วช.เปิดผลงานวิจัยกว่า 1,000 ชิ้น ขับเคลื่อนศก.ยุคใหม่ ผลักดันสู่ตลาดการค้านานาชาติ

มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติปีนี้มีงานวิจัยและนวัตกรรมกว่า 1,000 ผลงาน ที่รอเปิดตัวสู่สาธารณะเป็นครั้งแรก จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ขับเคลื่อนงานวิจัยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ สร้างไทยยั่งยืน ซึ่งเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของงานวิจัยเดิมไปสู่ภาคชุมชนมากขึ้น เพื่อให้เกิดการนำองค์ความรู้ไปใช้ได้จริง และผลักดันไปสู่ตลาดการค้าในระดับภูมิภาค และ นานาชาติได้ต่อไป

มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2566 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 18 ภายใต้แนวคิด ขับเคลื่อนงานวิจัยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ สร้างไทยยั่งยืน เพื่อเปิดโอกาสให้นักวิจัยไทยได้นำเสนอผลงานที่สำเร็จในรอบปีที่ผ่านมาออกสู่สาธารณะ โดยมีผลงานวิจัยกว่า 1000 ชิ้น ทั้งด้านนวัตกรรมขับเคลื่อนด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG งานวิจัยส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้านการยกระดับสังคม การพัฒนาเศรษฐกิจมูลค่าสูงเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีจัดการทรัพยากร มาจัดแสดง เช่น ผลงานการผลิตลิ้นเครื่องดนตรีคาริเนตจากการพัฒนาคุณภาพต้นอ้อ ของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็พบว่าต้นอ้อสายพันธุ์ไทยสามารถนำมาผลิตเป็นสินค้านี้ได้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับนักดนตรี เนื่องจากเป็นสินค้าสำคัญที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการต่อยอดงานวิจัย


ขณะที่ผลงานการพัฒนาอาหารสำหรับนักบินอวกาศจากด้วงและถั่วเขียว ของทีมkeeta นักวิจัยจากสถาบันปัญญาภิวัฒน์ ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าจับตา เพราะเพิ่งผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบ 9 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันการสร้างเทคโนโลยี และระบบการผลิตอาหารรูปแบบใหม่ของนาซ่า เพื่อพัฒนาอาหารสำหรับนักบินอวกาศ 4 คน ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศ แม้ว่าสุดท้ายจะไม่ได้รางวัลชนะเลิศ แต่ก็เป็นก้าวสำคัญของวงการอุตสาหกรรมอาหารไทย


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา วช. ได้ผลักดันงานวิจัยต่างๆ จนสำเร็จ โดยต่อยอดออกสู่ตลาดการค้าเชิงพาณิชย์ทั้งระดับประเทศและระดับโลกได้แล้วกว่า 1,000 ชิ้นงาน ซึ่งต่อจากนี้คือการกระจายนวัตกรรมและงานวิจัยเหล่านี้กลับสู่ภาคสังคม เพื่อการแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนอย่างยั่งยืนด้วยองค์ความรู้ที่มี ผ่านผลงาน


นิทรรศการวิจัยไทยขายได้จริง ได้นำงานวิจัยไทยที่ถูกนำกลับสู่ชุมชนเพื่อสร้างอาชีพ และรายได้ มาจัดแสดงในรูปแบบของสินค้า เพื่อการอุปโภคบริโภคในรูปแบบหลากหลาย ซึ่งทั้งหมดนี้ผ่านการวิจัยและพัฒนาร่วมกับชุมชน จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์และองค์ความรู้ ที่สร้างมูลค่าและโภชนาการสูงส่งเสริมการขายได้ เช่น โครงการส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งชันโรง เพื่อการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ของมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ก็ประสบความสำเร็จสร้างรายได้ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอำเภอรัตภูมิ และอำเภอบางกล่ำ จนตอนนี้อยู่ระหว่างตีตลาดไปสู่การค้าในต่างประเทศแล้ว


งานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ครั้งที่ 18 ยังมีผลงานวิจัยของนักวิจัยไทยอีกมากมาย ที่พร้อมต่อยอดเพื่อการศึกษา และ พัฒนาเชิงพาณิชย์ ผู้ที่สนใจสามารถไปชมความสำเร็จนี้ได้ งานจะจัดตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 11 สิงหาคมนี้ ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และ บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์