เสวนา อิทธิพล 'ส่วยรถบรรทุก' ตอกย้ำปัญหาคอร์รัปชันฝังรากลึก สร้างความเสียหายระบบขนส่ง

สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จัดงานเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ อิทธิพลส่วยรถบรรทุกกับการคอรัปชั่น ที่โรงแรม รามา การ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานครวันนี้ ซึ่งตรงกับวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล เพื่อแลกเปลี่ยน ข้อเสนอ และทางแก้ปัญหาส่วยรถบรรทุกเชิงนโยบายของพรรคการเมือง ที่เป็นปัญหามายาวนาน สร้างความเสียหายให้กับระบบขนส่งสินค้าในประเทศเป็นอย่างมาก โดยผู้ประกอบการรถบรรทุก ทั้ง 10 สมาคม และตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วม



นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และพันตำรวจเอก วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ปรึกษา สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ระบุว่า ปัญหาส่วยรถบรรทุกและการคอร์รัปชั่น สะสมมากกว่า 30-40 ปี แต่ระบบจ่ายส่วยบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดยังเกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน



ซึ่งอดีตการจ่ายส่วยรถบรรทุก จะจ่ายแบบราคาเหมา 5,000-6,000 บาทต่อเดือนต่อผู้ประกอบการ แต่ปัจจุบันจ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 10,000-27,000 บาทต่อเดือนต่อคัน ขึ้นอยู่กับปริมาณการบรรทุกน้ำหนักสินค้า



โดยมีรถบรรทุก ที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ประมาณ 1,400,000 -1,500,000 คัน มีผู้ประกอบการยอมซื้อป้ายเคลียร์เส้นทางหรือจ่ายส่วย ไม่ต่ำกว่า 120,000 คัน คิดเป็นเงินมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ถือว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาล



ด้าน นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนของพรรคการเมือง ที่เข้าร่วมแสดงความเห็นในเวทีดังกล่าว ยอมรับว่า ขณะนี้รถบรรทุกเกือบทั้งหมดมีการใช้ระบบการจ่ายเงิน เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจสอบน้ำหนัก และเลี่ยงกฎหมายจำนวนมาก หากจะแก้ปัญหาส่วยรถบรรทุก และสร้างความเท่าเทียมกับธุรกิจขนส่งของประเทศไทย จะต้องบังคับใช้กฎหมายเอาผิดและลงโทษเจ้าของสินค้า และผู้ประกอบการรถบรรทุกที่แบกน้ำหนักด้วย



ส่วนตัวแทนพรรคการเมือง ที่เข้าร่วมเสนอทางออกด้วย เช่นพรรคเพื่อไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย โดยมีความเห็นสอดคล้องกัน และเสนอแนะให้นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจสอบ และวัดน้ำหนักรถบรรทุก ตั้งแต่ต้นทาง เพื่อจะช่วยให้กระบวนการทำงานโปร่งใส และตรวจสอบได้มากขึ้น



ขณะเดียวกันวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ในงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) ที่สำนักงาน ป.ป.ช. จ.นนทบุรี



นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย ในฐานะประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ ได้ให้ความสำคัญกับการต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบตลอดมา รัฐบาลได้ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ท. องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ภาคประชาสังคม และภาคีเครือข่าย จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลขึ้น เพื่อร่วมกันแสดงจุดยืนพร้อมๆ กับคนไทยทุกภาคส่วน ที่จะ "ไม่ทำ ไม่ทน และไม่เพิกเฉย" ต่อการทุจริตอีกต่อไป ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในวันนี้ แต่จะต้องอยู่ในจิตใต้สำนึกของคนไทย ทุกๆ คน ในทุกๆ วัน



โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ หรือ TI (ที-ไอ) ได้สะท้อนว่าปัญหาการทุจริตที่เป็นจุดอ่อนของประเทศไทยที่สำคัญ คือ ปัญหาการซื้อขายตำแหน่ง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การเรียกรับสินบน ตลอดจนการใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน และความไม่โปร่งใสในการใช้งบประมาณ การทุจริตจึงเป็นภัยต่อชาติบ้านเมือง ซึ่งจะต้องไม่ยอมให้การทุจริตเป็นมรดกบาป ตกทอดสู่รุ่นลูก รุ่นหลานอีกต่อไป