สังคม

กรมป่าไม้ เผยผลสอบที่ดิน 'แอ๊ด คาราบาว' อยู่นอกป่าสงวนฯ

โดย panwilai_c

2 ธ.ค. 2565

1.9K views

กรณีชาวบ้านที่แก่งคอย สระบุรี ร้องเรียนถูกปิดกั้นพื้นที่สาธารณะในป่าสงวนแห่งชาติ จนนำมาสู่การตรวจสอบและพบว่า ลึกเข้าไปจากจุดที่ชาวบ้านร้องเรียน มีร่องรอยการตัดถนนล้ำเขตป่าสงวนฯเข้าไปในแปลงนส.3ก ของนายยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว ซึ่งปัจจุบัน มีเอกชนรายหนึ่งมาเช่า-ทำธุรกิจท่องเที่ยวปีนหน้าผา ด้วยสภาพที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำ ใกล้เขตป่าและมีภูเขาล้อมรอบ จึงถูกตั้งคำถามว่า ออกให้หรือได้มาโดยชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ หลังจากนายวีระ สมความคิด แจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ฐานละเว้นการปฏิบัติ ล่าสุด มีคำชี้แจงจากกรมป่าไม้ ผลการตรวจสอบชัดเจนว่า นส.3ก ทั้ง 2 แปลงของนายยืนยง ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ป่า ทั้งในเขตไม้ถาวรและป่าสงวนแห่งชาติ



จากภาพถ่ายทางอากาศ เมื่อนำเอารูปแปลงนส.3ก ของนายยืนยง มาวางทาบในตำแหน่งปัจจุบัน จะเห็นว่าพื้นที่ ทั้ง 2 แปลง ตั้งอยู่บริเวณโค้งน้ำ มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกมา สอดคล้องกับรูปแปลง ที่ขีดไว้ในหนังสือรับรองการทำประโยน์จากกรมที่ดิน เลขที่ 17 และ 18 ระบุเขตติดต่อ คือแม่น้ำป่าสัก สำเนาทั้ง 2 ฉบับนี้ ระบุชื่อผู้ครอบครองทำประโยชน์ คือ นายยืนยง โอภากุล



แต่ด้วยสภาพที่ตั้ง อยู่ติดแม่น้ำและมีภูเขาล้อมรอบ เอกสารสิทธิ์ทั้ง 2 แปลง จึงถูกตั้งข้อสังเกตจาก ป.ป.ท.เขต1 กระบวนการถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะเครือข่ายภาคประชาชน โดยนายวีระ สมความคิด ออกมาเคลื่อนไหว โดยอ้างอิงจากระวางในแผนที่ฉบับนี้ จะเห็นว่าเขตป่าสงวนฯครอบไปถึงแนวเขต นส.3 ก



โดยรองอธิบดีกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ชี้แจงประเด็นนี้กับ ข่าว 3 มิติ จากการตรวจสอบฐานข้อมูลและจับพิกัด ชัดเจนว่าที่ดิน ทั้ง 2 แปลง อยู่นอกเขตป่า ภาพจากกรมป่าไม้ แบ่งเส้น ระบุสีและพิกัด ทางซ้ายในกรอบส้ม เป็นเขตพื้นที่อนุรักษ์ กรอบเหลืองตรงกลางคือป่าสงวนฯ และกรอบเขียวทางขวาระบุเขตป่าไม้ถาวร ครอบอยูในเขตป่าสงวนฯ แต่ด้วยสภาพที่ตั้ง เหลือเป็นติ่งแหลม จึงมีคำถามว่าทำไม การกำหนดขอบเขตพื้นที่ป่า จึงเหลือไว้แบบนั้น



จากฐานข้อมูลกรมที่ดิน เบื้องต้น ระบุว่า นส.3ก ออกมาจากหลักฐาน สค.1 ซึ่งทำประโยชน์มาตั้งแต่ปี 2498 ก่อนประกาศเขตป่าไม้ถาวรและป่าสงวนฯ การพิสูจน์จึงต้องย้อนกลับไปดูสค.1 ซึ่งต้องดูว่าข้อมูลที่ระบุไว้ สอดคล้องกับหลักฐานการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ หรือไม่



ส่วนประเด็นการตัดถนนและทำรั้วกั้นในเขตป่าสงวนฯ รองอธิบดีกรมป่าไม้ บอกว่า มีข้อมูลแล้ว และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ เข้าไปตรวจสอบดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

คุณอาจสนใจ

Related News