เตรียมร้องศาลสั่ง บ.เอกอุทัย รับผิดชอบกำจัดกากขยะ ลอบเก็บบนที่ดินกรมป่าไม้ อ.ปากช่อง

ตำรวจ ปทส.และเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานร่วมกันตรวจนับกากอุตสาหกรรมที่เป็นสารเคมีอันตราย ซึ่งบริษัทเอกอุทัย สาขากลางดง นำไปเก็บในโรงเรือนบนที่ดินของกรมป่าไม้ เพื่อวางแผนนำไปกำจัด หลังจากการประชุมกันเมื่อวานนี้ กำหนดแผนให้เร่งกำจัดหรือจ่ายค่าดำเนินการกำจัดกากอุตสาหกรรมที่จัดเป็นวัตถุอันตรายดังกล่าว



พันตำรวจโทนิติธร เดชรพีร์ รองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือบก.ทปส. ร่วมกับเทศบาลตำบลสีมามงคล /ศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ/ กรมโรงงานอุตสาหกรรม/ อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา/ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11



ร่วมดำเนินการชี้จุดและตรวจนับของกลาง ที่เป็นกากอุตสาหกรรม และจัดเป็นวัตถุอันตราย ซึ่งสารเคมีดังกล่าวเก็บอยู่ในโรงเรือนหรือโกดัง ด้านหลังบริษัทเอกอุทัย จำกัดสาขากลางดง และปรากฏว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าว เป็นที่ของกรมป่าไม้ และกรมป่าไม้ได้อายัดไว้ เพื่อรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปกำจัด



ของเสียที่ตรวจนับวันนี้ มีทั้งกากสารเคมีของเสีย ที่เป็นของแข็งและของเหลวในถังขนาด 200 ลิตร จำนวน 503 ถัง ถังเปล่าปนเปื้อน 2 ถัง  กากของแข็งและดินปนเปื้อน 36 ตัน พาเลทไม้ 39 ชิ้น กากตะกอนในบ่อ 315 ตัน



เมื่อวานนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรียกประชุมเพื่อเร่งหาความคืบหน้ากรณีบริษัทเอกอุทัย ถูกดำเนินคดี กรณีเก็บสารเคมีเหล่านนี้ในอาคารโรงเรือนดังกล่าว ที่อยู่บนที่ดินของกรมป่าไม้ ซึ่งที่ประชุมมีแนวทางให้นำออกไปกำจัดให้ถูกต้องโดยเร็วและถูกวิธี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมาสำรวจจำนวนอีกครั้ง



โดยจำนวนที่สำรวจได้นี้ จะถูกส่งให้พนักงานอัยการเพิ่มเติม เพื่อร้องขอต่อศาลให้พิจารณาสั่งให้บริษัทเอกอุทัยรับผิดชอบด้วยการนำไปกำจัด บำบัดอย่างถูกต้อง หรือให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น กรณีที่การกำจัดบำบัด กระทำโดยหน่วยงานอื่น