สังคม

ลุงวัย 65 ร้องกู้เงิน 3 หมื่นจ่ายดอกกว่า 3 ล้าน ถูก 29 เจ้าหนี้ตามล่า ต้องหนีนอนตามป้ายรถเมล์

โดย petchpawee_k

9 ธ.ค. 2566

439 views

เมื่อเวลา 10.40 น. วานนี้ (8 ธ.ค.) ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด ลุงวิชัย อายุ 65 ปี เจ้าของบริษัทชิปปิ้งแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี เข้าขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบ ตามล่าตัวจนกลับบ้านไม่ได้ ต้องเร่ร่อนนอนตามป้ายรถเมล์ หลังกู้เงินจากยอดหนี้ที่ยืมมาเพียง 3 หมื่นบาท แต่ที่ผ่านมาจ่ายดอกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท


ลุงวิชัยกล่าวว่า ตนเปิดบริษัทชิปปิ้งที่จังหวัดชลบุรี ช่วงกันยายน ปี 2563 แต่ต่อมา เริ่มมีปัญหาเรื่องการเงิน เลยเริ่มหยิบยืมจากญาติ แต่ก็ยังไม่พอใช้ จึงเริ่มกู้เงินนอกระบบ จากป้ายแผ่นป้ายโฆษณาหน้าบริษัท เมื่อ สิงหาคม ปี 2565 จำนวน 30,000 บาท แต่มีการหักดอกเบี้ยตั้งแต่ครั้งแรกและได้เงินมา 24,000 บาท แต่ยังต้องจ่ายเงินต้นเต็มจำนวนอยู่


จากนั้นก็ทยอยจ่ายดอกเบี้ยทุกวัน ในอัตราหมื่นละ 200 บาท หรือวันละ 600 บาท ผ่านมาสักระยะตนจ่ายไม่ไหว พอขาดส่งเจ้าหนี้จึงแนะนำให้กู้เงินจากเจ้าหนี้รายใหม่ ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นเครือข่ายเดียวกันเพื่อนำเงินมาจ่ายยอดหนี้เก่า แต่เมื่อปิดหนี้เดิมไม่ได้ เจ้าหนี้รายที่ 2 ก็แนะนำให้ไปกู้จากเจ้าหนี้รายที่ 3 ซึ่งต้องกู้วนอยู่แบบนี้ รวมถึงการจ่ายดอกก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน


รวมถึงเจ้าหนี้บางรายยังให้ตนซื้อมอเตอร์ไซค์เป็นชื่อของตนอีก 2 คัน รวมกว่า 2 แสนบาท แต่ตอนนี้มอเตอร์ไซค์ทั้งสองคันได้ออกนอกประเทศไปแล้ว บางวันต้องจ่ายดอกสูงถึงวันละกว่า 20,000 บาท จนทำให้ลุงเป็นหนี้กับเจ้าหนี้ทั้งหมด 37 เจ้า ภายใน 8 เดือน นับตั้งแต่เดือน ส.ค. ปี 65 แต่ขณะนี้สามารถปิดหนี้ได้แล้ว 8 เจ้า คงเหลืออีก 29 เจ้า โดยในขณะนี้จ่ายดอกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท


ลุงวิชัยระบุว่า ตนหยิบยืมเงินมาหมดแล้วทั้งญาติ เพื่อน พี่น้อง และลูกๆ จนหมดหนทาง ทั้งยังต้องคอยหนีเจ้าหนี้ซึ่งหนีมาแล้ว 3 ครั้ง เพราะเจ้าหนี้ข่มขู่ฆ่าและปิดล้อมบริษัท เมื่อไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ ตำรวจก็แนะนำให้ลุงย้ายไปอยู่ในพื้นที่อื่น เพราะกลุ่มเจ้าหนี้เป็นผู้มีอิทธิพล พรรคพวกเยอะ และไม่เกรงกลัวตำรวจในพื้นที่


ซึ่งการหนีมาครั้งนี้ตนได้ไปอาศัยนอนที่วัด ป้ายรถเมล์ รวมถึงโรงพยาบาล โดยต้องแอบอ้างเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน และเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนรู้สึกหมดหนทางเลยคิดจะกระโดดสะพานหวังฆ่าตัวตาย แต่มีคนมาเจอและพูดคุย จึงได้ติดต่อมาขอความช่วยเหลือที่เพจสายไหมต้องรอด


เมื่อถามว่าทำไมถึงไม่ไปกู้ยืมเงินในระบบ ลุงวิชัยระบุว่า ขณะนั้นบริษัทเพิ่งเปิด เลยไม่มีหลักทรัพย์ในการไปกู้ และสาเหตุที่ไม่ไปลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาลก็เพราะกลัวเจ้าหนี้ เนื่องจากตนเห็นข่าวที่มีเจ้าหนี้ไปพังร้านส้มตำ


ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ในกรณีนี้จะได้ทำเป็นกรณีตัวอย่างในการเจรจาหนี้กับเจ้าหนี้ทั้งหมด โดยจะต้องมาดูยอดเงินกับเจ้าหนี้แต่ละรายว่าลุงได้มีการจ่ายดอกเบี้ยไปแล้วเท่าไหร่ หากมีการจ่ายดอกท่วมต้นไปแล้ว 3-4 เท่า ก็ถือว่าจบ แต่หากรายไหนลุงยังจ่ายดอกไปไม่ท่วมกับมูลหนี้ ก็เอาส่วนที่ยังเป็นหนี้มาพูดคุยกันว่าจะชำระอย่างไรแต่จะต้องคิดดอกเบี้ยในอัตราตามที่กฎหมายกำหนด


