สังคม

กรมโรงงานฯ ลุยของบแก้ปัญหาสารเคมีถูกลอบทิ้ง ในอยุธยา-ระยอง

โดย panwilai_c

29 ก.ค. 2567

151 views

กรมโรงงานอุตสาหกรรม ยืนยันเดินหน้าของบกลางประจำปีงบประมาณ 2568 ไปแล้ว เพื่อแก้ปัญหากากลักลอบทิ้งกากสารเคมีทั้งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และระยอง รวมกันมากกว่า 500 ล้านบาท โดยงบประมาณเหล่านี้ จะถูกฟ้องร้องเรียกคืนจากผู้ประกอบการด้วย



ขณะที่ข่าว 3 มิติ เกาะติดเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ไปขุดสำรวจจุดที่ลักลอบฝากถังสารเคมีในโรงงานบริษัทเอกอุทัย พบว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสำรวจชั้นน้ำบาดาลเร่งด่วน หลังมีหลักฐานบ่งชี้ว่าอุปกรณ์ในบ่อบาดาลที่ลึกกว่า 120 เมตร ได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดด้วย



เที่ยวแล้วเที่ยวเล่า ที่มือของรถแบคโฮขุดและตักดินขึ้นมาจากจุดที่พยานชี้เป้า มันเต็มไปด้วยกากอุตสาหกรรมที่เป็นสารเคมีอันตราย



บางจังหวะ เห็นได้ชัดว่าเป็นถังน้ำมันเครื่องเก่าถูกฝังพร้อมถังขนาด 200 ลิตร บางจังหวะเป็นสารหล่อเย็น หรือกลุ่มตัวทำละลาย



ของเหลวที่จัดเป็นวัตถุอันตราย ตามพรบ.วัตถุอันตราย 2535 นี้ บางชนิดที่ขุดพบว่าลักลอบฝัง มียังมีภาพเหนียว ข้น หนืด จากยากที่จะคาดการณ์ได้ว่าหากไม่กำจัด บำบัด ฟื้นฟู จะเกิดผลเสียต่อสภาพแวดล้อมมากน้อยเพียงใด



อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่าสารเคมีที่พบว่าลักลอบฝัง เป็นคนละกลุ่มกับสารเคมีประเภทกรด ที่รั่วซึมและกระจายบนผิวดิน แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองกลุ่มนี้ก็อันตรายไม่แพ้กัน โดยเฉพาะข้อมูลที่พบว่าบ่อบาดาลลึก 120 เมตร ที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงานนี้ มีสภาพเสียหายจากกรด



ตอนนี้ตำรวจ ปทส. และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เบาะแสสำคัญจากพยานคนหนึ่งที่ใกล้ชิด กับผู้บริหารโรงงานวินโพรเสส และบริษัทในเครือ ทุกจุดที่พยานชี้เป้าว่ามีการลักลอบฝัง มักไม่พลาด เช่นนี้ที่อยู่บริเวณด้านหลังของบริษัทเอกอุทัย เจ้าหน้าที่ขุดขึ้นมาก็พบกากสารเคมีของเหลว ที่เมื่อสัมผัสอากาศก็ทำปฎิกิริยาเคมีทันที



และค่อนข้างชัดเจนว่าหลายชนิดใกล้เคียงกับที่ลักลอบฝัง ในบ.วินโพรเสส จ.ระยอง เอกอุทัยสาขากลางดง และศรีเทพฯ รวมถึงในโกดัง ที่ อ.ภาชี



ดูเหมือนว่างบที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแต่ละจุดมีความชัดเจนที่สุดว่าจะได้แน่ แต่ยังถือเป็นจำนวนน้อยหากเทียบกับขนาดของปัญหา ส่วนงบกลางที่ 397 ล้าน เพื่อแก้ปัญหาจ.ระยอง และ 188 ล้านเพื่อแก้ปัญหาที่พระนครศรีอยุธยากรมโรงงานอุตสากรรมยืนยันว่าส่งผ่านจากกรม ไปอยู่ระดับกระทรวงอุตสากรรมแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะถูกนำเสนต่อครม.หรือไม่ หรือปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดหรือไม่ และเมื่อใด ซึ่งทุกประเด็นล้วนมีความเดือดร้อนจากชาวบ้าน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเดิมพัน



งบประมาณอย่างที่คุณมนตรี นำเสนอนั้น ไม่ว่าจะเป็นงบกลาง หรืองบประจำปีที่ถูกจัดสรรมาแก้ปัญหา ถึงที่สุดภาครัฐจะต้องฟ้องร้องเอาคืนจากเอกชน ซึ่งก็ต้องผ่านการสู้คดีให้ถึงที่สุด และข่าว 3 มิติ จะเกาะติดเรื่องนี้ต่อเนื่อง

คุณอาจสนใจ

Related News