สังคม

พบบริษัทเอกชนถือครองที่ดิน 1,200 ไร่ ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติ จ.ราชบุรี อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าออกโดยชอบหรือไม่

โดย parichat_p

9 พ.ย. 2565

256 views

มีความคืบหน้าเพิ่ม กรณีการตรวจสอบที่ดินกว่า 1 หมื่น ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีประเด็นว่านายทุนชาวจีนพยายามติดต่อขอเช่าที่ป่าสงวนเพื่อทำโซล่าเซล และกรมป่าไม้ยืนยัน ว่าแปลงดังกล่าวจะให้ออป.ปลูกป่าแทน ล่าสุดพบเอกชนรายหนึ่งถือครองที่ดินกว่า 1200 ไร่ ในบริเวณใกล้เคียงกับแปลงปลูกป่า โดยพบว่าโฉนดแปลงนี้ ทับซ้อนกับป่าสงวน แห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำฝาชี ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าโฉนดออกโดยชอบหรือไม่ เป็นที่น่าสังเกตุว่าที่ดินบริเวณนี้ มีวิธีออกเอกสารคล้ายกับกรณี นส.3 ของนักการ เมืองและมารดาของนักการเมืองที่เคยครอบครองในตำบลเดียวกัน แต่ตอนนี้ถูกเพิกถอน นส.3 ไปแล้วหลังพบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ


ที่ดินแปลงนี้เนื้อที่รวม 1,209 ไร่ 3 งาน เป็นแปลงล่าสุดที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอรัปชั่นและเจ้าหน้าที่หลายหน่วยร่วมตรวจสอบเมื่อวาน เพราะสงสัยว่าเหตุใดในพื้นที่ม. 10 ต.รางบัว อ.จอมบึงราชบุรี ไม่มีชาวบ้านคนใดในหมู่นี้ได้โฉนดที่ดินเลย แต่แปลงนี้กลับมีโฉนดมากถึง 1,200 ไร่ ทั้งที่รอบข้างมีทั้งที่เป็นสปก.และเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี


นายวีระ ระบถุว่าเขาเพิ่งพบหน้าคนที่มาเช่าที่ดินแปลงนี้ ซึ่งคนที่นี่รู้จักกันในชื่อที่ดินของบริษัทสหวิริยา แต่ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบแล้วพบว่าชื่อที่ใช้ในการทำธุรกรรมทั้งครอบครองที่ดิน และเช่าที่ดินแปลงอื่นเพื่อปลูกยูคาลิปตัสนั้น คือชื่อบริษัทวิริยะเกษตรอุตสาหกรรม ซึ่งนายวีระขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่มาของโฉนดแปลงนี้


เมื่อเจ้าหน้าที่นำตำแหน่งพิกัดมาตรวจสอบเบื้องต้นจากระบบค้นหารูปแปลงที่ดิน หรือlands maps เวปไซต์กรมที่ดิน พบว่าข้อมูลว่า บนพิกัดนี้ มีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินไว้แล้ว เป็นโฉนดจำนวน 26 แปลง เนื้อที่รวม 1,209 ไร่ 3 งาน 1


แต่เมื่อตรวจกับฐานข้อมูลของกรมป่าไม้พบว่าพิกัดเดียวกันนี้ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ซึ่งมีการประกาศเมื่อปี 2527 เมื่อตรวจสอบย้อนหลังไปไกลกว่านั้นพบว่าพื้นที่นี้ประกาศเป็นเขตป่าไม้ถาวรตั้งแต่ปี 2512ไว้แล้ว //เท่ากับว่าที่ดินทั้ง 1,200 ไร่ นี้ ที่มีโฉนด ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี


อย่างไรก็ตาม หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าราชบุรี 1 ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบเพิ่มเติมว่าโฉนดดังกล่าว มีเอกสารที่นำมาออกโฉนด เช่นสค. 1 ใบจอง หรือนส. 2 /และนส. 3 เป็นต้น ได้มาก่อนที่ ที่ดินจะถูกประกาศเป็นเขตป่าไม้ถาวร เมื่อปี 2512 หรือไม่ หากได้มาหลังจากนั้น ก็อาจเป็นโฉนดที่ออกโดยมิชอบ และต้องเพิกถอน


ข่าว  3 มิติ ได้รับการยืนยันว่า ไม่เฉพาะแปลงนี้เท่านั้น แต่อีกหลายแปลงครอบคลุมหลายอำเภอ โดยเฉพาะต.รางบัว อ.จอมบึง ที่ถูกประกาศเป็นเขตป่าไม้ถาวร /ป่าสงวนแห่งชาติ และเขต สปก. จึงมีน้อยมากที่จะมีเอกสารอื่นเพื่อนำมาออกโฉนด ส่วนใหญ่พบเป็นการเดินสำรวจเพื่อออกโฉนดเมื่อปี 2521 เหมือนกรณีนักการเมืองหญิงที่ราชบุรี และมารดาของนักการเมือง ซึ่งซื้อที่ดินต่อมาจากผู้อื่นหลายทอด ในต.รางบัวเช่นกัน ต่อมาพบว่าโฉนดที่ดินแปลงเหล่านั้นออกโดยการเดินสำรวจ ใช้ระวางรูปถ่ายทางอากาศ เมื่อปี 2521 ซึ่งกรมที่ดินมีมติเพิกถอนโฉดนเหล่านั้น // มนตรี รายงาน

คุณอาจสนใจ

Related News