เตรียมขนย้ายพรุ่งนี้! กากเคมีโรงงาน 'วินโพรเสส' กำชับรัดกุม อย่าให้กระทบชาวบ้าน

วันนี้มีบริษัทเอกชน 4 ราย ลงไปสำรวจกากสารเคมีที่โรงงานวินโพรเสส จ.ระยอง เพื่อดูว่าจะมีกากสารเคมีชนิดใดบ้างที่จะนำไปออกไปกำจัดในโรงงานของตัวเอง เพื่อลดปัญหาให้ชาวหนองพะวา ได้เร็วที่สุด และปรากฏว่า มี 2 บริษัท ที่ตอบรับจะขนย้ายได้ทันทีวันพรุ่งนี้ แยกเป็นกรดกัดแก้ว ที่จะเริ่มขนย้ายตั้งแต่เช้า และอีกชนิดคืออลูมิเนียมดรอสประมาณ 7 พันตัน ซึ่งจะขอทดลองขนย้ายก่อน ขณะที่กรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้เข้มงวดเรื่องขั้นตอนขนย้าย และให้ทำแผนระยะยาวเพื่อของบกลาง สำหรับย้ายสารเคมีทั้งหมดโดยเร็ว



ผลิตภัณฑ์ที่เห็นในถุงบิ๊กแบ็กนี้คือ คือแคลเซียม ฟูลออไรด์ หรือรู้จักกันในชื่อกรดกัดแก้ว เป็นกรดที่มีความเข้มข้นที่กัดแก้วจนแตกได้



กากสารเคมีเหล่านี้ในโรงงานวินโพรเสส ตอนนี้พบว่าประมาณ 400 ตัน จะเป็นชุดแรกที่จะทะยอยขนออกได้วันพรุ่งนี โดยบริษัท เอสซีไออีโค เซอร์วิสเซส จำกัด เป้าหมายคือนำไปใช้ประโยชน์ต่อในโรงงานที่อำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี มีการคำนวนว่าจำนวน 400 ตันนี้จะใช้เวลาราว 4-6 วัน



ส่วนกองวัสดที่เห็นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกากสารเคมีที่เรียกว่า อลูมิเนียมดรอส ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ทั้งชาวหนองพะพวา และโรมโรงงานอุตสาหกรรมต้องการให้ย้ายออกไปโดยเร็วเช่นกัน เพราะเป็นสาเหตุที่เมื่อถูกน้ำหรือความชื้นแล้วจะคายฤทธิ์แอมโมเนีย เป็นไอระเหยแสบตา แสบจมูก



กากสารเคมีชนิดนี้มีประมาณ 7 พันตัน ซึ่งวันนี้ เมทเทิลคอม จำกัด มาตรวจแล้วระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะนำไปใช้ประโยชน์ต่อ



อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมผู้ว่าราชการจังหวัดที่นำบริษัทเอกชน 4 รายเข้าตรวจสอบวันนี้ ยืนยันว่ามี 2 รายที่จะเริ่มขนย้ายกากสารเคมีดังกล่าว ซึ่งกรดกัดแก้วอาจใช้เวลาราวส 4-6 วัน ส่วนอลูมิเนียมดรอส จะขนได้วันละ 100 ตัน มี 7 พันตัน อาจะต้องใช้ 70-90 วันแต่จะให้เร็วที่สุด การขนย้ายเหล่านี้ยังไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนงบ 4.9 ล้าน ก็จะเร่งขนย้ายที่จำเป็นเร่งด่วนภายใน 120 วัน ที่เหลือจากนั้นจะของบประจำและงบกลางจากรัฐบาล



วันนี้กรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เชิญหน่วยงานทีเกี่ยวข้องชี้แจงการแก้ปัญหาวินโพรเสสในหลายมิติทั้งเรื่องทรัพยากธรมชาติ สุขภาพ และการศึกษา โดยหนึ่งในนั้นคือการกำชับให้การย้ายกากสารเคมี เป็นการแก้ปัญหาไม่ใช้ย้ายปัญหา และต้องมีความรัดกุมไม่ก่อให้เกิดผลกระทบ



ระหว่างนี้ให้ภาครัฐเพิ่มการสื่อสารกับชาวบ้านการและการตรวจสุขภาพให้ประชาชน รวมถึง เสนอให้ทำแผนระยะยาว ในการย้ายกากสารเคมีออกไปโดยการเสนองบกลาง เพื่อไม่ให้เกิดการขาดตอนในการแก้ปัญหา



การย้ายการสารเคมีพรุ่งนี้ เป็นที่จับตาของชาวบ้านอย่างมากที่ต้องการเห็นการย้ายกากสารเคมีออกจากพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม และตั้งความหวังว่าทั้งการแก้ปัญหาสารเคมีที่เป็ฯต้นเหตุ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการตรวจสุขภาพประชาชน จะได้รับการยกระดับการช่วยเหลือให้เร็วขึ้นกว่าเดิม