เปิดใจ อดีตแก๊งทวงหนี้ อยากเลิกอาชีพ กลับถูกยัดยาก่อนแจ้งตร.จับ

อุทธาหรณ์สำหรับคนที่เข้าไปเป็นสมาชิกแก๊งรับจ้างทวงหนี้นอกระบบ ที่สุดท้าย มีปัญหาอะไรขึ้นมา ทางแก๊งจะมีวิธีการจัดการกับชุดทวงหนี้ ที่แก๊งสงสัยว่า หักหลัง

เมื่อติดหนี้ของกลุ่มเงินกู้นอกระบบ จำนวน 10,000 บาท ทำให้ครอบครัวนี้ต้องเข้าไปเป็นแก๊งหมวกกันน็อก ทวงหนี้ให้กับเจ้าหนี้รายใหญ่ ที่ จ.สงขลา โดยทำหน้าที่ทวงหนี้มาเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว และมีหัวหน้าสาย เป็นชาย-หญิง อีกคู่หนึ่ง ที่คอยสั่งงานให้ไปทวงหนี้กับลูกหนี้ และเมื่อไปทวงหนี้ได้แล้ว ก็จะส่งคืนให้หัวหน้าสาย



แต่ต่อมาต้องการเลิกทำงาน ก็ถูกทางแก๊งเงินกู้ยื่นข้อเสนอให้เป็นหัวหน้าสาย นำเงินไปปล่อยกู้ได้เอง แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อหัวหน้าสายได้ลวงให้มาที่กรุงเทพฯเพื่อประชุมแผนงานและรับรถกระบะ 1 คัน เพื่อกลับไปที่สงขลา ไปตั้งโต๊ะปล่อยเงินกู้เอง จึงเดินทางมาเมื่อวันที่ 9 ก.ค.



โดยหัวหน้าสายเปิดรีสอร์ทให้พัก แต่ห้องข้างๆ มีแก๊งทวงหนี้ นั่งปาร์ตี้ยากัน 6-7 คน โดยมีการใช้ยาเสพติดทั้งยาไอซ์ และ ยาอี หลังจากนั้นแก๊งทวงหนี้ออกจากห้องไปเพียง 20 นาที เหลือตนนั่งหลับในห้องคนเดียว ตำรวจได้เข้ามาจับกุม และพบยาไอซ์ในห้อง 1 กรัม ซึ่งผู้ร้องเรียนยืนยันว่าเป็นยาของแก๊งทวงหนี้คนอื่น ที่โทรศัพท์ให้มาส่งยา



ผู้ร้องเรียนยอมรับว่า สาเหตุที่ตนถูกยัดยาจากแก๊งทวงหนี้ น่าจะมาจากหัวหน้าสาย เข้าใจว่า ทวงหนี้มาแล้วคืนเงินไม่ครบ และกินส่วนต่างจาก ลูกค้า หากกู้ 10,000 บาท ก็จะให้กู้ 20,000 บาท จากนั้นก็ส่งดอกเบี้ย แค่ยอด 10,000 ซึ่งผู้ร้องเรียนยอมรับว่า ทำผิดแค่ 30 เปอร์เซนต์ ส่วนอีก 70 เปอร์เซนต์ เป็นความผิดของหัวหน้าสาย



หลังจากผู้ร้องเรียนถูกจับ เรื่องครอบครองยาเสพติด และเสพสารเสพติด ก็ไม่สามารถติดต่อหัวหน้าสาย ได้ แต่ได้มีผู้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สังกัด กอ.รมอ.ภาค 4 โทรศัพท์มาข่มขู่



ขณะที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ทางหน่วยบอกว่ามีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ประจำ เพราะในหน่วยจะมี ทั้งทหาร ตำรวจและพลเรือนที่เข้ามาร่วมกันทำงานเพื่อรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ซึ่งในคลิปเสียงมีการพูดแค่ชื่อเท่านั้น ทำให้การตรวจสอบยาก อาจเป็นการแอบอ้าง ซึ่งหากมีข้อมูลรายละเอียดมากกว่านี้ ทางหน่วยยินดีตรวจสอบให้และถ้าพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน จริง ก็มีขั้นตอนดำเนินการเอาผิด