ลุยตรวจโกดังระยองหลังเพลิงสงบ พบหลักฐาน ลอบทิ้งสารเคมีลงแหล่งน้ำมาหลายปี

ความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้ โรงงานเก็บกากสารเคมีหลายชนิด ของบริษัท วิน โพรเสส อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ซึ่งเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว นับจากเพลิงไหม้ แม้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงส่วนใหญ่ได้เกือบทั้งหมด แต่โกดังหลังที่ 3 ซึ่งเก็บกากเคมีหลายชนิด โดยเฉพาะ อลูมิเนียม ดอส เป็นจุดที่ดับได้ยากที่สุด ส่วนหนึ่งเพราะถังสารเคมีกองทับถมกันอยู่หลายชั้น

ขณะเดียวกันหลังจากเกิดเพลิงไหม้ ทำให้หลักฐานอย่างเกี่ยวกับสาเหตุ น้ำเสียปนเปื้อนลงแหล่งน้ำสาธารณะปรากฏชัดเจนขึ้น



โดยเฉพาะข้อสันนิษฐานว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา อาจะมีการลักลอบเทสารเคมี โดยเฉพาะกรดเข้มข้น ลงรางระบายน้ำของโรงงานจนไหลลงบ่อน้ำ เพื่อหวังจะลดต้นทุนการนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง



นี่จะเป็นคืนที่ 3 ติดต่อกันแล้ว ที่ชุดปฎิบัติการดับไฟของจังหวัดระยอง ต้องเผชิญกับการเผาไหม้และกลิ่นควันไฟจากสารเคมีอันตรายหลายชนิดในโกดัง บริษัท วินโพรเสส จ.ระยอง



ในแต่ละคืนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเผชิญปัญหาที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะปัญหาว่าในโกดังนี้เก็บกากสารเคมีมากกว่า 10 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดต้องอาศัยการดับ ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งดับด้วยน้ำ ด้วยโฟม กลบด้วยทราย หรือแม้แต่ใช้สารเคมี บางชนิดมาดับซึ่ง ปัญหาก็คือแต่ละโกดัง มีกากสารเคมีหลายชนิดปะปนกันอยู่ โดยไม่ได้ แยกสัดส่วน จึงเป็นการยากที่จะดับสนิทโดยเร็ว และทั้งเสี่ยงอันตรายของชุดดับเพลิงด้วย



อย่างไรก็ตาม ความพยายามของชุดดับเพลิงไม่เพียงทำให้เพลิงเกือบทั้งหมดสงบลงได้ แต่ทำให้ภาพในโกดังที่ถูกถังสารเคมีกลบไว้ก่อนหน้านี้ถูกเปิดเผย นั่นคือรอบๆโกดังนี้ มีรางระบายน้ำเชื่อมต่อตลอดแนวโรงงาน เชื่อมต่อกับแต่ละโกดัง อันที่จริงรางระบายน้ำในกิจการเป้นเรื่องปกติ ที่มีไว้เพื่อระบายน้ำฝนและเป็นมาตรการของโรงงานที่มีกิจการหลายประเภท



แต่ที่นี่หลังจากศาลจังหวัดระยอง พิพากษาให้ริบของกลางทั้งหมดและอนุญาตให้ขายของกลางที่ไม่เป็นวัตถุอันตรายแล้วนำเงินไปวางที่ศาลเพื่อว่าจ้างให้ sk interเคมิคอล มาบำบัดน้ำเสียและนำถังเคมีไปกำจัดนั้น ปรากฎมาตลอดว่า การบำบัดแทบไม่เป็นผล



โดยเฉพาะน้ำในบ่อนี้ที่มีฤทธ์เป็นกรดเข้มข้น อยู่ติดกับอาคารโรงงานหลังที่ 5 ที่ยิ่งบำบัดเท่าไหร่แทนที่น้ำกรดจะเจือจาง แต่กลับยิ่งข้นขึ้น โดยก่อนหน้านี้มีข้อสงสัยกันว่า มีการลักลอบเทน้ำกรดลงบ่อนี้หรือไม่ กระทั่งพบว่า เป็นไปได้ว่ามีการเทสารเคมีลงรางน้ำในโรงงาน ซึ่งที่สุดก็ไหลงลงบ่อดังกล่าว



การที่น้ำกรดเข้มข้น ไหลลงบ่อดังกล่าวไม่เพียงทำให้การบำบัดล่าช้า หรือถึงขึ้นไม่แล้วเสร็จเท่านั้น แต่ในฤดูฝนที่มีฝนตกหนัก ทำให้ระดับน้ำในบ่อสูงขึ้นจนล้นทะลัก ออกไปนอกโรงงาน ทำให้พืน้ที่การเกษตรข้างเคียงเสียหายอย่างหนัก มากที่สุด คือฤดูฝนปีที่แล้ว ซึ่งน้ำสารเคมีหลากลงไปถึงอ่างเก็บน้ำหนองพะวา ทะลักไปถึงทางสาธารระกลางหมู่บ้านหนองพะวาด้วยซ้ำ



นอกจากนี้ ที่สวนของนายเทียบ ก็เช่นเดียวกัน มีการบำบัดมาหลายสิบครั้ง ก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่เคยเจือจาง กระทั่งพบความเป็นไปได้มากที่สุดว่า อาจมีการต่อท่อเทสารเคมีลงพื้นที่ด้วยซ้ำ ปัญหาเหล่านี้ เคยถูกตั้งข้อสังเกตุไว้แต่ตอนนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อพบว่าในโรงงานไม่เพียงมีถึังสารเคมี แต่มีบ่อซีเมนต์ ที่เก็บของเหลวชายชนิดไว้มากกว่า 10 บ่อ ด้วยซ้ำ



จนถึงวันนี้ชุดผจญเพลิงยังเผชิญอุปสรรคในการดับไฟ และทุกอุปสรรคที่พบ กำลังเป็นหลักฐานใหม่ที่คลายปริศนาว่า ทำไมการบำบัดน้ำเสีย และทำไมจึงมีสารเคมีไหลบ่าออกนอกโรงงานไม่หยุดตลอดหลายปี และเมื่อหลักฐานเหล่านี้ปรากฏชัด ต่อไปจึงอยู่ที่คำถามว่า จะแก้ปัญหากับกองสารเคมีเหล่านี้อย่างไรในอนาคตอันใกล้นี้