สังคม

แผ่นปูนชั้นลอยอาคาร โรงงานปราจีนฯ ถล่มทับคนงานดับ 5 กระทรวงอุตฯ สั่งหยุดกิจการทันที

โดย thichaphat_d

31 ธ.ค. 2567

387 views

วานนี้ (30 ธ.ค.67)  เวลาประมาณ 9.30 น. ตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุแผ่นปูนถล่มทับคนงาน เหตุเกิดภายในอาคารโรงงาน  ในนิคมอุตสาหกรรม 304  พื้นที่หมู่ 7 ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี  

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ บริเวณด้านหลังโรงงานเป็นอาคารที่กำลังมีการปรับปรุงทำพื้นที่อาคารชั้น 2 ส่วนที่ถล่มเป็นแผ่นปูนสำเร็จรูป น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัน ถล่มลงมาพร้อมกับโครงเหล็ก ทับคนงานที่กำลังปฏิบัติงานอยู่

ทีมข่าวได้คลิปภาพนาทีเกิดเหตุ หลังจากที่แผ่นปูนถล่มลงมา มีคนงานที่รอดชีวิตหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปไว้ จะเห็นว่ามีฝุ่นฟุ้งตลบ คนงานที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และมีเสียงร้องตะโกนโหวกเหวกให้ช่วยเหลือคนที่ถูกแผ่นปูนทับ

เจ้าหน้าที่สอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่าโรงงานดังกล่าวได้ว่าจ้างผู้รับเหมาเข้ามาสร้างและเคลื่อนย้ายชั้นลอย ขณะเกิดเหตุ มีคนงานกำลังทำงานต่อเติมชั้นลอย และยกแผ่นปูนขึ้นเพื่อไปประกอบเป็นชั้นลอย มีเสาทั้งหมด 16 ต้นและมีแม่แรงเป็นตัวยกแผ่นปูน แต่คาดว่าเกิดผิดพลาดทางเทคนิค ทำให้แผ่นปูนที่อยู่ด้านบนทั้งหมด ร่วงหล่นมาทับวิศวกรผู้รับเหมาะและคนงานที่อยู่ด้านล่าง 5 คน

เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องจับสัญญาณชีพคนงานใต้แผ่นปูน แต่ไม่พบสัญญาณของผู้รอดชีวิต จึงใช้เครื่องมือทุบแผ่นปูน เพื่อค้นหาร่าง จึงพบผู้เสียชีวิตกระจัดกระจายตามจุดต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ จึงสามารถนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาได้ โดยมีกลุ่มเพื่อนคนงาน พากันร้องไห้เสียใจ เพราะคนงานกลุ่มนี้ต้องเร่งทำงานให้เสร็จ จึงไม่ได้กลับภูมิลำเนาช่วงปีใหม่

สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ได้แก่ 1.นายนิรันดร์ โตสันเทียะ (วิศวกรผู้รับเหมา) 2.นายยงยุทธ ดอกหลาบ 3.นายธนพล พงษ์พระเกตุ  4.นายจิรายุ แซ่ตั๊น 5.นายเครือบ จงประโคน

สอบถามคนงานชายที่อยู่ในเหตุการณ์และยังอยู่ในอาการช็อก เล่าว่า ตนเห็นเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ตนทำงานเป็นช่างเชื่อมมาหลายปีไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตอนเกิดเหตุมันเร็วมาก ยังคิดว่าตัวเองคงไม่รอด เพราะโครงเหล็กล้มเฉียดหัวตนไปนิดเดียว เกือบจะไม่ได้เห็นหน้าลูกเมียแล้ว  หลังเกิดเหตุตนรีบโทรแจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ

ส่วนคนงานชายอีกคน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุมีคนทำงานอยู่ 21 คน การย้ายชั้นลอย พวกตนทำตามขั้นตอนที่วิศวกรผู้รับเหมา ซึ่งเป็นหัวหน้า ได้วางขั้นตอนไว้ โดยใช้เสาแม่แรงดันแผ่นปูนขึ้นไป 7 เซนติเมตร ตอนนั้นตนเองยืนอยู่ตรงกลาง ได้ยินเสียงเปรี๊ยะและเสียงร้อง ตนจึงวิ่งหนีออกไปอีกฝั่ง เห็นว่าแผ่นปูนไหลล้มทางฝั่งที่หัวหน้ายืนคุมงานอยู่ คนที่ถูกทับเป็นกลุ่มที่วิ่งไม่ทัน ตอนนี้ยอมรับว่าพวกตนก็รู้สึกเคว้ง เพราะเสียหัวหน้าไปแล้ว ยังไม่รู้จะทำอย่างไรกันต่อ

พ.ต.อ.มงคล โท้เป๋า ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า โรงงานหยุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ พนักงานของบริษัทหยุดงานทั้งหมด ช่วงที่โรงงานหยุดจึงได้ว่าจ้างบริษัทผู้รับเหมามาสร้างหรือย้ายชั้นลอยในตัวอาคารเพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่ ขณะทำงานมีคนงานทั้งหมด 21 คน ระหว่างที่ผู้รับเหมายกชั้นลอยขึ้นเพื่อเคลื่อนย้าย ก็เกิดเหตุถล่มลงมาทับคนงานที่อยู่ด้านล่าง คนอื่นๆ พากันวิ่งหนีได้ทัน แต่คนที่อยู่ใต้ชั้นลอยหนีไม่ทัน ถูกแผ่นปูนทับเสียชีวิต 5 ราย โดยชั้นลอยมีความกว้าง 15 x 15 เมตร สูงจากพื้น 3 เมตร ตัวพื้นหนา 15 ซม. ย้ายจากที่ตั้งเดิมไปยังอีกมุมหนึ่งของตัวอาคาร เพื่อใช้สำหรับเก็บถังสีและอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงาน ซึ่งมีน้ำหนักหลายตัน

พ.ต.อ.มงคล กล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวนได้เชิญผู้ว่าจ้าง คือ เจ้าของบริษัท มาสอบปากคำ รวมถึงผู้รับเหมา วิศวกร และผู้เช่าช่วง มาสอบปากคำทั้งหมด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ในส่วนของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร จะมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งดำเนินคดีต่างหาก เช่น การก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น การขออนุญาตต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาต การควบคุมการรื้อถอนต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด รวมถึง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน และ พ.ร.บ.วิศวกรที่เกี่ยวข้อง โดยแรงงานที่พบว่าอายุไม่ถึง 18 ปี จะต้องตรวจสอบก่อนว่า อายุตรงกับบัตรประชาชนหรือไม่  ส่วนการดูแลเยียวยานั้น  ในเบื้องต้น ผู้รับเหมาจะชดเชยให้ผู้เสียชีวิตทุกราย

ด้านนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม  เปิดเผยว่า นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการด่วนให้นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ส่งทีมเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี (สอจ.ปราจีนบุรี) ลงพื้นที่และสั่งให้บริษัทฯ หยุดประกอบกิจการโรงงานและระงับการใช้อาคารที่เกิดเหตุทันที ตามมาตรา 39 ของ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 พร้อมทั้งสั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขอาคารให้มีความมั่นคงแข็งแรง โดยต้องตรวจสอบและได้รับการรับรองจากผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม จึงจะอนุญาตให้กลับมาใช้อาคารต่อไปได้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/89pNN0Xj76s

คุณอาจสนใจ

Related News