สังคม
เตรียมถกเพิ่มโทษ 'วินโพรเสส-เอกอุทัย' ลอบทิ้งกากเคมี เข้าข่ายพยายามฆ่าหรือไม่
โดย panwilai_c
7 ส.ค. 2567
105 views
หัวหน้าคณะทำงานคดีวางเพลิงและลอบทิ้งกากสารเคมี เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างหารือกับอัยการว่า กรณีการลักลอบทิ้งกากสารเคมีมีพิษลงในแหล่งน้ำสาธารณะ จะเข้าข่าย พยายามฆ่าหรือไม่ เพราะย่อมเล็งเห็นผลว่ามีอันตรายงแก่ชีวิตทั้งระยะสั้นและระยะยาว และยังพบการปลอมแปลงเอกสารกำกับการขนส่งกากสารเคมีมากกว่า 2 พันฉบับ ซึ่งอาจ มีโทษตามจำนวนการกระทำผิด
แฟ้มเอกสารที่เจ้าหน้าที่ร่วมกัน ยึดมาจาก บ.วินโพรเสส จ.ระยอง และจาก บ.เอกอุทัย ทั้งสาขาอุทัย, สาขากลางดง และสาขาศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ รวมกว่า 3,000 แฟ้ม ไม่เพียงพบเส้นทางธุรกิจที่เชื่อมโยงกันทั้งหมด แต่มีหลายชุดที่เป็นหลักฐานทางคดีชัดเจน
ยังไม่นับเอกสารที่ยังถือว่าเป็นเบาะแส เช่น บัญชีจ่ายเงินค่าที่ปรึกษาทางการกฎหมายให้อดีตอธิบดีอัยการ ระดับภาค คนหนึ่ง เดือนละ 48,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐ ต่างรู้ดีว่า คนนี้ เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้ บ.วินโพรเสสมานาน และคนในครอบครัวงอดีตอธิบดีอัยการภาค คนนี้ ก็เคยเป็นกรรมการ บริษัทเอกอุทัยด้วย ก่อนจะถอนตัวออกไป รวมถึงบัญชีจ่ายเงินให้อดีตผอ.กองจัดการกาก กรมโรงงาน ซึ่งมาเป็นที่ปรึกษาให้หลังจากเกษียณไปแล้ว
หลักฐานเหล่านี้ แม้ไม่อาจบ่งชี้ ในตอนนี้ว่าเข้าข่ายทุจริตหรือไม่ แต่ก็ชี้ให้เห็นขุมกำลังของกลุ่มบริษัทที่มีอยู่ รวมถึงรางวัลประเภทต่างๆที่เคยได้รับจากกรมที่เหมือนเป็นใบเบิกทาง บวกกับ การแข่งขันด้านราคาค่ากำจัดกากสารเคมี ยิ่งทำให้มีบริษัททั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม และทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์เป็นลูกค้าด้วย
สอดคล้องกับที่มูลนิธิบูรณะนิเวศ พบว่าระหว่างปี 2554 ถึง 2563 บ.วินโพรเสส และเอกอุทัย รับกากของเสียอันตราย มาจาก324 โรงงาน มากถึง 1 หมื่น 4 พัน รายการ น้ำหนักรวม 42 ล้านกิโลกรัม หรือกว่า 4 หมื่น 2 พันตัน นั่นเฉพาะห้วงเวลาดังกล่าว
โดยกากอันตรายดังกล่าว ส่งไป บ.วินโพรเสส สาขาโขดหิน จ.ระยอง มากที่สุด 28 ล้านกิโล รองมาคือส่งไปบ.เอกอุทัย สาขาอุทัย11 ล้านกิโล และเอกอุทัย สาขากลางดง อ.ปากช่อง 3 ล้านกิโลกรัม
เมื่อเจาะจง ที่ บ.วินโพรเสส สาขาโขดหิน พบว่ามีโรงงานส่งกากอันตรายไปที่นั่น 209 โรงงาน เป็นโรงงานที่อยู่ใน จ.ระยองมากที่สุด 100 โรงงาน รองมาคือ ชลบุรี สมุทปราการ และอยุธยา
เจาะจงอีก เฉพาะ 100 โรงงานในจ.ระยอง ที่ส่งกากอันตราย ไปให้บ.วินโพรเสส สาขาโขดหินนั้น พบว่าเป็นโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมากถึง 58 โรงงาน และนอกนิคมฯ 42 โรงงาน
เช่นเดียวกับ บ.เอกอุทัย สาขากลางดง ก็มีกากอันตรายมาจากโรงงาน ที่ระยองมากที่สุด 11 แห่ง รองมาคือสมุทรปราการ นครราชสีมา และชลบุรี และ บ.เอกอุทัย สาขาอุทัย จ.อยุธยา โรงงานที่ส่งกากอันตรายไปกำจัดที่นั่นมากที่สุดคือมาจาก จ.ระยอง 25 แห่ง รองมาคือชลบุรี สมุทรสาคร สมุทปราการ
ข่าว 3 มิติ ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลเหล่านั้น คือสืบจากต้นทางที่มาของกากอันตราย แต่ปลายทางการนำไปกำจัด จะเป็นไปตามที่ระบุในระบบManifest หรือไม่ ยังเป็นปริศนา เพราะอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ก็เปิดเผยว่าพบหลักฐานการปลอมข้อมูลใน manifsert เช่นแจ้งว่าจะนำกากไปกำจัดที่จังหวัดหนึ่ง แต่แท้จริงพบว่าขนย้ายข้าม ไปอีกจังหวัด จึงถือว่าเป็นข้อความเท็จ
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่า เอกสารเท็จดังกล่าว พบมากกว่า 2 พันฉบับ อาจถือว่าทำผิดต่างกรรมต่างวาระ เพื่อหลบเลี่ยงการนำกากอันตรายไปกำจัดแต่ อาจนำไปฝังหรือทิ้ง ซึ่งกำลังหารืออัยการว่าการทิ้งกากสารเคมีอันตรายลงแหล่งน้ำสาธารณะ จะเข้าข่ายพยายามฆ่าหรือได้หรือไม่
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำวรจแห่งชาตระบุว่าภายในสิงหาคมนี้จะส่งฟ้องบางสำนวนให้ได้ก่อน ส่วนที่พบความผิดเพิ่ม จะดำเนินคดีเพิ่มเช่นกัน โดยขณะนี้มีผู้ถูกดำเนินคดี 13 ราย แยกเป็นบุคคล และนิติบุคคล ที่ข้องกับวินโพรเสส บ.เอกอุทัย บ.ซันเทค และ บ.เพราะสอน ซึงเชื่อมโยงกับโกดัง อ.ภาชี
ส่วนข้อมูลว่ากรณีนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐทั้งอดีตและปัจจุบันเกี่ยวข้อง ทุจริตด้วยหรือไม่ พลตำรวจโทธัชชัย ระบุว่ามอบให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง ตรวจสอบแล้ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง บ.วินโพรเสส ,บริษัทเอกอุทัย ,ลอบทิ้งกากเคมี ,ปลอมเอกสาร ,ถกเพิ่มโทษ