แกะรอยสืบ บ.เอกอุทัย ลอบรับขยะเคมี หลังถูกสั่งระงับกิจการหรือไม่

เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กรมโรงงานอุตสาหกรรม ไปตรวจติดตาม การดำเนินการของบริษัทเอกอุทัย จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา และก็มีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการชั่วคราว เพราะพบการจัดการกากขยะอุตสาหกรรมไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ แต่วันนี้ ข่าว 3 มิติ ได้รับเบาะแสที่เชื่อได้ว่าบริษัท อาจจะยังลักลอบไปรับกากขยะเหล่านี้จากบริษัทลูกค้า ทั้งที่ถูกสั่งระงับกิจการชั่วคราว และหากข้อมูลนี้เป็นจริง บริษัทคู่ค้าก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย



ภาพนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้าตรวจสอบบริษัทเอกอุทัย จ.พระนครศรีอยุธยาเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และใช้อำนาจมาตรา 39 วรรคหนึ่ง พรบ.โรงงาน พ.ศ 2535 สั่งให้บริษัทเอกอุทัย หยุดประกอบกิจการชั่วคราว จนกว่าจะปรับปรุงแล้วเสร็จ เพราะมีถังสารเคมีชำรุดรั่วไหล ส่งกลิ่นเหม็นภายในโรงงาน



หลักฐานที่ข่าว 3 มิติ ได้รับมา ระบุว่าเป็นระบบบันทึกแจ้งการขนส่งวัสดุไม่ใช้แล้ว เฉพาะของเสียอันตราย ซึ่งพบว่าในระบบที่รายงาน โดยผู้รับกำจัดกาก ซึ่งกรณนี้ ก็ คือบริษัทเอกอุทัยในฐานะผู้รับกำจัดกาก ได้รายงานว่ารับกาก มาจากบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งข่าว 3 มิติขอปิดปิดไว้ กากวัสดุที่รับมา คือภาชนะปนเปื้อน 1,700 กิโลกรัม และสารละลาย นิคเกิล 1300 กิโลกรัม รวมที่บริษัทเอกอุทัย ไปรับจากบริษัทนี้ 3 พันกิโลกรัม



เป็นที่น่าสังเกตว่า ในระบบบันทึก ระบุว่าบริษัทเอกอุทัยไปรับมา เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ ทั้งที่กรมไปตรวจและสั่งให้หยุดกิจการตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์



อย่างไรก็ตาม คำสั่งมาตรา 39 วรรคให้เอกอุทัยหยุดกิจการชั่วคราว อาจจะออกในภายหลังวันที่ 16  แต่จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะล่าช้าถึง 7 วัน จึงทำให้บริษัทเอกอุทัย ไปรับกาก ขยะได้ในวันที่ 23 หรือถ้าออกคำสั่งไปแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ว่านี่คือการลักลอบรับกากขยะทั้งที่ถูกห้าม



นอกจากนี้ข่าว 3 มิติ ยังมีข้อมูลอีกชุด คราวนี้เป็นการรายงาน โดยบริษัทผู้กำเนิดกากรายหนึ่ง ซึ่งข่าว3มิติขอปกปิดชื่อ บริษัทนี้รายงานเข้าไปในระบบดังกล่าวว่า ได้ส่งวัสดุ ไม่ใช้แล้ว ให้บริษัทเอกอุทัยในวันที่ 2 มีนาคม 2566 หรือเมื่อ 5 วันที่แล้วนี่เอง



วัสดุไม่ใช้แล้วที่ส่งออกมา คือ กากสี วัสดุปนเปื้อนสี น้ำมัน ภาชนะปนเปื้อนสี น้ำมัน น้ำมันปนเปื้อนน้ำ และกากตะกอนปนเปื้อน รวม 9,340 กิโลกรัม



ข้อมูลทั้งสองชุดนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า บริษัทเอกอุทัย ถูกสั่งระงับกิจการชั่วคราว เหตุใดยังรับของเสียได้ และเหตุใดบริษัทที่เป็นเจ้าของกากขยะ



จึงยังใช้บริการบริษัทเอกอุทัย ที่ถูกสั่งระงับกิจการได้ หรือเป็นไปได้หรือไม่ว่าบริษัทต้นกำเนิดกาก ไม่รู้ว่าบริษัทเอกอุทัยถูกระงับกิจการชั่วคราว หรือบริษัทเอกอุทัย ไม่ได้แจ้งต่อผู้ติดต่อมาว่า บริษัทตัวเองถูกระงับ



อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเหตุผลใดที่ทำให้บริษัทเอกอุทัยฯ ซึ่งถูกสั่งหยุดกิจการชั่วคราวไปแล้ว ยังกลับยังรับกากขยะออกมาได้ แต่บริษัทที่เป็นผู้กำเนิดกากขยะต้องรับผิดชอบ



เพราะในแบบ กอ.1 ซึ่งเป็นหนังสือยินยอมระหว่างผู้ใช้และผู้ให้บริการบำบัด กำจัดสิ่งปฎิกูล หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อประกับความรับผิด มีข้อกำหนด 5 ข้อ โดยเฉพาะข้อ 3 ที่สรุปใจความได้ว่า ในระหว่างขนส่งกากขยะออกไปกำจัดหรือบำบัด ผู้ใช้บริการต้องรับผิดชอบ กรณีเกิดการสูญหาย อุบัติเหตุ ทิ้งผิดที่ หรือลักลอบทิ้ง รวมถึงรับคืน กรณีมีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับสัญญาสองฝ่าย



เอกสารนี้ต้องมี 3 ชุด สำหรับบริษัทผู้กำเนิดกากขยะ บริษัทผู้รับกำจัดกากขยะ และกรมโรงงานอุตสาหกรรมในฐานะผู้กำกับดูแล



ข้อมูลที่ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบพบนี้ เป็นบริษัทเพียง 2 ราย จากจำนวนอีกหลายราย ที่อาจเป็นผู้ใช้บริการในระหว่างที่บริษัทเอกอุทัย ทั้งที่อาจรู้และไม่รู้ว่าบริษัท เอกอุทัยถูกระงับกิจการชั่วคราว และหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็มีคำถามตามมาว่าวัสดุหรือกากอุตสาหกรรมที่รับมาแล้ว ณ ขณะนี้ถูกเก็บอยู่ที่ใด



เช่นเดียวกับคำถามว่ากากขยะในโกดัง อำเภอภาชี ซึ่งถูกลักลอบขนย้ายออกไปทั้งกลางวันและกลางคืน ในวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก่อนเจ้าหน้าที่จะ เข้าอายัดในวันที่ 27 นั้น ขณะนี้ถูกเก็บอยู่ที่ใด