครบรอบวันสถาปนา 74 ปี กองปราบในยุค 2022 นับว่ายังเป็นหน่วยที่ทำคดีสำคัญๆ และเกี่ยวโยงกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล พิสูจน์จากคดีสำคัญที่นำขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาลแล้ว นำไปสู่การลงโทษ โดยเฉพาะคดี 2 คดี ทั้งฆาตรกรรมนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง และอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ซึ่งกองปราบปรามได้ทำหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน จนศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาจำเลยให้ประหารชีวิตทั้งสองคดี



จากคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ซึ่งไม่มีประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ ไม่ทราบว่า ใครฆ่า ฆ่าที่ไหน และฆ่าเมื่อไร สร้างความยากและสลับซับซ้อน อีกทั้งเวลาการเสียชีวิตล่วงเลยมานานกว่า 3 เดือน ท่ามกลางกระแสกดดันว่า เป็นคดีที่หาพยานหลักฐานได้ยาก และสุดท้ายอาจต้องยกผลประโยชน์ให้จำเลย กลายเป็นคดีอุบัติเหตุที่หาคนผิดไม่ได้



แต่จากคดีที่แทบหาหลักฐานไม่ได้ กลับกลายเป็นคดีตัวอย่างได้อีกคดีหนึ่ง ที่หาหลักฐานมาหักล้างคำพูดของพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์จำเลยในคดี ด้วยข้อพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์



พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเป็นหัวหน้าทีมชุดสืบสวนคดีฆาตรกรรมนายชูวงษ์เมื่อปี 2558 ย้อนคดีให้ฟังว่าเมื่อต่อกรกับผู้มีอิทธิพลและรู้กฏหมายยิ่งต้องพิสูจน์ให้สิ้นข้อสงสัย หักล้างคำโกหกให้ได้ทุกประเด็น



ซึ่งสาเหตุการตายพิสูจน์ได้ว่าผู้ตายถูกของแข็งกระแทกที่ศีรษะด้านหลังอย่างรุนแรง และถูกรัดที่คอจนคอหัก บาดแผลไม่สอดคล้องกับอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ และยังเป็นการเสียชีวิตก่อนที่จำเลยจะขับชนต้นไม้ด้วยความเร็ว 30กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจำเลยพาผู้ตายออกจากสนามกอล์ฟในเวลา 20.11นาที หากขับมาชนต้นไม้จุดเกิดเหตุจะใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 นาที แต่พ.ต.ท.บรรยินขับรถหายไป 116นาที หรือเกือบ 2 ชม. กระทั่งมาชนต้นไม้



ตำรวจกองปราบปรามยังได้พิสูจน์ว่า พ.ต.ท.บรรยินได้รับโทรศัพท์จากนส.อุรชา โบร๊กเกอร์ที่รับโอนหุ้น ย่านบางโฉลง จึงทราบพิกัดว่าช่วงที่หายไป ผู้ตายน่าจะเสียชีวิตบริเวณย่านบางโฉลง เพราะอาหารในกระเพาะยังไม่ย่อย



สอดคล้องกับเวลาออกจากสนามกอล์ฟประมาณครึ่งชั่วโมง และภาพจากกล้องวงจรปิดได้ส่งไปยังตำรวจต่างประเทศ ขยายให้จนพบว่าผู้ตายเสียชีวิต โดยมีมือของ พ.ต.ท.บรรยินประคองมาตลอดทาง



จากคดีโอนหุ้นกว่า 228 ล้านบาท จนถึงคดีฆาตรกรรมนายชูวงษ์ และพ.ต.ท.บรรยินยังก่อคดีฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ซึ่งล้วนเป็นคดีที่ตำรวจกองปราบปรามรับผิดชอบ และคดีได้มาถึงชั้นอุทธรณ์ ที่พิพากษาให้ จำเลยต้องโทษประหารชีวิต



ยังมีอีกหลายคดีในรอบปีที่ผ่านมา ที่ตำรวจกองปราบปรามได้ติดตามจับกุม นำคืนความเป็นธรรมมาให้เหยื่อ ไม่ต่ำกว่า 4,500 คดี จึงเป็นความทุ่มเท ของเจ้าหน้าที่ทั้ง 6 กองกำกับการในสังกัดกองปราบปราม ที่ต้องทำมากกว่าหน้าที่ในการปราบปรามคนร้าย ที่นับวันจะก่อเหตุรุนแรงขึ้น เพื่อความสงบสุขของสังคม

คุณอาจสนใจ