อาชญากรรม

'บรรยิน' ยังหัวเราะ ไม่ตกใจ แม้ศาลฎีกาพิพากษายืน 'ประหารชีวิต' ฐานฆ่าเสี่ยชูวงษ์

โดย nattachat_c

28 มิ.ย. 2567

457 views

วานนี้ (27 มิ.ย.) ที่ศาลอาญาพระโขนง มีการอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ หลายสมัย ที่ตกเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน / ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้


โดยโจทก์ของคดีนี้คือ นางศิริรัตน์ แซ่ตั้ง กับนางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ ภรรยาและพี่สาว เสี่ยชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน (จำเลย) ฐานร่วมกับพวกฆาตกรรมนายชูวงษ์ กรณีรถยนต์ที่ นายชูวงษ์ นั่งมากับ พ.ต.ท.บรรยิน ชนต้นไม้ จนเป็นเหตุทำให้ นายชูวงษ์ เสียชีวิต


โดยวานนี้ (27 มิ.ย.) ศาลได้ขึ้นบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้มีการเบิกตัวจำเลย ได้แก่ พ.ต.ท.บรรยิน ให้ฟังคำพิพากษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งถ่ายทอดมาจากเรือนจำบางขวาง เนื่องจากก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.บรรยิน เคยพยายามวางแผนหลบหนี


โดยพ.ต.ท.บรรยิน ได้สวมใส่เสื้อเรือนจำสีน้ำตาล พร้อมกับมีการใส่หน้ากากอนามัยสีฟ้า และมีการตัดผมทรงตามระเบียบการตัดผมผู้ต้องขัง ศาลใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษา โดยไล่เรียงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 ตามพยานหลักฐาน ใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษา ประมาณ 2 ชั่วโมง


ช่วงที่มีการอ่านคำพิพากษาเวลา 11.57 น. พ.ต.ท.บรรยิน ได้มีการขออนุญาตศาลไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งระหว่างนั้นอยู่ในช่วงจังหวะที่ศาลกำลังอ่านคำพิพากษาอยู่ หลังจากที่จำเลยเสร็จสิ้นภารกิจ ต่อมาเวลา 12.00 น. ศาลได้มีการอ่านคำพิพากษาต่อ กระทั่งไปสิ้นสุดในเวลาประมาณ 12.20 น.


โดยระหว่างที่มีการอ่านคำพิพากษา สังเกตว่า นางศิริรัตน์ ภรรยาของนายชูวงศ์มีการใช้กระดาษทิชชูซับน้ำตาอยู่เป็นระยะ กระทั่งศาลได้อ่านคำพิพากษาระบุว่า “ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ประหารชีวิต พ.ต.ท.บรรยิน” จังหวะนั้นเองทำให้นางศิริรัตน์ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง พร้อมกับยกมือขอบคุณศาล ขณะที่หลังจากศาลอ่านคำพิพากษา ปรากฏว่า พ.ต.ท.บรรยิน ไม่ได้มีอาการตกใจ บางจังหวะยังมีการหัวเราะอยู่ด้วย


ทั้งนี้ ผ่านมา 9 ปี จากวันที่เสี่ยชูวงษ์ถูกฆาตกรรมอำพราง จนกระทั่งล่าสุดศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิต


ด้านนายเอนก คำชุ่ม ทนายความฝั่งญาติ นายชูวงษ์ กล่าวว่า ช่วงเช้าศาลอาญาพระโขนงอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้ โดยศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิตนายบรรยิน เเต่ในรายละเอียดต้องรอคัดคำพิพากษามาดูก่อน

-----------------

ทั้งนี้คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 นายชูวงษ์ อายุ 50 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์หรูยี่ห้อเลกซัสสีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กทม. ชนต้นไม้ มี พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย เป็นคนขับ มีนายชูวงษ์นั่งข้าง ๆ โดยชนต้นไม้ริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. เป็นเหตุให้นายชูวงษ์ถึงแก่ความตาย


ซึ่งโจทก์มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า จำเลยกับพวกร่วมกันฆาตกรรมอำพรางนายชูวงษ์ แต่ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย ให้การปฏิเสธอ้างเป็นอุบัติเหตุ เหตุเกิดที่ ต.บางโฉลง กับ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และแขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องเกี่ยวกัน


ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 64 การกระทำของจำเลยกับพวก จึงเป็นการร่วมกันกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิด เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ คบคิดกับพวกด้วยการวางแผนและลงมือฆ่าผู้ตาย ปกปิดการกระทำโดยสร้างเรื่องและอำพรางคดีว่าสาเหตุการตายของผู้ตายเกิดจากอุบัติเหตุ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7) ประกอบมาตรา 83 ให้ลงโทษประหารชีวิต ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์


ต่อมา เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2565 ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริงที่ยื่นอุทธรณ์มาฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน

--------------

สำหรับการตัดสินแต่ละคดีของ พ.ต.ท.บรรยิน มีดังนี้


คดีที่ 1 – โกงหุ้นจากเสี่ยชูวงษ์ ตัดสินคดี 20 มีนาคม 2563 : พ.ต.ท.บรรยินอ้างว่า ผู้หญิงสองคน พริตตี้ กับโบรกเกอร์สาว เป็นชู้รักลับๆ ของเสี่ยชูวงษ์ แต่จากการสืบสวนพบว่า ทั้งคู่เป็นชู้รักกับ พ.ต.ท.บรรยินต่างหาก โดยทั้ง 3 คนร่วมกันวางแผนในการใช้เอกสารปลอมเพื่อโอนหุ้น บทสรุปคดีนี้ พ.ต.ท.บรรยิน โดนจำคุก 8 ปี


คดีที่ 2 – อุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ตัดสินคดี 15 ธันวาคม 2563 : ศาลตัดสินว่า จำเลยต้องโทษประหาร แต่ด้วยการยอมรับข้อเท็จจริงบางส่วน นับว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงมีเหตุบรรเทาโทษ รวมทุกกระทงแล้ว จำคุกตลอดชีวิต แต่ฝั่งโจทก์ขอสู้ต่อที่ศาลอุทธรณ์ชี้ว่าไม่มีเหตุใดให้ลดโทษ ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสิน (1 ก.ค.2565) จากจำคุกตลอดชีวิต เป็นประหารชีวิตแทน


คดีที่ 3 – ไตร่ตรองฆ่านายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ตัดสินคดี 20 มกราคม 2564 : ศาลตัดสินว่า จากหลักฐานที่มี ชัดเจนว่าผู้ตายเสียชีวิตมาก่อนเกิดเหตุรถยนต์ชนต้นไม้ การกระทำของ พ.ต.ท.บรรยินถือว่าไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งเมื่อถูกจับได้ ก็มิได้รู้สำนึก แต่กลับปฏิเสธมาโดยตลอด ในอดีตตัวเองเคยเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรต้องมีจิตสำนึกชั่วดี แต่กลับกระทำความผิดโดยไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง บทสรุป ประหารชีวิต


คดีที่ 4 – วางแผนแหกคุก ตัดสินคดี 31 พฤษภาคม 2565 : ศาลตัดสินว่า พ.ต.ท.บรรยิน วางแผนจริง แม้จะกระทำการไม่สำเร็จ โดนลงโทษจำคุก 3 ปี และปรับ 50,000 บาท

-----------------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/BNwsLEsI_sg

คุณอาจสนใจ

Related News