เจ้าหน้าที่ขุดพิสูจน์หลักฐานใต้ดิน บ.วิน โพรเสส จ.ระยอง พบลักลอบฝังกากสารเคมีจริง

หลังจากข่าว 3 มิติ นำเสนอภาพหลักฐานการฝังกลบสารเคมีหลายชนิดในโรงงานวินโพรเสส จังหวัดระยอง ตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากคนในพื้นที่ และวันนี้เจ้าหน้าที่ทดสอบขุดเจาะทั้งหมด 8 จุดในพื้นที่ดังกล่าว พบว่ามีการลักลอบฝังกากสารเคมีจริง มีทั้งที่มีส่วนผสมของอลูมิเนียม ดรอส ซึ่งเป็นผงดิน และส่วนที่เป็นของเหลว หลักฐานเหล่านี้ทำให้เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งความเอาผิดนายโอภาส บุญจันทร์ กรรมการบริหารวินโพรเสส เพิ่มอีก


คลิปภาพเมื่อปี 2563 บ่งชี้ว่าบริเวณที่นายโอภาส บุญจันทร์ ยืนอยู่นั้น มีบ่อที่มีสารเคมีเจิ่งนองอยู่ลักษณะเป็นกากสารเคมีที่เป็นของเหลว จุดสังเกตมีหลายจุดก็จริง แต่เสาตอม่อที่ปรากฎในภาพเป็นหนึ่งจุดอ้างอิงว่ามีการเทและฝังกลบไว้บริเวณนี้ ทำให้วันนี้เจ้าหน้าที่ขุดสำรวจตามพิกัดดังกล่าว


นอกจากคลิปภาพที่เป็นหลักฐานแล้ว พยานคนสำคัญที่สุดในคดีนี้ยัง ระบุว่าบนกองดินที่เห็นนี้ ถัดจากสำนักไปทางเหนือบ่อแรกจะเป็นตะกรันน้ำกรดจำนวน 1 พันลิตร ถัดจากนั้น จะเป็นอลูมิเนียมดรอสที่ฝังกลบไว้ประมาณ 7 คันรถ และถัดจากนั้นไปเป็นวัสดุปนเปื้อน


เจ้าหน้าที่สำรวจลงมือสำรวจตามเป้าหมายดังกล่าว พบว่าจุดที่เริ่มขุดแรกๆ ก็พบผงสารเคมีกลิ่นเหม็นฉุน สีและลักษณะแตกต่างกันอย่างชัดเจนกับดินดั้งเดิม การวิเคราะห์ด้วยสายตาเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นอลูมิเนียมดรอส


ส่วนจุดอื่นๆ มีทั้งที่เป็นวัสดุปนเปื้อนยางรถยนต์ เศษพลาสติกเป็นต้น รวมทั้งหมด 8 หลุมที่เจ้าหน้าที่ขุดสำรวจพบว่ามีการปนเปื้อนที่บ่งชี้ว่ามีการลักลอบฝังไว้ทั้งหมด


นายสัญญา คำมี เป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงเพราะมีที่ดินอยู่ติดกับโรงงาน และน้ำปนเปื้อนสารเคมีจากโรนงงานไหลลงไปที่ดินของเขาช่วงแรๆ โรงงานปฎิเสธ และกล่าวหาว่าเขาและน้องสาวของเขา ไปรับจ้างฝังสารเคมีไว้ในที่ดิน จนเกิดการปนเปื้อนหลังแหล่งน้ำและหนองพะวา จนเขามีหลักฐานชัดเจนเจ้าของโรงงานก็เสนอจะให้เงินเขา 1 หมื่นบาท


รักษาการอุตสาหกรรมจังหวัดระยองบอกว่า ทั้ง 8 หลุมที่ขุดมีกากสารเคมีหลายชนิดแตกต่างวันนี้ได้มาลงบันทึกประจำไว้ก่อน เมื่อผลวิเคราะห์ชัดเจน จะร้องทุกข์กล่าวโทษ เอาผิดนายโอภาส และผู้เกี่ยวข้องในภายหลัง


การขุดสำรวจวันนี้ แม้ว่าไม่ได้เกินความคาดหมายว่ามีการฝังสารเคมีอยู่นี่ที่ แต่เป็นสัญญาณชัดเจนว่าพยานคนสำคัญหลายคนที่เก็บความลับเรื่องเหล่านี้ไว้เริ่มเปิดเผยข้อมูล ที่จะนำไปประกอบสำนวนคดีนี้เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการลักลอบฝังหรือทิ้งกากสารเคมี ที่หากปนเปื้อนแหล่งน้ำสาธารณะที่เป็นแหล่งสาธารณูปโภค จะมีความผิดโทษอาญา ซึ่งอัตราโทษสูงกว่าการครอบครองวัตถุอันตราย และเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย บังคับให้ผู้กระทำผิดรับผิดชอบชาวบ้านที่เดือดร้อนจากการทำผิดกฎหมายของตัวเองด้วย