สังคม
เปิดหลักฐาน รถบรรทุกลอบทิ้งกากเคมี ลงนาข้าว-บ่อน้ำ พบมีนักการเมืองช่วยหาเช่าที่-ปกปิดอำพราง
โดย nut_p
4 ส.ค. 2567
208 views
นอกจากเตรียมแผนสำรวจการปนเปื้อนในแหล่งน้ำใต้ดินแล้ว กรมโรงงานอุตสาหกรรม ก็ยังเร่งเอาผิดผู้ประกอบการที่นำกากอุตสาหกรรมอันตราย ไปทิ้งในนาข้าวและบ่อน้ำสาธารณะ ของชาวตำบลข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งชาวบ้านบันทึกภาพหลักฐานรถยนต์ไว้ได้ชัดเจน และจากข้อมูลนี้พบว่า คนที่มาตระเวนหาเช่าที่เพื่อทิ้งกากสารเคมี เป็นบุคคลที่ลงนามเช่าโกดังลักลอบเก็บสารเคมี ที่อำเภอภาชี จ.พระนครศรีอยุธยาด้วย
ชาวบ้านตำบลข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา บันทึกภาพรถบรรทุก 2 คันนี้ ได้ขณะกำลังเทน้ำปนเปื้อนสารเคมีลงบนที่นา ของนางเรณู สุขมิตร ชาวบ้านหมู่ 14 ตำบลข้าวเม่า และยังพบการสารเคมีถูกทิ้งลักษณะเดียวกันอีกในหมู่ 13 ซึ่งเป็นที่สาธารณะที่ชาวบ้านใช้ทิ้งขยะ ใกล้กับคลองสาธารณะชื่อคลองด้วน
เหตุการณ์ตามภาพนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2565 แต่เจ้าของภาพเพิ่งนำมามอบให้เจ้าหน้าที่เมื่อปี 2566 พร้อมเปิดเผยว่าขณะบันทึกภาพ เขารู้สึกสงสัยเรื่องสารเคมีกลิ่นเหม็น ขณะเดียวกัน ท่าทีของกลุ่มคนที่นำสารเคมีมาทิ้งทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย จึงบันทึกได้เท่านี้
หลังจากนั้น กรมควบคุมมลพิษ พร้อมอุตสาหกรรมจังหวัดเข้าไปตรวจสอบตามการร้องเรียนตั้งแต่ปี 2565 ที่จุดทิ้งสารเคมี บนที่นางนางเรณู หมุ่ 14 พบว่ามีการปนเปื้อนของสารเคมีประเภท สังกะสี ทองแดง ตะกั่ว นิกเกิล และมีสภาพเป็นกรด ค่า PH 1.1
ขณะที่การตรวจสอบจุดลักลอบทิ้งในหมู่ที่ 13 เป็นที่ดินสาธารณะนั้นพบว่า มีสภาพเป็นกรด ค่า PH 0.9 และยังพบการปนเปื้อนของสังกะสี ทองแดง ตะกั่ว และนิกเกิล ซึ่งจนถึงขณะนี้สารเคมีดังกล่าวยังไม่ได้ถูกนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี
ที่จริงแล้ว เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 อุตสาหกรรมจังหวัดอยุธยา เคยร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสภ.อุทัย ให้ดำเนินคดีผู้ลักลอบทิ้งกากของเสียในพื้นที่ดังกล่าว และ 5 มกราคม 2566 อบต.ข้าวเม่า แจ้งความนางเรณู สุขิมิตร เจ้าของที่นา ตามพรบ.สาธารณสุข 2535 ฐานปล่อยให้มีการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสหกรรมบนที่ดินในหมู่ 14 และอบต.ร้องทุกข์ให้ตำรวจหาตัวผู้ลักลอบทิ้งในหมู่ 13 คือที่สาธารณะคลองด้วน มาดำเนินคดี แต่นอกจากการติดตามเอาผิดไม่คืบหน้าแล้ว จนป่านนี้สารเคมีก็ยังอยู่ในสภาพเดิม
และก่อนหน้านี้ กรมควบคุมมลพิษได้ประสานให้ กรมโรงงานอุสาหกรรม นำผลการตรวจวิเคราะห์สารเคมี ไปแจ้งความผิดเจ้าของที่ดินตาม ฐานครอบครองกากอุตสาหกรรมที่เป็นวัตถุอันตราย ตาม พรบ.วัตถุอันตรายด้วย แต่ก็ยังคืบหน้าได้ช้า
กระทั่งล่าสุด ทั้งอธิบดี รองอธิบดี กองกฎหมายและกองจัดการกาก พร้อมตำรวจปทส. ลงตรวจสอบพื้นที่พร้อมกับกรมควบคุมมลพิษและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ลงพื้นที่ดังกล่าวอีกและเก็บตัวอย่างไปตรวจวิเคราะห์ซ้ำเพื่อจะเป็นหลักฐานเอาผิดผู้ครอบครอง และผู้เกี่ยวข้องกับการนำไปทิ้งทั้งที่ส่วนบุคคลและที่สาธารณะดังกล่าว
ข่าว 3 มิติตั้งข้อสังเกตว่า กรณีนี้อาจเรียกได้ว่าคืบหน้าล่าช้า หากเทียบกับภาพหลักฐานของรถยนต์บรรทุกที่เห็นชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพราะนี่ไม่ใช่การกระทำโดยลำพังแบบอาชญากรรมทั่วไป แต่ข่าว 3 มิติพบว่ามีผู้สมผลประโยชน์ทำร่วมกัน คือบริษัทรับกำจัดกาก ที่ไม่ได้กำจัดจริง กับนักการเมืองที่จะตระเวนหาเช่าที่ดินเพื่อทิ้งกากสารเคมี และคอยปกปิดอำพราง โดยมักแจ้งชาวบ้านว่าเป็นโมลาส หรือกากน้ำตาล แล้วนำไปทิ้ง
กรณีเช่นนี้ข่าว 3มิติ ได้พบการลักลอบทิ้งมาแล้วที่อำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งนำไปลักลอบทิ้งบนที่ดินเอกชน โดยข่าว 3 มิติ ได้ภาพวงจรปิดรถบรรทุกเหล่านี้ ที่ไปสอดคล้องกับภาพที่ผู้นำชุมชนดักจับรถบรรทุกคันนั้นได้พร้อมหลักฐานเต็มรถ และกรณีดังกล่าวที่จ.สระบุรี ในที่สุดตำรวจก็พบหลักฐานหลายอย่างเชื่อมโยงมาถึงโกดังเก็บสารเคมที่ อำเภอภาชี จ.อยุธยานั่นเอง