โดยทางเพจสายไหมจะพาลุงไปลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาลที่จังหวัดชลบุรี พร้อมประสานไปยัง พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้การชลบุรี ให้ดูแลในเรื่องนี้และดำเนินการกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลแก๊งเงินกู้ในพื้นที่ด้วย


ด้าน พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากทางเพจสายไหมต้องรอด ทาง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ก็ได้สั่งการให้ลงพื้นที่มาตรวจสอบ ซึ่งพบว่าผู้เสียหาย เป็นหนี้อยู่หลายเจ้า โดยจะให้ทางเจ้าหนี้ เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกันต่อไป


ในขณะเดียว ทางด้านผู้เสียหายก็ได้พาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสำนักงาน บริษัท ไลเน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในพื้นที่ม.11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยพบว่าประตูถูกกุญแจล็อคจากภายนอก ทั้งด้านหน้าและประตูหลัง และนำกาวไปหยอดด้วย นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการถูกลักขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์ไป เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้เสียหาย ทำการนัดเจรจนาไกล่เกลี่ยกับทางเจ้าหนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าระหว่างที่ลุงวิชัยกำลังให้สัมภาษณ์มีเจ้าหนี้รายแรกโทรเข้ามาทวงหนี้กลางวงสื่อมวลชน โดยทางเจ้าหนี้ถามว่าอยู่ที่ไหน คุณลุงบอกว่ากำลังหายืมเงินญาติพี่น้องไปใช้หนี้คืน โดยคุณลุงถามว่าทำไมถึงใช้เบอร์นี้โทรมา ทางเจ้าหนี้จึงตอบว่า "ก็พี่ไม่รับสายผมไง" และคุณลุงยังบอกเจ้าหนี้ด้วยว่าตอนนี้เป็นห่วงเรื่องมอเตอร์ไซค์ 2 คันที่ต้องผ่อน


ทางด้านเจ้าหนี้สวนทันควันว่าไม่ต้องมาอ้างเรื่องมอเตอร์ไซค์ เพราะพี่เป็นคนทำเอง จากนั้นทางคุณลุงพยายามจะวางสาย ทางเจ้าหนี้จึงบอกว่า "พี่ก็บ่ายเบี่ยงแบบนี้"


จากนั้นยังไม่พอ เจ้าหนี้อีกรายโทรมาทวงหนี้คุณลุงกลางโรงพัก สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี ขณะลุงวิชัยเข้าพบตำรวจ โดยทางตำรวจได้แนะนำให้ลุงวัชัยเจรจากับเจ้าหนี้ ระหว่างนั้นปรากฎว่าได้มีเจ้าหนี้อีกรายโทรมาทวงหนี้ โดยคุณลุงรับโทรศัพท์ และบอกว่าตอนนี้ลุงส่งไม่ไหวแล้ว ตอนนี้กำลังเร่งหาเงินอยู่ ทางเจ้าหนี้ถามว่า "วันนี้พี่เคลียร์ให้ผมได้เลยไหม ผมออกให้พี่หลายวันแล้ว" ทางคุณลุงปฏิเสธว่าไม่มีเงินส่งให้แล้ว ขอผลัดผ่อนหน่อยได้หรือไม่ เนื่องจากต้องส่ง 21 งวด แต่ตนส่งไปแล้ว 15 งวด ซึ่งมันทบต้นไปแล้ว


ทางเจ้าหนี้จึงบอกว่า "ไม่ได้ เขาก็ด่าผมเหมือนกัน ผมต้องจ่ายเงินแทนพี่วันละ 200 ผมไม่มีเงินกินข้าวแล้ว" ทางคุณลุงบอกว่า ตอนนี้จะหาเงินก้อนมาเคลียร์หนี้ ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวได้คุยกัน 


ทางเจ้าหนี้บอกว่า "โอเค แต่อย่าหายเงียบไปแบบนี้อีก" คุณลุงจึงบอกว่า "อย่าขู่แบบนี้พี่กลัว" ทางเจ้าหนี้จึงบอกว่า "พี่หายไปแบบนี้ พี่ไม่ให้ผมขู่แล้วจะให้ผมทำยังไง ผมก็ต้องทำตามหน้าที่ของผม"


ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบไลน์ของลุงวิชัย พบว่ามีแต่เจ้าหนี้ทั้งโทร และส่งข้อความมากทวงเงิน โดยบางข้อความก็มีการข่มขู่ บอกว่า “นัดไม่เป็นนัด ผมพูดดีมามากแล้วนะ อย่าให้ผมแรงกว่านี้ ชักจะหมดความอดทนแล้ว ให้รีบมาเคลียร์” ส่วนเจ้าหนี้อีกรายพบว่าได้มีข่มขู่ว่าจะนำทรัพย์สินของลุงวิชัยในออฟฟิศมาเก็บไว้ก่อน จนกว่าลุงวิชัยจะใช้หนี้คืน และยังบอกอีกว่าไม่ได้ประสงค์จะลักทรัพย์แต่อย่างใด แต่อยากให้เข้าใจหัวอกเจ้าหนี้ด้วย


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/StNZPX-yutY

คุณอาจสนใจ

Related News