สังคม

จนท.ค้น บ.วินโพรเสส พบเอกสารหลักฐานโยงหลายบริษัท ถูกร้องเรียนเรื่องกากสารเคมี

โดย panwilai_c

29 พ.ค. 2567

183 views

การที่นายโอภาสถูกแจ้งข้อกล่าวหาครอบครองวัตถุอันตราย และได้รับการประกันตัวในวงเงิน 2 หมื่นบาทนั้น ถือเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานตามกฎหมายที่ผู้ถูกกล่าวหาจะได้รับ และโทษของความผิดฐานครอบครองวัตถุอันตรายสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกรรมการบริษัท วิน โพรเสส ก็เคยถูกดำเนินคดีและศาลตัดสินมาแล้วก่อนหน้านี้ ในคดีลักษณะเช่นเดียวกัน



โดยจะเห็นว่าโทษปรับตามกฎหมายนั้น น้อยมากหากเทียบกับผลกระทบของสารเคมีที่เกิดขึ้นต่อชุมชน เช่นที่กรมควบคุมมลพิษ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ทางแพ่งต่อนายโอภาส และบริษัทวินโพรเสส มากกว่า 1,700 ล้านบาท ดังนั้นการมุ่งเน้นหาความเชื่อมโยงของธุรกิจที่ทำผิดกฎหมายเพื่อให้เกิดความรับผิดชอบทางแพ่ง โดยการเปิดโปงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในกรณี้จึงจำเป็น โดยเฉพาะการขอหมายศาลเข้าค้นหาเอกสารหลักฐานวันนี้ ก็มีเป้าหมายเพื่อหาหลักฐานดังกล่าว และเจ้าหน้าที่พบหลักฐานสำคัญจำนวนมาก



หมายศาลจังหวัดระยองอนุญาตให้ตำรวจและกรมโรงงานเข้าค้นบริษัทวิน โพรเสส ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยองเมื่อเช้านี้ โดยมีอดีตภรรยาคนหนึ่งของนายโอภาส บุญจันทร์ เป็นผู้นำค้นและเป็นพยานการค้น



เป้าหมายของเจ้าหน้าที่คือเอกสารจำนวนมากกองนี้ ที่วางอยู่ในโกดังปะปนอยู่กับวัสดุสิ่งของ ที่ผู้นำค้นบอกว่า เป็นสินค้าของเก่า



ก่อนหน้านี้เอกสารเหล่านี้ถูกเก็บอยู่ในสำนักงานบริษัทวินโพรเสส แต่หลังจากมีปัญหาภายในบริษัทได้ขายห้องแถวสำนักงานนั้น และนำเอกสารใส่ถุงดำมาทิ้งไว้ที่นี่ มีรายงานที่เชื่อถือได้ว่า ก่อนหน้านี้อีกเอกสารสำคัญหนึ่งชุดถูกเจ้าหน้าที่เก็บไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นการขอหมายค้นมาค้นอีกวันนี้ก็ยังพบแฟ้มเอกสารจำนวนมาก



เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันจัดเรียงและแยกกลุ่มเบื้องต้นเพื่อเตรียมมัดและลำเลียง ระหว่างนี้เองที่ทำให้แฟ้มเอกสารการทำธุรกิจของ บ.วินโพรเสส ชัดเจนขึ้น เพราะเอกสารหลายชุด ยืนยันถึงความเชื่อมโยงชัดเจน ระหว่างบริษัทวินโพรเสส สาขาเนินพระที่กำลังตรวจสอบอยู่นี้ กับวินโพรเสส สาขาบ้านหนองพะวา ที่เกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 22 เมษายน และเอกสารหลายชุด เป็นหลักฐานที่เชื่อมโยงถึง บ.เอกอุทัย สาขาสามบัณฑิต อ.อุทัย / บ.เอกอุทัย สาขากลางดง อ.ปากช่อง / และบ.เอกอุทัย สาขาศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งทุกแห่งล้วนแต่ถูกร้องเรียนเรื่องมีการกากสารเคมีถูกทิ้งจนสร้างผลกระทบชาวบ้าน



ไม่เพียงเฉพาะเอกสารจากวินโพรเสส และเอกอุทัยที่เชื่อมโยงถึงกัน ยังพบเอกสารยืนยันถึงบริษัทอื่นๆอีกอย่างน้อย 4 บริษัท ที่เชื่อมโยงไปถึงนายจตุวุฒิ ฤทธิ์วงค์ ผู้เช่าโกดังภาชีเก็บสารเคมีที่ถูกเพลิงไหม้และตอนนี้ถูกออกหมายจับและยังจับตัวไม่ได้ และบริษัทอีกหลายแห่งที่เกี่ยวพันกับปัญหาลักลอบทิ้งกากสารเคมี ที่อำเภอพนัสนิคม จ.ชลบุรี และที่ตำบลดีลัง จ.ลพบุรี



สมุดบัญชีธนาคารที่ไม่ใช้แล้วจำนวนมากของนายโอภาส อาจเป็นหนึ่งเส้นข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ ใช้เทียบเคียงเงินที่หมุนเวียนหลายกิจการรวมกัน รวมถึงบัญชีรายชื่อลูกค้า การวางบิลลูกค้า ที่ว่าจ้างให้บริษัทเอกวินโพรเสส นำกากขยะไปจำกัด แต่ไม่ได้กำจัดจริง ซึ่งผู้ประกอบการรับกำจัดกากอุตสาหกรรมหลายราย เคยให้ข้อมูลข่าว 3มิติว่า วินโพรเสส อาจเสนอราคาค่าจ้างกำจัดกากขยะที่ถูกกว่าท้องตลาดและถูกเกินกว่าจะนำไปกำจัดได้จริง ทำให้ผู้ว่าจ้างเลือกใช้ เพื่อประหยัดเงิน



อย่างไรก็ตาม กากขยะที่รับไปแล้วถูกนำไปฝังกลบ หรือเททิ้ง หรือลักลอบซุกซ่อนไว้จนสร้างผลกระทบนั้น สร้างความเสียหายร้ายแรงและเป็นมูลค่า ที่แพงมากกว่าต้นทุนการนำไปกำจัดอย่างถูกต้องด้วยซ้ำ



ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันให้บริษัทผู้ว่าวินโพรเสส กลับมามีส่วนรับผิดชอบกากอุตสาหกรรมที่กระทบชาวบ้านในตอนนี้ และแน่นอนว่าคำถามจะย้อนกลับไปหากรมโรงงานอุตสาหกรรมถึงมาตรฐานการออกใบอนุญาต และการกำกับดูแลหลังจากออกใบอนุญาตไปแล้วว่า รวมถึงหน่วยงานรัฐอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องว่าย่อหย่อนหรือมีประโยชน์แอบแฝงหรือไม่ เอกสารเหล่านี้อาจไขคำตอบได้



ตอนนี้เอกสารหลักฐานเกือบ3-4ร้อยแฟ้ม ถูกลำเลียงไปไว้ที่สถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด เพื่อรอทำบัญชีบันทึกของกลางส่งมอบให้พนักงานสอบสวน ใช้ดำเนินคดี และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาให้รอบคอบ เพราะไม่เพียงเกี่ยวข้องกับความรัดกุมของคดีที่จะเอาผิดผู้กระทำผิดเท่านั้น แต่ความรัดกุมของคดีดังกล่าว ยังเกี่ยวข้องกับการชดใช้เยียวยา ฟื้นฟูให้ผู้ได้รับผลกระทบอีกหลายพื้นที่

คุณอาจสนใจ

Related News