กรมโรงงานฯ นำหมายศาลค้นหลักฐานโรงงานเอกอุทัย พบถังบรรจุสารเคมีฝังกลบใต้ดินจำนวนมาก

เมื่อวานนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมกับอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายค้นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปขุดสำรวจพื้นดินในบริษัทเอกอุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรี อยุธยา ซึ่งบริษัทนี้ตำรวจระบุว่าเชื่อมโยงกับ การลักลอบทิ้งกากสารเคมีหลายแห่ง โดยเฉพาะในโกดังที่อำเภอภาชี และภาพที่ท่านจะได้ชมต่อไปนี้ คือความน่าสะพรึงกลัว ของสารเคมีที่ถูกลักลอบฝังใต้ดิน ภายในพื้นที่ของบริษัทเอกอุทัย ซึ่งเป็นที่น่ากังวลต่อไปอีกว่า อาจกระทบต่อชั้นน้ำบาดาลด้วย


ด้านข้างโกดังหลังที่ 3 ภายในบริษัทเอกอุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา คือจุดที่พยานคนสำคัญให้การยืนยันว่ามีการฝังกลบสารเคมีไว้ที่นี่ และเพียงแค่รถแบ็คโฮเล็ก ขุดสำรวจลึกลงไปราว 2-3 เมตร หลักฐานตามการยืนยันของพยานก็ปรากฎ นั่นคือสารเคมีที่เป็นของเหลวชายชนิด ถูกลักลอบฝังใต้ผืนดินในโรงงานนี้เอง


กลิ่นเหม็นฉุนแรงแรง แสบจมูก และไอระเหยที่ทำให้ร้อนผ่าว จนยากที่จะแยกแยะชนิดของกากสารเคมีได้ เพราะผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมปฎิบัติงานต่างระบุว่า เป็นกากสารเคมีหลายชนิด เช่นน้ำมันเครื่องเก่า ตัวทำละลาย หรือสารหล่อเย็นที่ถูกฝังแบบสะเปะสปะ เมื่อขุดขึ้นมาสัมผัสกับอากาศก็เกิดปฎิกิริยาทันที


ตัวอย่างสารเคมีที่ตักขึ้นมาสำรวจ มีฤทธ์เป็นกรดเข้มข้น บางชนิดรุนแรงถึงขาดทำให้กระดาษที่ใช้ทดสอบ หรือเทส ความเป็นกรด-ด่าง ถึงกับไหม้ทันที // หรือแม้แต่สารเคมีถูกตักขึ้นมาพร้อมถัง เมื่อรั่วไหลก็รั่วไหลก็มีควันทันที


ที่จริงแล้ว ณ ตอนนี้ ในพื้นที่ตำบลสามบัณฑิต อ.อุทัย ก็กำลังเผชิญความเสี่ยงจากอันตรายที่กากสารเคมี มีฤทธิ์เป็นกรด รั่วไหลออกจากโรงงานไปตามทางระบายน้ำและลงคลองสาธารณะ ซึ่งเห็นผลกระทบบนผิวดิน


แต่การขุดพบการลักลอบฝังแบบนี้ ยิ่งทำเกิดความกังวลใจว่าจะเกิดผลกระทบถึงใต้ดินด้วย เพราะข้อมูลจากพยานบ่งชี้ว่าน่าจะมีการฝังหลายชั้น หลายรอบ / เช่นเดียวกับชุมชนที่บอกว่าเดิมบริเวณนี้ มีสภาพเป็นแอ่งหรือลุ่มต่ำ ภายหลังนำดินมากลบสูงขึ้น มีชาวบ้านบางคน บอกว่าเคยถูกจ้างให้นำดินมากลบในบ่อ โดยแจ้งชาวบ้านว่าเป็นบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งชาวบ้านไม่รู้ว่าเป็นสารเคมี


ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บอกกับข่าว 3มิติว่าชาวบ้านกังวลใจอย่างมากว่าจะเกิดปัญหากับชั้นน้ำบาดาล


อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่าสารเคมีที่ขุดพบ สร้างผลกระทบไม่ต่างจากทีรั่วไหลบนผิวดิน รวมถึงใต้ชั้นน้ำบาดาล // ซึ่งหลักฐานเหล่านี้จะนำไปสู่การเอาผิดผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด


ภาพชุดนี้แม้เป็นเพียงจุดเดียว จากอีกอย่างน้อย 4-5 จุดของการขุดตามที่ขอหมายศาลเมื่อวานนี้ แต่ก็มากพอที่จะสร้างความสะพรึงกลัวและน่ากังวลใจ ทั้งต่อชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมในตำบลสามบัณฑิต และน่าจะมากเกินพอที่จะทำให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดสำรวจ กำจัด ฟื้นฟู ความเสียหาย ที่สำคัญคือต้องดำเนินการจริงจัง เด็ดขาดกับผู้กระทำเช่นนี้ เพื่อให้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น.


นอกจากภาพหลักฐานที่เห็นชัดเจนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยังพบการนำไปลักลอบเททิ้งกลางทุ่งนาข้าว ซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มคนเดียวกัน และมีความคืบหน้าเรื่องงบประมาณที่จะนำมาแก้ไขเบื้องต้น ทั้งที่จังหวัดระยอง และพระนครศรีอยุธยา ติดตามรายละเอียดวันพรุ่งนี้