'นักธรณีวิทยา' เร่งตรวจสอบชั้นบ่อบาดาล ปนเปื้อนหรือไม่ หลังพบ บ.เอกอุทัย ลอบฝังกากเคมี

หลังจากสัปดาห์ที่แล้วกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และตำรวจปทส. นำหมายค้นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปขุดสำรวจในบริษัทเอกอุทัย สาขาสามบัณฑิต จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามที่ได้เบาะแสว่ามีการลักลอบฝัง ซึ่งผลการขุดสำรวจ ก็พบการลักลอบฝังไว้จริง นำมาสู่ความกังวลว่าจะเกิดผลกระทบกับชั้นน้ำใต้ดินด้วย



ล่าสุดนักธรณีวิทยาชำนาญการ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ระบุว่า ทั้งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลและกรมโรงงานอุตสาหกรรม อยู่ระหว่างวางแผนสำรวจว่าชั้นน้ำบาดาล ได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด



การขุดพบถังบรรจุกากสารเคมีจำนวนมาก ถูกลักลอบฝังไว้ภายในพื้นที่บริษัทเอกอุทัย สาขาสามบัณฑิต อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ทั้งกรมโรงงานอุตสาหกรรม เร่งวางแผนสำรวจเพิ่มเติม เพราะตามเบาะแสของพยานคนสำคัญที่ให้ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่า การลักลอบฝังไว้หลายจุดกระจายกันอยู่ในพื้นที่โรงงาน



นอกจากนี้ ชนิดของกากอุตสาหกรรมที่ลักลอบฝัง ปะปนกันหลายประเภท ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวอย่างไปตรวจวิเคราะห์ ซึ่งจะมีผลต่อการนำไปสืบหาที่มา ของกากสารเคมีเหล่านั้น ด้วยว่าบริษัทใดเป็นเจ้าของกากสารเคมีชนิดนั้น ๆ ที่ได้ว่าจ้างให้บริษัทเอกอุทัยรับไปกำจัด



นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยในระหว่างเฝ้าติดตามการขุดสำรวจว่าเดิมชุมชนใกล้โรงงานนี้ ได้รับผลกระทบจากการน้ำปนเปื้อน สารเคมีที่รั่วไหล ออกไปในลักษณะเป็นน้ำผิวดิน และน้ำฝนที่ชะล้างเอากากสารเคมีไปด้วยซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด แต่การขุดพบว่ามีการลักลอบฝังทำให้ เพิ่มความเสี่ยงว่าอาจมีผลกระทบ ไปถึงชั้นน้ำบาดาลด้วยหรือไม่



นักธรณีวิทยาชำนาญการ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลระบุว่า ในบริษัทเอกอุทัย มีบ่อบาดาลที่เป็นบ่อสังเกตุการณ์ลึกประมาณ 3 เมตร ซึ่งสำรวจพบว่ามีค่าเป็นกรด แต่บ่อบาดาล ของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ที่อยู่ติดกับบริษัทเอกอุทัย พบว่าเครื่องมือในบ่อบาดาลชำรุด เพราะฤทธิ์กรด ซึ่งอยู่ระหว่างวางแผนร่วมกันเพื่อสำรวจอย่างละเอียดว่า ผลกระทบของสารเคมีเหล่านี้ ส่งผลต่อบ่อบาดาลนั้นแล้วหรือไม่ หรือเป็นเพราะว่าน้ำกรดไหลปนเปื้อนจากผิวดิน ไปกับท่อบาดาล จนเกิดผลกระทบ ซึ่งทั้งสองสาเหตุนี้มีผลกระทบต่างกัน จึงต้องตรวจวิเคราะห์ให้ละเอียด



เลขานุการ อบต.สามบัณฑิต บอกว่าเป็นห่วงการปนเปื้อนของสารเคมีในน้ำบาดาลมาก เนื่องจากที่นี่ไม่มีระบบประปา แต่ใช้ระบบน้ำบาดาลเป็นหลัก ลักษณะทางธรณีวิทยาของตำบลสามบัณฑิต มีลักษณะเป็นดินเหนียว ซึ่งทั้งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมและผู้เชี่ยวชาญจากกรมทรัพยากรธรณีวิทยา ระบุตรงกันว่า แม้จะมีการรั่วไหลของสารเคมีลงพื้นดิน แต่จะไหลหรือรั่วซึมได้ช้ากว่าดินที่มีสภาพร่วนซุย หรือเป็นทราย อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องวางแผนสำรวจผลกระทบอย่างละเอียด เนื่องจากการกระทำ ที่ทำให้สารเคมีอันตรายปนเปื้อนแหล่งน้ำบาดาลนั้น เป็นคดีอาญา ที่มีโทษหนักมากกว่าความผิดตาม พรบ.โรงงาน และ พรบ.วัตถุอันตราย