เปิดใจญาติ 'เสี่ยชูวงษ์' หลังคดียืดเยื้อ ผ่านมา 8 ปี เพิ่งสั่งฟ้อง 'บรรยิน' ฟอกเงิน

สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ 2 สั่งฟ้องพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ และพวกรวมทั้งหมด 3 คน ในคดีร่วมกันฟอกเงิน หลังจากนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจที่ถูกฆาตกรรม เสียชีวิตมานาน 8 ปี ทำให้ขณะนี้หุ้นที่ถูก พ.ต.ท.บรรยินปลอมแปลงเอกสารโอนให้กับ นส.อุรชา ซึ่งเป็นโบรกเกอร์และ น.ส.กัณฑณา พริตตี้ ยังถูกอายัดไว้ เพื่อรอการตัดสินคดี



แม้การเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั้ง นักธุรกิจที่ถูกพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ เพื่อนร่วมรุ่น ปวอ. 56 ขับรถไปชนต้นไม้เสียชีวิต แต่สุดท้ายกลายเป็นคดีฆาตกรรมอำพรางจะผ่านมา 8 ปีแล้ว แต่คดียังไม่จบ เพราะล่าสุดสำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ 2 เพิ่งมีคำสั่งฟ้องคดีร่วมกันฟอกเงิน โดยมี พ.ต.ท.บรรยิน เป็นจำเลยที่ 1 ร่วมกับ นส.ศรีธรา พรหมมา มารดา ของ นส.วัชรียา หรืออุรชา โบรคเกอร์ และนายประวีร์ น้องชาย นส.อุรชา เป็นจำเลยที่ 2และ3



โดยคดีร่วมกันฟอกเงิน กองปราบปรามได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญา เมื่อปี 2559 เป็นคดีระหว่างสำนักงานป้องกัน และปรามปราม การฟอกเงิน กล่าวหา พ.ต.ท.บรรยิน กับพวกรวม 5 คน และได้เรียกมารับทราบข้อกล่าวหาตั้งแต่ปี 2561 เบื้องต้นทังหมดให้การปฏิเสธ แต่ระหว่างปี 2564 ถึงปี 2565 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาประหารชีวิต พ.ต.ท.บรรยินในคดีฆาตรกรรม ถึง 2คดี ทั้งคดีฆาตรกรรมพี่ชายผู้พิพากษา และฆาตรกรรมนายชูวงษ์



ทำให้ นส.วัชรียา หรืออุรชา โบรคเกอร์ และนส.กันฑณา พริตตี้ ให้การรับสารภาพในชั้นศาล ศาลได้ตัดสินเมื่อเดือนธันวาคม ปี2565 ตัดสินลงโทษนส.วัชรียาหรือ อุรชา จากหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี กระทำผิดตามฟ้องจริง 20 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 ปี รวม 40 ปี จำเลยให้การสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 20 ปี



ส่วนน.ส.กัญฐณา ระทำผิดตามฟ้อง 7 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 ปี รวม14 ปี สารภาพ คงจำคุก 7 ปี



ส่วน พ.ต.ท .บรรยิน น.ส.ศรีธรา และ นายประวีร์ ที่ให้การปฏิเสธ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ2 เพิ่งมีคำสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จากเส้นทางการโอนหุ้น ที่พ.ต.ท.บรรยิน ได้ปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ และนำมาฟอกเงิน โดยโอนให้นส.กัญฐณา เป็นหุ้นEA มูลค่ากว่า 220 ล้านบาทและขายหุ้นไป 30 % เพื่อนำไปซื้อหุ้น WIN มูลค่า กว่า 10 ล้านบาท และนส.กัญฐณาได้เงินไปประมาณ 50 ล้านบาท และนำไปซื้อบ้าน กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่อายัด หุ้นที่เหลือและบ้าน



ส่วน นส.วัชรียา หรืออุรชา พ.ต.ท. บรรยิน ได้โอนหุ้น ผ่านทางนส.ศรีธรา ซึ่งเป็นมารดาของ นส.วัชรียา มูลค่ากว่า 31 ล้านบาท และ นส.ศรีธรา ได้โอนให้กับ นส.วัชรียา และมีการนำเงินไปซื้อบ้าน 2 หลังมูลค่า 15 ล้าน และซื้อรถยนต์ปอร์เช่ 6 ล้านบาท โดยมีการใช้ชื่อน้องชายถือทรัพย์สิน



ขณะที่ นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ ระบุว่า เพิ่งทำบุญการเสียชีวิตของน้องชายครบรอบ 8ปี ไปเมื่อ4วันก่อน และเพิ่งได้รับทราบว่า พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ มีคำสั้งฟ้อง พ.ต.ท.บรรยินในคดีร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งถือว่าช้า

เพราะคดีฆาตรกรรม ขณะนี้ก็เหลือเพียงศาลฎีกาเท่านั้น



หลังจาก พ.ต.ท.บรรยิน น.ส.ศรีธรา และนายประวีร์ ให้การปฏิเสธ ในคดีร่วมกันฟอกเงินและขอต่อสู้คดี ศาลจึงให้พนักงานอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีเข้ามาใหม่ กระทั่งล่าสุดมีการพิจาณาสั่งฟ้อง โดยคดีนี้จะเกี่ยวโยงกับเรื่องหุ้น ที่ถูกอายัดไว้ หลังจากพ.ต.ท.บรรยินปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นให้กับนส.อุรชา และนส.กัณฑณา ซึ่งขณะนีัหุ้นก็ถูกอายัดระหว่างการพิจารณาคดี โดยพ.ต.ท.บรรยิน มีคดีที่ศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินประหารชีวิต ทั้งคดีฆาตรกรรมพี่ชายผู้พิพากษา และคดีฆาตกรรมนายชูวงษ์ ซึ่งยังเหลือเพียงคำตัดสินของศาลฎีกา