สังคม

ตรวจซ้ำห้องเย็นนครปฐม สอบปมหมู 127 ตัน หายจากระบบ - DSI ส่งสำนวนฟัน 2 จนท.เอี่ยวหมูเถื่อน

โดย panwilai_c

8 ธ.ค. 2566

73 views

หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจค้นห้องเย็น 2 แห่ง ที่จังหวัดนครปฐม ที่พบว่าโอนเงินกว่า 259 ล้านบาท ให้บริษัทเว้ลท์ธี่ แอนด์ เฮ้ลทธี่ ฟู้ด จำกัด ที่ถูกดำเนินคดีฐาน สั่งนำเข้าหมูเถื่อน ซึ่งดีเอสไอจะออกหมายเรียกมาชี้แจงเพิ่ม และวันนี้ทีมพญานาคราช ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไปตรวจสอบซ้ำอีก พบว่าเจ้าของไม่สามารถสำแดงที่มาของเนื้อหมูที่เก็บอยู่ทั้ง 127 ตัน ได้ แต่ยังให้เวลาอีก 15 วัน เพื่อแสดงหลักฐานหากพ้นจากนี้ ต้องยึดไปทำลาย ขณะเดียวกัน บริษัทสยามแม็คโคร ยื่นเอกสารการซื้อตับหมู และเนื้อหมูให้ดีเอสไอตรวจสอบแล้ว



บริษัทสยามแมคโคร เผยแพร่ภาพการส่งมอบเอกสารหลักฐานให้หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อนแล้ว โดยยืนยันว่าเอกสารทุกชุดถูกต้องตามกฎหมาย ออกจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง มั่นใจในนโยบายการจัดซื้อสินค้าที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ 100 เปอร์เซนต์ ไร้ปัญหาสินคัาผิดกฎหมาย



หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เปิดเผยระหว่างแถลงความคืบหน้าวันนี้ว่าแม็คโครนำหลักฐานมาให้ก่อนกำหนด แต่ก็ยังขาดเอกสารบางส่วนที่จะขอรวบรวมส่งเพิ่มอีก โดยดีเอสไอจะนำหลักฐานเหล่านี้ ไปเปรียบเทียบระหว่างชุดที่บริษัทสายเรือแจ้งนำสินค้าเข้าท่าเรือ ชุดที่บริษัทชิปปิ้งแจ้งนำสินค้าออกจากท่าเรือ และชุดที่บริษัทเว้ลท์ธี่ นำแสดงระหว่างขายให้แมคโคร



ขณะที่การขยายผลสอบสวนบริษัทชิปปิ้งอีก 9 บริษัท พบเจ้าหน้าที่รัฐ จาก 2 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าเถื่อนดังกล่าวเกี่ยวข้องด้วย จึงเตรียมส่งสำนวนคดี ไม่น้อยกว่า 2 สำนวน ให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบด้วย



สำหรับการเข้าตรวจค้นห้องเย็น 2 แห่ง ของบริษัทหอมทองฟู้ด และบริษัททรัพย์หอมทองฟู้ด ที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งพบว่าเจ้าของห้องเย็นทั้งสองที่เจ้าของเป็นคนเดียวกัน ได้โอนเงินหลายครั้งรวม 259 ล้านบาท ให้บ.เว้ลท์ธี ที่ถูกดำเนินคดีฐานสั่งนำเข้าหมูเถื่อนนั้น ดีเอสไอจะออกหมายเรียกกรรมการบริษัท ที่เป็นเจ้าของห้องเย็นดังกล่าวมา ชี้แจงเส้นทางการเงินนั้นด้วย



อีกด้านหนึ่ง บ่ายวันนี้ชุดพญานาคราช ก็เข้าไปตรวจสอบห้องเย็น 2 แห่งนี้อีกครั้ง โดยปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม ยืนยันว่าข้อมูลทางระบบที่พบว่าเนื้อหมูหายไป 55 ตันนั้น ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด จนพบว่ายังอยู่ครบ ขณะที่รองหัวหน้าชุด ยืนยันกับข่าว 3 มิติว่า เจ้าของห้องเย็นนำเอกสารเคลื่อนย้ายสุกร หรือใบร.3 มาสำแดงจริง แต่เอกสารที่สำแดงนั้น ไม่ใช่ห้องเย็นที่เข้าตรวจสอบจึงถือว่าไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ เจ้าของห้องเย็นก็ไม่สามารถสำแดงที่มาของหมู 7 ตันในห้องเย็นที่ 1 และอีก 120 ตัน ในห้องเย็นที่ 2 ได้ จึงให้เวลาชี้แจง 15 วัน หากพ้นจากนี้จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ และต้องยึดไปทำลายทั้งหมด



โทษตามพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ กรณีไม่มีเอกสารเคลื่อนย้ายซากสัตว์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือไม่ปรับไม่เกิน 4 หมื่นหรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษกรณี นำเข้าหรือนำผ่าน โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 แสนหรือทั้งจำทั้งปรับ และสินค้านั้นต้องนำไปทำลาย



อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโทษปรับตามฐานความผิดดังกล่าวจะน้อยมาก หากเทียบกับมูลค่าสินค้าหลายร้อยล้านบาท แต่ในกรณีที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ และพบว่าเชื่อมโยงกับกรณี นำเข้าหมูเถื่อนหลบเลี่ยงภาษี จะมีความผิดฐานฟอกเงินที่จะนำไปสู่การยึด อายัดทรัพย์ได้

คุณอาจสนใจ