จนท.ระดมตรวจห้องเย็น ฟันโทษไม่แจ้งยอดครอบครอง "เนื้อสุกร"

ตำรวจและพาณิชย์จังหวัดหลายแห่งทั่วประเทศ กระจายกำลังตรวจค้นห้องเย็นและโกดังเก็บเนื้อสุกรและซากสัตว์ เพื่อตรวจสอบและป้องกันการกักตุน โดยพบห้องเย็นหลายแห่ง ไม่แจ้งยอดครอบครองเนื้อสุกรตามระเบียบใหม่ จึงถูกดำเนินคดี

พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์และพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบห้องเย็น 11 แห่งในจังหวัดสมุทรสาคร จากที่มีแผนเข้าตรวจค้นทั้งหมด 25 แห่ง ทั่วประเทศ


ซึ่งเฉพาะที่สมุทรสาคร พบบางบริษัทที่เนื้อสุกรไว้เกินกว่าที่กำหนด หรือไม่ได้แจ้งยอดที่ถูกต้อง ตามระเบียบใหม่ ซึ่งเจ้าของกิจการอ้างว่าเพิ่งจะทราบระเบียบใหม่


ขณะที่นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ระบุว่า มีห้องเย็นของ 4 บริษัท ที่แจ้งการครอบครองซากสุกร เกิน 5,000 กิโลกรัม ขณะที่อีกหลายกิจการ เพิ่งได้รับหนังสือประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาฯ เมื่อ 6 มกราคมที่ผ่านมา จึงอยู่ระหว่างทำเอกสารแจ้ง


ส่วนที่ขอนแก่น เจ้าหน้าที่กระจายกำลังตรวจค้นโกดังห้องเย็น 4 แห่ง คือเบทาโกร อุตสาหกรรม จำกัด , บริษัท โค-ดี-ซี-อี มาร์เกต , บริษัทซีพีเอฟ ประเทศไทย จำกัด และบริษัทสมชาย ซีฟู๊ดส์ ซึ่งทั้ง 4 จุด ไม่พบสิ่งปกติ โดยที่บริษัทเบทาโกร ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปสุกร มีสุกรคงค้าง 22 ตัน


แต่ที่ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าตรวจค้นห้องเย็น 3 แห่ง พบว่ามี 2 แห่ง ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนเดียวกัน ไม่มีเอกสารเคลื่อนย้าย-ค้าสัตว์ และค้าซากสัตว์ ประเภทไก่สด ที่ถูกต้อง เพื่อที่จะยืนยันกับเจ้าหน้าที่ได้ ส่วนภายในห้องเย็น พบชิ้นส่วนไก่และสุกร แช่เย็นในห้องเย็นจำนวนมาก


นายสัตวแพทย์มนัส เทพรักษ์ ปศุสัตว์จังหวัดฉะเชิงเทรา บอกว่าเจ้าหน้าที่อายัดสินค้าประเภทไก่สดไว้ เพราะเจ้าของไม่สามารถนำเอกสารมายืนยันได้ และจะตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีด้วย

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่ากรณีพบเนื้อสุกรในห้องเย็นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา กว่า 2 แสน กิโลกรัม เมื่อสองวันก่อนนั้น ล่าสุด พาณิชย์จังหวัดลงบันทึกตรวจสอบและแจ้งความเพื่อดำเนินคดี กับกิจการห้องเย็น ซึ่งเป็นผู้ครอบครองแทนผู้อื่น ตามข้อ 3 ในประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 ในฐานความผิดฐานไม่แจ้งการครอบครอง