นาทีระทึกจับ "ตั้ม-ทักษิณ" แก๊งทวงหนี้โหด จนมุมเจ้าหน้าที่ไล่ล่าดุเดือด 4 ชั่วโมง

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 111 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายทักษิณ พันเพียร อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่  จ.409/2566 ลง 10 ส.ค. 66 ฐานความผิด "ทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส" (สน.ค้างพลู) พบประวัติต้องโทษเกี่ยวกับยาเสพติด และพกพาอาวุธปืน

สำหรับพฤติการณ์ ทราบว่านายทักษิณ พันเพียร หรือ ตั้ม แก๊งทวงหนี้ขาโหด ย่านหนองแขม มีประวัติโชกโชน ยาเสพติด และอาวุธปืน ช่วงกลางปี 65 สร้างวีรกรรมสุดเหี้ยม ลงมือก่อเหตุกระทืบผู้เสียหายยับ ลงมือจู่โจมผู้เสียหายที่กำลังจอดรถจักรยานยนต์อยู่ด้วยลูกถีบขาคู่ จนคู่กรณีตัวปลิวจากรถจักรยานยนต์ กลิ้ง 3 ตลบ ผู้บาดเจ็บยังไม่ทันตั้งตัว เจ้าตัวก็ปรี่เข้าไปกระทืบซ้ำ ย้ำไปที่ใบหน้าของผู้บาดเจ็บ อย่างไร้ความปรานี แม้จะแน่นิ่งไปแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ ทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส เกือบกลายเป็นผู้พิการไปตลอดชีวิต อีกทั้ง ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ แต่ก็ไม่วายยังมาวนเวียนให้ผู้เสียหายรู้สึกหวาดผวาอยู่หลายครั้ง ต้องระวังหน้าระวังหลังไม่เป็นอันทำมาหากิน ขอความช่วยเหลือมาที่ เพจสืบนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุด “สืบนครบาล” และ สืบสวน111 ลงพื้นที่สืบสวนทราบถึงพฤติกรรมขาโหดทำทรงเป็นผู้มีอิทธิพล ตั้งแก๊งทวงหนี้โหดละแวก สุขสวัสดิ์-บางมด

พล.ต.ต.ธีรเดช วางกำลังแฝงตัวย่าน ซอยสุขสวัสดิ์ 26 จนตามไปพบเจ้าตัวขับรถมารวมก๊วนกับพลพรรค แต่ขาโหดรายนี้ไม่หมู ไหวตัวทันหนีเจ้าหน้าที่ ทำให้การไล่ล่าติดตามเกิดขึ้นอย่างระทึก เมื่อชุดสืบสวนไล่ควบมาติด ๆ จนถึง ถนนเจริญกรุง ละแวกสาธร หวังตะครุบกลางสี่แยกไฟแดง ขาโหดไม่ยอมจำนน บิดรถหนีไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนหันมาแสยะยิ้มให้เจ้าหน้าที่อย่างสุดกวน แม้จะคว้าน้ำเหลวในรอบแรก ซ้ำกระต่ายยังตื่นตูม แต่ไม่อาจสั่นคลอนจิตวิญญาณหมาล่าเนื้อ ของชุดไล่ล่าได้ โดดลงรถกระบะก่อนควบจักรยานยนต์ของเหล่าพลเมืองดีติดตามไป ไล่กวดไปกว่า 4 ชั่วโมง จนเห็นแผ่นหลังคนร้าย ชุดไล่ล่าไม่รอช้าเข้าไปจับตัวขาโหดรายนี้อย่างสุดระทึก

นอกจากนี้ ผู้ต้องหารายนี้ พยายามต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ จะกระโดดลงน้ำเพื่อหลบหนีเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ทันการ ถูกรวบตัวได้ในที่สุด สามารถจับกุมตัวได้เวลา 00.45 น. ของวันที่ 22 ส.ค. 66 โดยจับกุมได้ที่บริเวณ สะพานข้ามคลอง ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 26 แขวงบางมด เขตจอมทอง จ.กรุงเทพฯ

ในชั้นจับกุม นายทักษิณ พันเพียร ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนเคยถูกจำคุกในคดียาเสพติด ประมาณปี 2550,ปี 2559,ปี 2562 และคดีพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และในคดีนี้ เมื่อประมาณปี 2565 ได้มีปากเสียงกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งได้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง จนได้ลงมือทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงานคนดังกล่าวด้วยการเตะไปที่ใบหน้าของผู้เสียหาย จากนั้นก็ได้กระทืบซ้ำไปจำนวนหลายครั้ง ทำให้ผู้เสียหายล้มลงและสลบไป ภายหลังจากก่อเหตุก็ติดต่อขอเคลียร์กับคู่กรณีหลายครั้ง แต่ตกลงไม่ได้ จึงหลบหนี และยืนยันว่าที่ทำไปไม่ได้เกี่ยวกับแก๊งเงินกู้ หรือการทวงหนี้ และที่หลบหนีไม่ยอมเจ้าหน้าที่แต่โดยดี เพราะคิดว่าเป็นเด็กช่าง

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนร้ายรายนี้ ผู้ต้องหามีประวัติต้องคดียาเสพติดและพกอาวุธปืนไปที่สาธารณะ การลงมือก่อเหตุมีลักษณะของจิตใจที่อำมหิต และจากการสืบสวนยังพบพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล เก็บเงินกู้ ซ่องสุมกำลัง ใช้ความรุนแรง เราจะมีการขยายผลไปถึงเครือข่ายเงินกู้เถื่อนพวกนี้จนถึงที่สุด และขอเตือนผู้ที่คิดจะทำธุรกิจสีเทาในลักษณะนี้ว่า จะผู้มีอิธิพลใด ๆ ผมไม่กลัว  ตามนโบบายผบ.ตร. และ ผบช.น.