สังคม
กรมโรงงานฯ สั่งปิด บ.เอกอุทัย หลังพบอำพรางความผิด-ไม่แก้ปัญหาเคมีรั่วไหล
โดย panwilai_c
19 ธ.ค. 2566
374 views
กรมโรงงานอุตสาหกรรม ออกคำสั่งปิดกิจการบริษัทเอกอุทัย จำกัด สาขาสามบัณฑิต อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว หลังครบกำหนดให้ปรับปรุงแก้ไขปัญหาการรั่วไหลและทิ้งสารเคมีที่เป็นวัตถุอันตราย ทั้งภายในโรงงานและรอบโรงงาน แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนด ซึ่งคำสั่งนี้มีผลให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการไปด้วย ขณะบริษัทเอกอุทัย ยังมีสิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งนี้ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมภายใน 30 วัน ส่วนกรณีที่บริษัทเอกอุทัย ถูกดำเนินคดีฐานเกี่ยวข้องกับวัตถุอันตราย กว่า 4 พันตัน ในโกดังร้างที่อำเภอภาชี นั้น ตำรวจ ปทส. แจ้งข้อกล่าวแล้วเช่นกัน
เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด รวมถึงตำรวจปทส.และตำรวจท้องที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปร่วมกันปิดป้ายคำสั่งจำนวน 3 จุด รอบโรงงานบริษัทเอกอุทัย ตำบลสามบัณฑิต อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสั่งดังกล่าวลงนามโดยอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ใช้อำนาจตาม พรบ.โรงงาน และเป็นคำสั่งปิดที่มีจำนวน 2 ฉบับ เนื่องจากว่ามาจากฐานความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน
กรณีแรกเกิดจากเมื่อต้นปีนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่ามีการปล่อยของเสียสารเคมีรั่วไหลอยู่ภายในโรงงานและรั่วซึมออกนอกโรงงานไปกระทบพื้นที่ข้างเคียงที่เป็นชุมชน จึงออกคำสั่งตามมาตรา 37 วรรค 1 ให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนดังกล่าวและให้ปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จตามกำหนด
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอีกครั้งในกลางปีนี้ พบว่าโรงงานแก้ไขไม่แล้วเสร็จตามคำสั่งเดิม และยังพบปัญหาใหม่ ที่ร้ายแรงกว่าเดิม ในจุดอื่นๆ เพิ่มอีก จึงออกคำสั่งให้ตามมาตรา 39 วรรค 1 ฉบับที่ 1 ให้ปรับปรุงแก้ไขตามคำสั่งเดิมก่อนหน้านี้ และออกคำสั่งมาตรา 39 วรรค 1 อีกเป็นคำสั่งที่ 2 เนื่องจากตรวจพบข้อเท้จจริงใหม่ว่ามีการกระทำที่เป็นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนใกล้เคียงอย่างรุนแรง จึงสั่งให้โรงานหยุดประกอบกิจการทั้งหมด และให้ปรับปปรุงแก้ไขตามกำหนดระยะเวลา
ต่อมากรมโรงงานอุตสาหกรรม ประสานตำรวจ ปทส. ขอหมายค้นจากศาล ไปตรวจสอบการแก้ไขตามคำสั่งข้างต้น เพราะมีผู้ร้องเรียนว่าอาจมีการปกปิดการกระทำผิดที่มากกว่าที่เคยตรวจพบก่อนหน้านี้ ซึ่งก็พบว่ามีการลักลอบเก็บสารเคมีในพื้นที่ด้านหลังของโรงงานด้วยวิธีที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาและความปลอดภัย เป็นการปกปิดอำพราง โดยกรมโรงงานฯ ได้เก็บตัวอย่างของสารเคมีที่พบทั้งภายในและภายนอกโรงงานไปตรวจสอบ จนกระทั่งได้ผลการวิเคราะห์ว่าเป็นสารเคมีอันตราย และโรงงานไม่ปฎิบัติตามคำสั่ง
กระทั่งวันนี้ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมใช้ตามอำนาจในมาตรา 39 วรรค 3 พรบ.โรงงาน พ.ศ. 2535 ลงนามคำสั่งปิดโรงงานนี้ จำนวน 2 ฉบับตามฐานความผิดดังกล่าว และคำสั่งดังกล่าวมีผลให้เป็นการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการโรงานประเภท 106 ของบริษัทเอกอุทัยไปด้วย แม้ว่าบริษัทนี้จะขายกิจการให้ผู้ประกอบการรายอื่นไปแล้วหรือไม่ก็ตาม แต่ถือว่าใบอนุญาตประกอบกิจการนี้ สิ้นสภาพแล้ว
ถึงแม้จะมีคำสั่งปิดกิจการไปแล้ว แต่บริษัทเอกอุทัย ยังต้องมีรับผิดชอบต่อกรณีของเสียที่ถูกจัดเป็นวัตถุอันตรายในโรงงานตาม โดยอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม จะใช้อำนาจตาม พรบ.วัตถุอันตราย ออกคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขต่อไป
อย่างไรก็ตาม บริษัทเอกอุทัย มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมภายใน 30 วัน นับจากรับคำสั่งนี้
สำหรับบริษัทเอกอุทัยนี้ ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของสารเคมีอีกกว่า 4 พันตัน ที่นำไปลักลอบเก็บไว้ในโกดังร้าง 5 หลัง ในอำเภอภาชี โดยข่าว 3 มิติ ได้รับการยืนยันจากผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส.ว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาบริษัทเอกอุทัย และคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเรียกพยานมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อเร่งสรุปสำนวนและความเห็นส่งต่อพนักงานอัยการ
แท็กที่เกี่ยวข้อง กรมโรงงานฯ ,บริษัทเอกอุทัย ,ทิ้งสารเคมี ,อำพรางความผิด ,เคมีรั่วไหล