สังคม

กรมอุทยานฯ ประสานทางการลาวขยายผลล่าขบวนการค้าเสือโคร่งข้ามชาติ

โดย panisa_p

23 พ.ย. 2565

215 views

หลังจากเจ้าหน้าที่จับผู้ต้องหาในขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ได้พร้อมลูกเสือโคร่ง 4 ตัวที่จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาอ้างว่าทำเป็นครั้งแรกนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สืบสวนเชิงลึก จนพบว่าขบวนการนี้มีเครือข่ายทั้งชาวไทย ชาวลาว และเวียดนาม โดยยังมีภาพเป็นหลักฐานที่เชื่อว่า ยังมีลูกเสืออีกอย่างน้อย 40 ตัว ที่รอส่งขาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ของลาวที่ข้ามมาประชุมที่มุกดาหาร ยืนยันว่าลูกเสือดังกล่าว ไม่น่าจะเกิดหรือคลอดในฝั่งลาว



ผลจากการล่อซื้อและซ้อนแผนจับนายถนัด วงศ์สาร เมื่อ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ยึดลูกเสือโคร่งได้ 4 ตัว ที่นายถนัดนำมาส่ง ให้สายลับ ลูกเสือโคร่งทั้ง 4 ตัว อายุประมาณ 2 เดือนเป็นเพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 2 ตัว/ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างเลือดไปตรวจพิสูจน์ดีเอนเอ



นายถนัด เป็นอดีตตำรวจยศจ่าสิบตำรวจ เคยรับราชการสังกัดภูธรจังหวัดเชียงรายก่อนจะลาออก เมื่อปี 2542 ตำวรจจับผู้ต้องหาค้า ยาเสพติด 4-5คน ทั้งหมดซัดทอดว่ารับยาบ้ามาจากนายถนัด โดยโอนเงินให้ 9 ล้านบาท คดีต่อเนื่องเรื่อยมาจนนายถนัดลาออก จากตำรวจ เมื่อปี่ 2546 และปี 2552 นายถนัดถูกศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 1 ปี ฐานฟอกเงิน เพราะไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงิน 9 ล้านบาทได้



ส่วนที่จับได้พร้อมลูกเสือโคร่ง แม้นายถนัดจะอ้างว่าทำครั้งแรก แต่หลักฐานชัดเจนว่านายถนัดเข้าออกชายแดนไทยลาว ผ่านทางเชียงราย และมุกดาหารหลายครั้ง กระทั่งพบว่ามีชาวไทยอีก 1 คน ชื่อนายปรัชญนันท์ ร่วมขบวนการกับนายถนัด ทำหน้าที่เป็นตัวประกันระหว่าง ที่รอการจ่ายเงินค่า ลูกเสือให้ผู้ค้า โดยผู้ค้าที่ร่วมขบวนการเป็นชายชาวเวียดนาม ชื่อนายทรัน หลิน และตอนนี้ลูกโคร่ง ก็อยู่ในพื้นที่แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว ทำให้มีชาวลาวเกี่ยวข้องอีก 3 คน ในฐานะที่คอยนำพานายถนัด เพื่อเดินทางเข้าออก และไปดูลูกเสือที่เหลือ



ภาพถ่ายที่นายถนัดส่งมายืนยันกับสายล่อซื้อขณะนั้น พบว่ายังมีลูกเสืออย่างน้อย 12 ตัว ที่อยู่ในการดูแลของขบวนการนี้ และจากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ก็พบว่ามีลูกเสือในวัยเดียวกันนี้อย่างน้อย 40 ตัว



ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากประเทศลาว 5 คน นำโดยหัวหน้ากองตรวจตราป่าไม้แขวงสะหวันนะเขต เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ที่มุกดาหารเพื่อติดตามเครือข่ายค้าสัตว์ป่าข้ามชาติกลุ่มนี้ โดยนายสุนทร เทพปัญญา รองหัวหัวหน้ากองคุ้มครองอนุรักษ์ป่าโคกโอ่ง-มั่ง ประเทศลาว แจ้งว่าใน ประเทศลาว ไม่มีแหล่งเพาะเลี้ยงเสือโคร่ง



ไม่ว่าจะของรัฐหรือเอกชน ส่วนในป่าธรรมชาติ โดยเฉพาะโดยรอบพื้นที่ ซุกซ่อนของกลาง ก็ไม่เคยพบเสือโคร่งมาก่อน จึงเป็นไปได้มากว่าจะเป็นเสือจากประเทศอื่น หรือาจจจะจากไทย ส่งไปที่ลาวเพื่อรอส่งต่อไปประเทศที่สา ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ลาว จะเร่งติดตามคนที่เหลือของขบวนการนี้



ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ระบุว่ากำลังแกะรอยที่มาของลูกเสือโคร่งดังกล่าว เพราะในประเทศไทย มีฟาร์มเอกชนหลายแห่งที่อยู่ชิดชายไทย-ลาว แต่จะเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรต้องตรวจสอบข้อเท็จริง ระหว่างนี้จะเร่งประสานเพื่อ ติดตามคนในขบวนการที่เหลือและช่วยลูกเสือที่ยังอยู่ในมือของขบวนการนี้อีก



มีข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ลูกเสือโคร่งในตลาดใต้ดินขายราคาตัวละ 5 แสนบาทซึ่งไม่ใช่เพื่อเลี้ยง แต่เพื่อนำไปปรุงเป็นอาหาร ด้วยวิธีการตุ๋น เพื่อนำไปแยกชิ้นส่วนขายสำหรับนำไปผสมยาดอง ตามรสนิยมของคนบางกลุ่มเท่านั้น

คุณอาจสนใจ

Related News